กรุงเทพฯ--21 เม.ย.--ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทีจีส์
เมื่อเร็วๆ นี้กระแสเครื่องยนต์เทอร์โบได้กลับมาเป็นที่สนใจในตลาดประเทศไทยอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มตลาดรถเก๋งขนาดกลางหรือ C เซ็กเม้นต์ โดยฟอร์ด ประเทศไทย ได้นำเทคโนโลยีเครื่องยนต์ อีโค่บูสท์ เทอร์โบ (EcoBoost Turbo) รุ่นใหม่ มาใน ฟอร์ด โฟกัส ใหม่ อีโค่บูสท์ เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร ซึ่งเพิ่งเปิดตัวไปในงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 37 ที่ผ่านมา
เครื่องยนต์ อีโค่บูสท์ เปิดตัวครั้งแรกในปีพ.ศ. 2552 ในรถฟอร์ด ทอรัส เอสเอชโอ ด้วยเครื่องยนต์ อีโค่บูสท์ V6 ขนาด3.5 ลิตร โดยในปีพ.ศ. 2553 นับเป็นปีแรกที่มีการผลิตเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ ตลอดทั้งปี โดย "อีโค่บูสท์ เทอร์โบ" คือ เทคโนโลยีเครื่องยนต์ ระดับโลกของฟอร์ด ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพโดดเด่น ทั้งในด้านสมรรถนะความแรงและความสามารถในการประหยัดน้ำมัน การันตีด้วยการคว้ารางวัลจากงานประกวดเครื่องยนต์นานาชาติยอดเยี่ยม (International Engine of The Year) เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน ในปี 2558 จากเครื่องยนต์รุ่น อีโค่บูสท์ 1.0 และนับเป็นรางวัลที่ 8 ภายในระยะเวลาเพียง 4 ปี
ปัจจุบันเครื่องยนต์ อีโค่บูสท์ เทอร์โบ ผลิตขึ้นที่เมืองโคโลญ ประเทศเยอรมนี เมืองไครโอวา ประเทศโรมาเนีย และเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน ซึ่งมีจำหน่ายใน 72 ประเทศทั่วโลก โดยฟอร์ดได้ผลิตเครื่องยนต์ตระกูลอีโค่บูสท์ เทอร์โบ อันทรงพลังขนาดต่างๆ ทั้งเครื่องยนต์แบบ 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร, 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร 1.6 ลิตร 2.0 ลิตร และ 2.3 ลิตร เครื่องยนต์ แบบ V6 ขนาด 2.7 ลิตร และ 3.5 ลิตร โดยเครื่องยนต์แบบหลังสุด ได้รับการพัฒนาขึ้นสำหรับติดตั้งในรถ ฟอร์ด จีที รุ่นใหม่ ที่จะใช้ลงแข่ง ณ สนาม เลอ ม็องส์ ประเทศฝรั่งเศสในปี 2559 นี้
เทคโนโลยีเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ เทอร์โบ ที่ได้รับการติดตั้งในฟอร์ด โฟกัส ใหม่ รุ่นล่าสุดนี้ เป็นเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร แบบ 4 ลูกสูบ ที่รองรับการใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ให้กำลังสูงสุด 180 แรงม้า ที่ 6,000รอบต่อนาที และแรงบิด 240 นิวตันเมตร ที่ 1,600 – 5,000 รอบต่อนาที มอบพละกำลังที่ดีกว่าเครื่องยนต์ขนาด 2.0 ลิตรทั่วไป และยังประหยัดน้ำมันในอัตราประมาณ 14 กิโลเมตร ต่อ 1 ลิตร และเพื่อการขับขี่สนุกและแรงทันใจมากยิ่งขึ้น ฟอร์ด โฟกัส อีโค่บูสท์ เทอร์โบ 1.5 ลิตร ยังมาพร้อม ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัย (Paddle Shift) ที่ช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์บนพวงมาลัยได้อย่างรวดเร็วได้ โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย
เทคโนโลยีเครื่องยนต์ อีโค่บูสท์ทำงานด้วยระบบเทอร์โบชาร์จ (Turbo Charge) ระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงแบบไดเรคอินเจคชั่น (GTDi – Gasoline Direct Injection) และระบบแปรผันแคมชาฟท์แบบอิสระคู่ (Ti-VCT) เพื่อให้เครื่องยนต์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด บล็อกเครื่องยนต์อะลูมิเนียมใหม่ยังช่วยลดน้ำหนักของเครื่องยนต์ รวมถึงช่วยเพิ่มสมรรถนะและประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น
กระบอกลูกสูบใหม่ที่ช่วยเพิ่มการระบายความร้อน และท่อไอเสียแบบรวมช่วยให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยการส่งผ่านปริมาณอากาศที่พอเหมาะไปยังเครื่องยนต์ทำให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุด นอกจากนี้ ท่อไอเสียแบบรวมยังช่วยลดระยะการส่งก๊าซไอเสียจากกระบอกสูบไปยังเทอร์โบชาร์จซึ่งจะช่วยลดอาการรอรอบเทอร์โบ (Turbo-lag) ตอนที่รถต้องการแรงบิดอย่างรวดเร็ว การปรับปรุงพัฒนาระบบควบคุมเครื่องยนต์ใหม่นี้ ยังช่วยยกระดับการทำงานของเครื่องยนต์ ที่มอบความเงียบและประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
ด้วยนวัตกรรมทั้งหมดนี้ เทคโนโลยีเครื่องยนต์อีโค่บูสท์ เทอร์โบจึงได้รับรางวัลระดับนานาชาติอื่นๆ อีกหลายรางวัล อาทิ รางวัล International Paul Pietsch Award 2013 สาขานวัตกรรมด้านเทคโนโลยี จากประเทศเยอรมนี รางวัลRoyal Academy of Engineering Colin Campbell Mitchell รางวัล Dewar Trophy จากราชยานยนต์สโมสรในประเทศอังกฤษ และรางวัล Breakthrough Award จากนิตยสาร Popular Mechanics ในประเทศสหรัฐอเมริกา
ฟอร์ด มีความภูมิใจกับเทคโนโลยีเครื่องยนต์อีโค่บูสท์เป็นอย่างยิ่ง โดยเทคโนโลยีนี้ได้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของฟอร์ดในการค้นคว้านวัตกรรมใหม่ๆ ที่ช่วยให้ฟอร์ดสามารถสร้างสรรค์และผลิตเครื่องยนต์ที่ดีที่สุด พร้อมคงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีในตลาดรถยนต์อย่างแข็งแกร่งต่อไป