กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--การประปาส่วนภูมิภาค
การประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.) ตรวจสอบคุณภาพน้ำประปาทุกขั้นตอน ตั้งแต่แหล่งน้ำดิบจนถึงการสูบจ่ายไปยังบ้านเรือนประชาชนตามเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) แม้ต้องรับมือกับสถานการณ์ภัยแล้งที่ส่งผลกระทบในหลายพื้นที่
นายชุมพล โชคพงษ์อุดมชัย รองผู้ว่าการ (ปฏิบัติการ 4) รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ.เปิดเผยว่าน้ำประปาเป็นสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน กปภ.ในฐานะผู้ผลิตน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคตระหนักอยู่เสมอว่า น้ำประปาจะต้องสะอาดได้มาตรฐานก่อนส่งจ่ายถึงผู้บริโภค ประกอบกับขณะนี้หลายพื้นที่ในเขตบริการของ กปภ. 74 จังหวัดทั่วประเทศ (ยกเว้น กรุงเทพฯ นนทบุรี และสมุทรปราการ) ได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยแล้งและปัญหาน้ำเค็มรุกล้ำกปภ.จึงต้องควบคุมดูแลในกระบวนการผลิตน้ำประปาทุกขั้นตอน ตั้งแต่แหล่งน้ำดิบ ระบบผลิต ระบบจ่าย ตลอดจนควบคุมการใช้สารเคมี เพื่อให้ได้น้ำประปาที่สะอาดปลอดภัยตามเกณฑ์มาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) โดย กปภ.มีอาคารปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ หรือ Lab Cluster สำหรับนักวิทยาศาสตร์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางในการตรวจสอบน้ำประปาให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนด เพื่อเข้าสู่ระบบ ISO/IEC 17025 ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลและช่วยแก้ไขปัญหาเมื่อพบน้ำไม่ได้คุณภาพ พร้อมทั้งแนะนำการใช้สารเคมีให้กับ กปภ.สาขา และหน่วยบริการอื่น ๆ ในพื้นที่ใกล้เคียงจำนวน 20 แห่ง รวมกับห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ประจำ กปภ.เขต และสำนักงานใหญ่อีก 11 แห่ง รวมทั้งสิ้น 31แห่ง เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการใช้งานและครอบคลุมทุกภูมิภาคทั่วประเทศ
รักษาการแทนผู้ว่าการ กปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ต้องเผชิญปัญหาภัยแล้ง กปภ.ขอยืนยันว่า ณ ขณะนี้ กปภ.ทั้ง 234 สาขาทั่วประเทศยังคงให้บริการประชาชนได้ตามปกติ มีเพียงบางสาขาที่ต้องบริหารจัดการน้ำโดยการปรับลดแรงดันการจ่ายน้ำ และจ่ายน้ำเป็นช่วงเวลา อย่างไรก็ตาม กปภ.ต้องขอขอบคุณประชาชนที่ให้ความร่วมมือใช้น้ำอย่างประหยัดและรู้คุณค่า ในสถานการณ์ภัยแล้งเช่นนี้ และขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าน้ำประปาของ กปภ. สะอาด ได้มาตรฐาน มีการตรวจสอบคุณภาพในทุกขั้นตอน