กรุงเทพฯ--22 ส.ค.--สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีฯ
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วท.) ระดมความคิดพัฒนาไวน์และน้ำผลไม้ ช่วยแก้ปัญหาราคาผลไม้ตกต่ำ โดยวท. สามารถนำผลไม้ไทยทุกชนิดมาผลิตเป็นไวน์ได้ พร้อมถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เกษตรกร
เมื่อวานนี้ (21 ส.ค.) ดร.อาทิตย์ อุไรรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม เป็นประธานในพิธีเปิด การสัมมนาระดมความคิดเรื่อง “ไวน์คองเกรส: โอกาสทองของไวน์และน้ำผลไม้ไทย” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งจัดขึ้นโดย วท. นางสุนันทา รามัญวงศ์ รองผู้ว่าการบริหาร รักษาการในตำแหน่งผู้ว่า วท. กล่าวว่า เพื่อแก้ปัญหาปริมาณผลไม้ของไทยบางฤดูกาลมีปริมาณเกินความต้องการและราคาตกต่ำ ขณะที่ปีหนึ่ง ๆ ไทยต้องสั่งนำเข้าไวน์จากต่างประเทศเป็นมูลค่าหลายร้อยล้านบาท ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2543 ได้สั่งนำเข้าไวน์แล้วกว่า 1.9 ล้านลิตร คิดเป็นมูลค่ากว่า 104 ล้านบาท รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ จึงได้มอบหมายให้ วท. ดำเนินโครงการผลิตไวน์และน้ำผลไม้ไทย การจัดสัมมนาจะระดมความคิดเห็นจากเกษตรกร นักวิชาการและผู้เกี่ยวข้องทุกภาค หาแนวทางการวิจัยและพัฒนาผลไม้ไทย เป็นไวน์ และน้ำผลไม้ และหาแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรด้วย ซึ่งถือเป็นมิติใหม่ของการท่องเที่ยวในประเทศ คือ เป็นการเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้าชมในแหล่งเพาะปลูกผลไม้ที่นำมาผลิตเป็นไวน์ ทำให้เกิดการสร้างรายได้ การสัมมนาจะทำให้เกิดกรอบของการปฏิบัติงานที่ชัดเจนเป็นรูปธรรม
ด้าน ดร.สุภาพ อัจฉริยศรีพงษ์ นักวิชาการ 9 ศูนย์จุลินทรีย์ วท. กล่าวว่า ทาง วท.สามารถผลิตไวน์จากผลไม้ไทยทุกชนิด ผลไม้พื้น ๆ เช่น เงาะ ลำไย กระท้อน ฝรั่ง สามารถนำมาผลิตไวน์ได้ ไวน์ผลไม้ไทยจะมีรสชาติและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ในส่วนเทคนิคการผลิตไม่มีปัญหาแล้ว ตอนนี้ ก็ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคว่ามีความต้องการมากน้อยแค่ไหน ซึ่งผู้บริโภคส่วนใหญ่จะเคยชินกับไวน์ที่นำเข้าจาก ต่างประเทศ และในประเทศไทยก็ยังไม่มีผู้ผลิตไวน์ผลไม้ไทยออกมาจำหน่าย จะผลิตแต่ไวน์จากองุ่น เพราะเป็นที่นิยม ส่วนราคาไวน์ผลไม้ไทยที่ผลิตได้จะราคาถูกกว่านำเข้าจากต่างประเทศ ราคาตกขวดละประมาณ 200 บาท
ดร.สุภาพ กล่าวด้วยว่า โครงการโครงการผลิตไวน์และน้ำผลไม้ไทย จะมีการถ่ายทอดเทคนิคในการผลิตไวน์และน้ำผลไม้ เพื่อให้แหล่งที่มีผลไม้จำนวนมากได้มีการผลิตไวน์ขึ้น แก้ปัญหาผลไม้ล้นตลาด โดยจะถ่ายทอดเทคโนโลยีให้กลุ่มเกษตรกรในจังหวัดใกล้เคียงก่อน เช่น นครปฐม ราชบุรี ระยอง นอกจากนี้การคัดเลือกเกษตรกรเข้าโครงการจะดูด้วยว่ามีแหล่งท่องเที่ยวและสวนผลไม้หรือไม่ ถ้าเกษตรกรที่มีความสนใจจะเข้าร่วมโครงการให้รวมเป็นกลุ่มติดต่อที่ วท. โทรศัพท์ 579-1121-30 ยินดีถ่ายทอดเทคโนโลยีให้--จบ--
-นศ-