กรุงเทพฯ--20 เม.ย.--บลจ.กรุงไทย
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 95 ( KTFF95 ) อายุ 1 ปี เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 26 เมษายน 2559 เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศทั้ง100% ประกอบด้วย MTN ที่ออกโดย Emirates NBD PJSC เงินฝากประจำ Mashreqbank PSC (UAE ) , First Gulf Bank PJSC , Ahli bank QSC และ Union National Bank PJSC ผลตอบแทนประมาณ 1.85% ต่อปี
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่ายรอบใหม่ ( Roll Over ) ของกองทุนเปิดกรุงไทยประจำ 3 เดือน คุ้มครองเงินต้น 2 ( KTFIX3M2 ) เสนอขายถึงวันที่ 22 เมษายน 2559 อายุ 3 เดือน เน้นลงทุนในพันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย 81% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน ส่วนที่เหลือลงทุนในเงินฝากธนาคารพาณิชย์ ผลตอบแทนประมาณ 1.10% ต่อปี โดยทั้ง2 กองทุน ไม่เสียภาษี ณ ที่จ่าย
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการจัดการลงทุน มีมติจ่ายเงินปันผล กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าเทสโก้ โลตัส รีเทล โกรท ( TLGF ) ครั้งที่ 16 ในอัตรา0.2190 บาท ต่อหน่วย โดยจะทำการขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 26 เมษายน 2559 และปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 29 เมษายน 2559 พร้อมจ่ายเงินปันผลในวันที่ 18 พฤษภาคม 2559 โดยรวมป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 500 ล้านบาท
ส่วนอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศอายุคงเหลือตั้งแต่ 4 ปีขึ้นไป ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างประเทศ ในขณะที่นักลงทุนในประเทศชะลอการลงทุนในช่วงวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นยอดขายสุทธิจำนวน 3,747 ล้านบาท โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี อยู่ที่ 1.36% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 bps. อยู่ที่ 1.50% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7 bps. อยู่ที่ 1.72% ต่อปี ปัจจัยที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้ จะเป็นความคืบหน้าของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล แนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ทิศทางของการเคลื่อนย้ายเงินลงทุนระหว่างประเทศ และการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ต่างประเทศ
ด้านอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกา อายุคงเหลือตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปปรับตัวเพิ่มขึ้นตามแรงขายทำกำไรจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของตลาดหุ้น ราคาน้ำมันดิบ และตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่ออกมาดี ในขณะที่การปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกของ IMF ในช่วงกลางสัปดาห์ทำให้ตลาดยังคงคาดการณ์ว่า FED จะยังไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบ โดยสรุปอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 bps อยู่ที่ 0.74% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 bps. อยู่ที่ 1.22% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 bps. อยู่ที่ 1.76% ต่อปี