กรุงเทพฯ--29 ม.ค.--กระทรวงสาธารณสุข
นายแพทย์มงคล ณ สงขลา ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังตรวจเยี่ยมสถานีอนามัยและชุมชนในเขตจังหวัดกำแพงเพชร เกี่ยวกับการใช้ยาสมุนไพรว่า ปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขสนับสนุนภูมิปัญญาไทย มีการนำยาสมุนไพรมาใช้บำบัดรักษาโรคกันมาก และหลายตัวมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมในการรักษาโรคต่าง ๆ สามารถใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบันได้ จึงแนะนำให้แพทย์และเจ้าหน้าที่สถานีอนามัยหันมาใช้ยาสมุนไพรไทยทดแทนยาแผนปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งยาสมุนไพรที่มีการทดลองและพัฒนาประสิทธิภาพ จนได้รับการบรรจุเข้าในบัญชียาหลักแห่งชาติปี 2542 (บัญชียาจากสมุนไพร) และได้รับการประกาศใช้ในบัญชียาสมุนไพรเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2543 โดยมียาเดี่ยว 5 ตัว ได้แก่ ฟ้าทะลายโจร รักษาอาการท้องเสีย เจ็บคอ ขมิ้นชัน รักษาอาการท้องอืด จุกเสียด ไพร รักษาอาการกล้ามเนื้อปวดบวม ชุมเห็ดเทศ ใช้เป็นยาระบาย และพญายอ ใช้รักษาแผลในปาก เริม นอกจากนี้ยังมียาสูตรตำรับผสมอีก 3 สูตร คือ ยาประสะมะแว้ง ช่วยแก้อาการไอ ขับเสมหะ ยาแก้ไข และยาประสะไพร แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ เหล่านี้ล้วนเป็นยาที่ได้รับการบรรจุเข้าในบัญชียาแล้วทั้งสิ้น สามารถสั่งจ่ายให้ผู้ป่วยที่มีอาการได้ นายแพทย์มงคล ฯ กล่าวว่า สำหรับผู้ป่วยเอดส์ที่มีอาการทางผิวหนังและอาการอ่อนเพลียนั้น ใบพญายอสดนับว่าได้ผลดีเยี่ยม สามารถนำใบพญายอขยี้ผสมกับน้ำปูนใส ทาผิวหนัง อาการพุผอง แผลต่าง ๆ จะหาย และขอย้ำว่า การนำผลิตสด ๆ มาใช้นั้นจะเห็นผลได้เร็วกว่าในลักษณะแปรรูป และที่สำคัญคือ ประหยัดค่าใช้จ่ายนับหมื่นบาท ขณะนี้ได้แนะนำให้โรงพยาบาลและสถานีอนามัยและผู้ป่วยเอดส์ ที่มีพื้นที่เหลือว่าง ให้ปลูกต้นพญายอไว้ใช้เองในชุมชน นอกจากนี้ใบยังนำมาต้มดื่มแก้อาการอ่อนเพลียได้ด้วย--จบ--
-สส-