กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทยขยายช่องทางให้บริการสินเชื่อกรุงไทยแฟ็กเตอริง ให้ลูกค้าส่งเอกสารทางการค้าเพื่อขอเบิกใช้วงเงิน ผ่านทางไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการจัดส่งเป็นธนาคารแรก โดยลูกค้าจะได้รับเงินสินเชื่อภายใน 24 ชั่วโมง ตั้งเป้ายอดสินเชื่อธุรกิจแฟ็กเตอริงปีนี้ 2 หมื่นล้านบาท และขยายส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 ภายในปีหน้า
นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยภายหลังลงนามในสัญญาความร่วมมือกับ นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บจก. ไปรษณีย์ไทยว่า ธนาคารร่วมกับไปรษณีย์ไทย ขยายช่องทางการให้บริการสินเชื่อกรุงไทยแฟ็กเตอริงผ่านไปรษณีย์ โดยเป็นธนาคารแห่งแรกที่อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้ว สามารถส่งเอกสารทางการค้า เพื่อขอเบิกใช้วงเงิน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทั่วประเทศ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการจัดส่ง
"ทางไปรษณีย์จะจัดส่งเอกสารให้ลูกค้าในทุกพื้นที่ทั่วประเทศถึงธนาคาร ภายใน 24 ชั่วโมง ขณะเดียวกันธนาคารกรุงไทยจะเบิกเงินสินเชื่อให้ลูกค้าใช้ได้ในทันทีภายใน 24 ชั่วโมง เมื่อได้รับเอกสารครบถ้วน ซึ่งสินเชื่อกรุงไทยแฟ็กเตอริง เป็นสินเชื่อระยะสั้น ไม่ต้องใช้หลักประกัน สำหรับผู้ประกอบการใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ โดยธนาคารรับซื้อหรือรับโอนสิทธิลูกหนี้การค้า ในอัตราสูงสุด 90% ของมูลค่าสินค้าที่ลูกค้าส่งมอบสินค้าหรือบริการเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างรอเรียกเก็บเงินตามระยะเวลาการให้เครดิตทางการค้า เป็นการเสริมสภาพคล่อง เพิ่มความคล่องตัวให้กับกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs มากยิ่งขึ้น โดยในปีนี้ธนาคารตั้งเป้ายอดสินเชื่อธุรกิจแฟ็กเตอริง จำนวน 20,000 ล้านบาท และเดินหน้าขยายส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 2 ภายในปี 2560"
นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บจก. ไปรษณีย์ไทย กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทย พร้อมให้บริการจัดส่งเอกสารในการขอเบิกใช้วงเงินสินเชื่อกรุงไทยแฟ็กเตอริงด้วยบริการธุรกิจตอบรับ EMS ในประเทศ ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศไทย นอกจากนี้ ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบสถานะการฝากส่งเอกสารได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านทางเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th แอพลิเคชั่น Track&Trace และ THP Contact Center 1545 ได้อีกด้วย ซึ่งไปรษณีย์ไทยเชื่อมั่นว่า ศักยภาพของเครือข่ายที่ครอบคลุมและแข็งแกร่ง จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้ผู้ประกอบการธุรกิจไทยเติบโตอย่างยั่งยืน