กรุงเทพฯ--19 มิ.ย.--ไอบีเอ็ม ประเทศไทย
วิวัฒนาการฐานข้อมูลสมบูรณ์แบบ เชื่อมฐานข้อมูลต่างระบบ
เพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจ และลดต้นทุนในการดำเนินธุรกิจ
บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ได้ประกาศตัวซอฟต์แวร์ฐานข้อมูล DB2 ใหม่ โดยพัฒนาระบบฐานข้อมูลให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยมีคุณสมบัติของการบริหารข้อมูลสามารถทำงานร่วมกับฐานข้อมูลต่างแฟลทฟอร์มกันได้โดยไม่ยุ่งยาก
ปัจจุบันไม่มีผู้ผลิตฐานข้อมูลรายใดในอุตสาหกรรมนี้ที่ให้ความสามารถจัดการข้อมูล(Data Management) ได้อย่างกว้างขวางเช่นนี้
การเชื่อมฐานข้อมูลกำลังเป็นประเด็นที่สำคัญที่ธุรกิจจำเป็นต้องให้ความสนใจ เนื่องจากปัจจุบันธุรกิจมีความจำเป็นในการจัดการกับข้อมูลจากหลายแหล่ง ต้องทำงานกับซอฟต์แวร์มากมายต่างเวนเดอร์และจำต้องพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่ๆ ให้ตรงกับความต้องการของธุรกิจที่เกิดขึ้น ฐานข้อมูลดังเช่น DB2 มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาของ e-business ซึ่งจะเป็นรากฐานของส่วนที่สำคัญที่สุดขององค์กร นั่นคือข้อมูล
จุดเด่นของ DB2 เวอร์ชัน 7.2 ดังต่อไปนี้:
- มีการพัฒนาคุณสมบัติเพื่อเชื่อมต่อกับ WebSphere Application Server และ MQSeries ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นชั้นนำของตลาด
- สนับสนุนมาตรฐาน Web Services ใหม่ ๆ เช่นมาตรฐานจาวาในเทคโนโลยี SOAP และ UDDI โดยไอบีเอ็มเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีที่มีการสนับสนุนและปรับมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง
- DB2 เป็นฐานข้อมูลเดียวที่สามารถทำงานร่วมกับฐานข้อมูลต่างแพลทฟอร์ม โดยสามารถขยายเพื่อต่อเชื่อมข้อมูล ง่ายต่อการขยายระบบในอนาคต สามารถเรียกใช้ข้อมูลทุกรูปแบบ และสามารถทำงานร่วมกับผลิตภัณฑ์ฐานข้อมูลอื่น ๆ เช่น Oracle, Sybase และ Microsoft SQL Server
การเชื่อมระบบเพื่อการทำอีบิสิเนส
การเชื่อมต่อระบบซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ในองค์กรเข้าด้วยกัน ช่วยให้ลูกค้าสามารถปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจของตนให้มีความสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานทางอีบิสิเนสของตนที่มีอยู่ และในวันนี้ ฐานข้อมูล DB2 ของไอบีเอ็ม เพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมต่อกับ Web Application Server ที่ได้รับการยอมรับสูงสุดในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการรวมกันทางเทคโนโลยีของ DB2 และ WebSphere Application Server ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น และพัฒนาแอพพลิเคชั่นได้รวดเร็วขึ้น
การรวมกันระหว่าง WebSphere Application Server เข้ากับ DB2 ทำให้ DB2 เป็นฐานข้อมูลที่เพียบพร้อมด้วยบริการเว็บที่สมบูรณ์แบบ รองรับมาตรฐานอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ที่กำลังเป็นที่นิยมอยู่เช่น มาตรฐาน SOAP และ UDDI
วันนี้ฐานข้อมูล DB2 ของไอบีเอ็ม ได้รวมความสามารถในการใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ MQSeries อย่างสมบูรณ์แบบมากขึ้น ที่ได้เพิ่มฟีเจอร์ในการทำ Messaging Queuing และ การจัดทำคลังข้อมูล หรือ DATA WAREHOUSING
การเชื่อมข้อมูล
สำหรับลูกค้าที่มีความประสงค์ที่จะรวมข้อมูลธุรกิจภายในกับการเชื่อมฐานข้อมูลโดยผ่านแอพพลิเคชั่นในการติดต่อระหว่างองค์กรสู่องค์กร การใช้ MQSeries และ WebSphere Application Server ร่วมกับมาตรฐาน XML นั้น DB2 จะช่วยให้ลูกค้าสามารถประกอบธุรกิจอีบิสิเนสของตนได้เร็วที่สุดในการรวมธุรกิจของตนกับ e-infrastructure ภายนอก
ความพยายามในการเชื่อมข้อมูลเพื่อการทำงานร่วมกันของไอบีเอ็ม เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับโครงสร้างพื้นฐานทางอีบิสิเนสด้วยฐานข้อมูลที่ต่างรูปแบบกัน จำเป็นต้องทำได้ง่ายและรวดเร็ว เนื่องมาจากในปัจจุบันนี้ลูกค้ามีความจำเป็นต้องใช้ฐานข้อมูลจากหลาย ๆ ระบบ นอกจากการรวมกับ MQSeries และ WebSphere แล้ว เวอร์ชันล่าสุดของ DB2 ยังอณุญาตให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูลที่เก็บไว้ในฐานข้อมูลของ Informix, Sybase, Microsoft SQL Server และ Oracle ได้ด้วย
ในขณะที่คู่แข่งขันอ้างว่าจะเสนอรูปแบบการเชื่อมข้อมูลที่ดีที่สุดผ่านซอฟต์แวร์เสริมมากมายที่ต้องซื้อเพิ่ม DB2 จะช่วยให้ผู้ใช้เข้าสู่ฐานข้อมูลและเชื่อมต่อกับระบบข้อมูลได้โดยตรง นอกจากนี้ DB2 ยังได้รวมความสามารถในการทำ Business Intelligence สะดวกในการเชื่อมต่อข้อมูลได้ง่ายกับโปรแกรมที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย เช่น SAP และ i2 Technologies ได้ ทำให้สามารถพัฒนาคลังข้อมูล (DATA WAREHOUSE) ได้ง่ายขึ้นและนำไปใช้งานได้เร็วขึ้น ซึ่งไม่มีเวนเดอร์ฐานข้อมูลรายใดที่พัฒนาฐานข้อมูลที่มีคุณสมบัติดังกล่าวได้ในปัจจุบัน DB2 ยังสามารถเชื่อมต่อ และ นำข้อมูลจาก Life Sciences แอพพลิเคชั่น เพื่อให้เกิดประโยชน์ในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีชีวภาพด้วย
ความเป็นผู้นำทางเทคโนโลยีา
DB2 เป็นฐานข้อมูลที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก ซึ่งเหนือกว่าคู่แข่งทั้งในด้านความสามารถ ความยืดหยุ่นในการขยายขนาด เสถียรภาพ และ ต้นทุนในการเป็นเจ้าของ (TCO) เมื่อเร็วๆ นี้ DB2 ทำลายสถิติในการวัดประสิทธิภาพหลายประเภท ทั้งในด้าน WEB TRANSACTION, BUSINESSINTELLIGENCE, และ APPLICATION WORKLOADS ในแพลทฟอร์มของ SAP, PeopleSoft และ i2 Technologies
เกณฑ์ในการวัดประสิทธิภาพเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพที่เหนือชั้นที่ DB2 สามารถทำธุรกรรมได้เร็วขึ้น ทำให้บริษัททำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพในการจัดการข้อมูลมากกว่าเดิม อีกทั้งประหยัดทั้งเงินและเวลา ซึ่งยังไม่มีเวนเดอร์ฐานข้อมูลรายใดที่จะสามารถเทียบเท่าได้
ผลที่น่าพึงพอใจจากเกณฑ์วัดประสิทธิภาพเหล่านี้ ทำให้บริษัทพัฒนาโปรแกรมชั้นนำ เช่น SAP,Siebel, PeopleSoft, i2 Technologies และ Ariba ยอมรับ DB2 ของไอบีเอ็มให้เป็นฐานข้อมูลอันดับแรก
กำหนดวันจำหน่าย DB2 เวอร์ชัน 7.2 จะจำหน่ายทั่วโลกในวันที่ 8 มิถุนายน 2001
ข้อมูลเกี่ยวกับ DB2 Universal Database ของไอบีเอ็มยน
ไอบีเอ็มเป็นผู้บุกเบิกในการทำธุรกิจอี-บิสิเนส ซึ่ง DB2 Universal Database เป็นฐานข้อมูลระดับโลกที่รองรับการทำอีบิสิเนสได้อย่างสมบูรณ์แบบ DB2 Universal Database เป็นฐานข้อมูลแรกทีสนับสนุนมัลติมีเดียและมีระบบการจัดการฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์ผ่านเว็บ (Relational Database Management) สามารถตอบสนองความต้องการของบริษัททุกขนาดตั้งแต่ขนาดเล็กถึงขนาดใหญ่ DB2 Universal Database มีคุณสมบัติสำคัญ ๆ เช่น Business Intelligence, Content Management, Enterprise Information Portals และ การทำอีบิสิเนส (e-business) ด้วยประสิทธิภาพชั้นนำและความน่าเชื่อถือของฐานข้อมูล DB2 Universal Database พร้อมด้วยเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตจะช่วยให้เข้าสู่ข้อมูลได้ง่ายขึ้น 24x7 ได้อย่างมั่นใจ ปัจจุบันมีผู้ใช้ DB2 มากกว่า 60 ล้านคนจากบริษัทกว่า 300,000 บริษัททั่วโลก ที่ใช้โซลูชันการจัดการข้อมูลของไอบีเอ็ม สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โปรดเยี่ยมชมเว็บไซต์ http://www.software.ibm.com/data
เผยแพร่โดย บริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด
ข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อศ คุณชูจิตต์ วัฒนล้ำเลิศ โทร. 273-4306
อีเมล์: chujit@th.ibm.com
กฤษณา ศิลประเสริฐ โทร. 273-4639
อีเมล์: krisana@th.ibm.com-- จบ--
-อน-