กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีจังหวัดได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน 8 จังหวัด พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว อีกทั้งแจ้งเตือน 17 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง เตรียมรับมือพายุฤดูร้อน โดยจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ระยะนี้หลายพื้นที่ของประเทศเกิดพายุฤดูร้อน โดยมีพื้นที่ได้รับผลกระทบรวม 8 จังหวัด 19 อำเภอ 21 ตำบล 33 หมู่บ้าน บ้านเรือนเสียหาย 229 หลัง ได้แก่ นครพนม ชัยภูมิ หนองบัวลำภู นครราชสีมา กาฬสินธุ์ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ และอุดรธานี รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ห่วงใยประชาชนหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ได้รับผลกระทบจากพายุฤดูร้อน จึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยร่วมกับหน่วยทหารและจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุลมแรงและลูกเห็บที่ทำให้บ้านเรือนได้รับความเสียหายตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยนำเครื่องอุปโภคบริโภค วัสดุซ่อมแซมบ้านเรือน เช่น กระเบื้องมุงหลังคา สังกะสี ตะปู ไม้ เป็นต้น แจกจ่ายแก่ผู้ประสบภัย หรือจ่ายเงินช่วยเหลือตามความเหมาะสมและสภาพความเสียหาย อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศพบว่า ในวันนี้ (21 เมษายน 2559) บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคกลาง จะมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นได้ โดยมีลักษณะฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางพื้นที่ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานพื้นที่ 17 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ ติดตามข้อมูลสภาพอากาศ พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงตรวจสอบสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่สาธารณะให้มีความมั่นคงแข็งแรง แจ้งเตือนประชาชนให้ระมัดระวังอันตรายจากพายุลมแรง โดยอยู่ให้ห่างจากต้นไม้ใหญ่ ป้ายโฆษณา และสิ่งก่อสร้างที่ไม่แข็งแรง เพื่อป้องกันอันตรายจากการล้มทับ ทั้งนี้ ฝนที่ตกลงมาในช่วงนี้จะช่วยเติมน้ำในแหล่งน้ำต่างๆ ขอให้ประชาชนสำรองและกักเก็บน้ำไว้ใช้ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากภัยแล้งให้มีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอ สำหรับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากพายุฤดูร้อน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ ทางสายด่วนนิรภัย 1784ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th