กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
ฟิทช์ เรทติ้งส์ ประกาศคงอันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศ (National Insurer Financial Strength (IFS)) ของ บริษัท เอไอเอ จำกัด – ประเทศไทย (เอไอเอ ประเทศไทย) ที่ 'AAA(tha)' แนวโน้มมีเสถียรภาพ
ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินสะท้อนถึงสถานภาพทางกฎหมายของเอไอเอ ประเทศไทย ที่มีสถานะเป็นสาขาของ AIA Company Limited (AIACL) อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการที่ AIACL มีเครือข่ายทางการตลาดที่แข็งแกร่ง ผลการดำเนินงานที่อยู่ในระดับที่ดีต่อเนื่องและระดับเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ AIACL เป็นบริษัทประกันชีวิตชั้นนำในภูมิภาคเอเชียและมีการดำเนินธุรกิจใน 18 ประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค และมีกรมธรรม์ที่ยังมีผลบังคับใช้อยู่มากกว่า 29 ล้านกรมธรรม์และ AIACL มีทรัพย์สินรวมที่ 168 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ณ สิ้นเดือนพฤษจิกายน 2558
AIACL ยังคงมีความสามารถในการทำกำไรที่แข็งแกร่ง โดยบริษัทมีอัตราส่วนกำไรก่อนภาษีต่อสินทรัพย์ที่ 2% ในปี 2558 (ปีงบการเงินสิ้นสุดเดือนพฤษจิกายน) บริษัทมีเบี้ยประกันรับใหม่เพิ่มขึ้น 14% ต่อปี เป็น 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีสัดส่วนเบี้ยประกันแบบต่ออายุ (regular premium) ที่ 88% ของเบี้ยประกันรับใหม่รวมในปี 2558 โดยปัจจัยดังกล่าวช่วยสนับสนุนการเติบโตของมูลค่าธุรกิจใหม่ (new business growth) ของบริษัทให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 26% ในปี 2558 โดยอัตราการเติบโตในตลาดต่างๆ ส่วนใหญ่อยู่ในระดับสองหลัก (double-digit growth) เมื่อเทียบกับปี 2557 ประเทศไทยเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของ AIACL รองจากฮ่องกง โดยกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีและรายได้เบี้ยประกันจากประเทศไทยมีสัดส่วนที่ 17.2% และ 16.7% ของกำไรจากการดำเนินงานหลังหักภาษีและเบี้ยประกันรวม (total weighted premium income) ของ AIACL ในปี 2558 ตามลำดับ
แนวโน้มมีเสถียรภาพสะท้อนถึงการที่ฟิทช์เชื่อว่า AIACL จะสามารถรักษาความแข็งแกร่งทางการเงินไว้ได้อย่างต่อเนื่องในระยะปานกลางถึงระยะยาว
เอไอเอ ประเทศไทย เป็นบริษัทประกันชีวิตที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีส่วนแบ่งทางการตลาดในด้านเบี้ยประกันรวมที่ 21.9% ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2558 นอกจากนี้บริษัทยังมีระดับเงินกองทุนตามเกณฑ์ของประเทศไทยในการกำกับความเสี่ยงด้านเงินกองทุน (Risk-based capital- RBC) ที่ 460% ณ สิ้นเดือนกันยายน 2558 ซึ่งอยู่ในกลุ่มที่สูงที่สุดในอุตสาหกรรมและสูงกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 140% อย่างมาก เอไอเอ ประเทศไทย ยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสะท้อนได้จากการที่บริษัทมีอัตรากำไรจากมูลค่าของธุรกิจใหม่ (new business margin) ที่ปรับตัวดีขึ้นเป็น 75.8% ในปี 2558 จาก 63.2% ในปีก่อน และอัตราส่วนกำไรสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้นที่ 11.6% ต่อปี ในไตรมาสที่ 3 ปี 2558
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต
การปรับตัวอ่อนแอลงอย่างมีนัยสำคัญของโครงสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน (Credit profile) ของ AIACL อาจส่งผลกระทบในเชิงลบต่ออันดับความแข็งแกร่งทางการเงินของเอไอเอ ประเทศไทย ซึ่งอาจรวมถึงการปรับตัวลดลงอย่างมากของผลการดำเนินงานของ AIACL เช่น ผลตอบแทนก่อนภาษีต่อสินทรัพย์ลดลงต่ำกว่า 1% อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนเพิ่มขึ้นเกิน 20% และอัตราส่วนการลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอันดับเครดิตต่ำกว่าระดับที่สามารถลงทุนได้ (below investment-grade bonds) ต่อทุนบริษัทเกิน 40% อย่างไรก็ตาม ฟิทช์คาดว่าความเสี่ยงดังกล่าวไม่น่าจะเกิดขึ้นในระยะปานกลาง
อันดับความแข็งแกร่งทางการเงินภายในประเทศของเอไอเอ ประเทศไทย อยู่ในระดับที่สูงที่สุดแล้ว ดังนั้นอันดับเครดิตจึงไม่สามารถที่จะได้รับการปรับเพิ่มอันดับ