กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--ธนาสิริ กรุ๊ป
ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น บมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป หรือ THANA มีมติเป็นเอกฉันท์จ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 20 ล้านบาท หรือร้อยละ 76 ของกำไรสุทธิ พร้อมเปิดใหม่ 4 โครงการรวมมูลค่ากว่า 2,275 ล้านบาท และตุนที่ดินเตรียมไว้พัฒนาอีก 4 แปลง เพื่อรองรับเป้าหมายการเติบโตอีกกว่า 15-20 %
นายสุทธิรักษ์ เสถียรภาพอยุทธ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THANA เปิดเผยว่า บริษัท ธนาสิริ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทบ้านจัดสรรพร้อมที่ดินเพื่อขาย ประเภททาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยว โดยบริษัทจะเป็นผู้พัฒนาโครงการ และเป็นเจ้าของโครงการ เน้นการพัฒนา โครงการในเขตปริมณฑล โดยเน้นทำเลย่านจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพ โดยปัจจุบันบริษัทพัฒนาโครงการไปแล้วทั้งสิ้น 22 โครงการ จำนวน 2,241 ยูนิต มูลค่า 7,902 ล้านบาท คิดเป็นราคาขายเฉลี่ยที่ 3.58 ล้านบาท/ยูนิต โดยมีโครงการที่ปิดการขายไปแล้ว 14 โครงการ จำนวน 1,177 ยูนิต มูลค่า 3,808 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ยที่ 3.24 ล้านบาท เป็นโครงการที่จังหวัดนนทบุรีจำนวน 9 โครงการ และที่จังหวัดภูเก็ตอีก 5 โครงการ จากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2559 ของบมจ.ธนาสิริ กรุ๊ป หรือ THANA ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในวันนี้ (21 เมษายน 2559) ที่ประชุมฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ในการจัดสรรกำไรจากผลการดำเนินงานปี 2558 จำนวน 1,402,919 บาท เพื่อเป็นทุนสำรองตามกฎหมาย นอกจากนี้ยังอนุมัติการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.08 บาท คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 20 ล้านบาท หรือร้อยละ 76 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการจ่ายเงินปันผลที่บริษัทกำหนดไว้ (ไม่น้อยกว่าร้อยละ 40) โดยกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิในการรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 29 เมษายน 2559 และดำเนินการจ่ายเงินปันผลภายในวันที่ 19 พฤษภาคม 2559
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปี 2558 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายอยู่ที่ 879 ล้านบาท มียอดโอน 843 ล้านบาท มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 33.2 โดยได้มาจากโครงการในปัจจุบันที่บริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการในปัจจุบันจำนวนทั้งสิ้น 8 โครงการโดยเป็นโครงการที่นนทบุรี 7 โครงการได้แก่ ธนาสิริ ราชพฤกษ์-ท่าน้ำนนท์, เดอะคลัสเตอร์ วิลล์ 4 ราชพฤกษ์ – สิรินธร, ไพร์มเพลส เดอะกรีนเนอรี่-บางใหญ่, ธนาวิลเลจ พระราม 5 – บางใหญ่, ธนาวิลเลจ2 พระราม 5 – บางใหญ่, ธนาซิโอ รัตนาธิเบศร์ และ ธนาฮาบิแทต ราชพฤกษ์-สิรินธร จำนวน 1,030 ยูนิต มูลค่า 4,021 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ย 3.9 ล้านบาท และโครงการที่สกลนคร 1 โครงการ คือ สิริวิลเลจ สกลนคร – แอร์พอร์ต จำนวน 34 ยูนิต มูลค่า 73 ล้านบาท ราคาขายเฉลี่ย 2.14 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการ 4,094 ล้านบาท
"กลยุทธ์การดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2559 บริษัท ได้ประมาณการยอดจองและยอดโอนไว้ที่ 850-1,000 ล้านบาทจากการเปิดขายโครงการใหม่ 4 โครงการตามแผนงาน ในจังหวัดนนทบุรี 3 โครงการคือ ธนาคลัสเตอร์ ราชพฤกษ์-สถานีบางพลู มูลค่าโครงการ 334 ล้านบาท, ธนาคลัสเตอร์ สถานีเซ็นทรัล-บางใหญ่ มูลค่าโครงการ 375 ล้านบาท และ ธนาฮาบิแทต 2 ราชพฤกษ์-สิรินธร มูลค่าโครงการ 860 ล้านบาท และ 1 โครงการในจังหวัดอุดรธานี คือ สิริวิลเลจ อุดรธานี-แอร์พอร์ต มูลค่าโครงการ 706 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 4 โครงการมูลค่า 2,275 ล้านบาท พร้อมทั้งมีการปรับแผนงานก่อสร้างให้สอดคล้องกับสภาวะยอดขายทุกไตรมาส พัฒนาศักยภาพและบุคลิกภาพทั้งทีมขาย ทีมก่อสร้าง และบริหารหลังการขาย พัฒนามาตรฐานงาน และการตรวจสอบคุณภาพงานสาธารณูปโภคและส่วนกลาง พัฒนาประสิทธิภาพ และเร่ง Speed ของส่วนงานสนับสนุนโครงการทุกฝ่าย และมีการจัดทำ Brand Standards & Budgeting ในส่วนของลูกค้ามีการบริหารจัดการแยกส่วนลูกค้าและก่อสร้าง มีบ้านสร้างเสร็จพร้อมขาย (On-Shelf) พร้อมขาย 5-10 หลัง ตรวจรับมอบบ้านภายใน 2 ครั้ง ลดระยะเวลาจากจองถึงโอนให้ได้ภายใน 40 วัน" กรรมการผู้จัดการกล่าวในที่สุด