กรุงเทพฯ--22 เม.ย.--IR network
ผู้ถือหุ้น บมจ.ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ (TACC) โหวตหนุนจ่ายเงินปันผลประจำปี"58 เป็นเงินสดในอัตรา 0.04 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายในวันที่ 19 พ.ค.นี้ "ชัชชวี วัฒนสุข"มั่นใจปี"59 โตไม่ยั้ง รายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% หลังได้รับโอกาสจาก 7-Eleven ให้เพิ่มจุดจำหน่ายกาแฟลาเต้ จากเดิม 2,500 แห่ง ขยายเป็น 5,000 แห่ง เนื่องจากความนิยมเพิ่มสูงขึ้น ส่วน ชานม ชาเย็น และชามะนาว ในมุมกาแฟสด เติบโตตามการขยายจำนวนมุมกาแฟสด (All Cafe) ในร้าน 7-Eleven กว่าเท่าตัว นอกจากนี้ ยังคง เดินหน้าติดตั้งโถกดเครื่องดื่มร้อนใน 7-Eleven ตามแผน ภายในสิ้นปีแตะ 750 เครื่อง ปี"60 ติดตั้งเพิ่มอีก 750 เครื่อง รวมเป็น 1,500 เครื่อง กระจายทั่วไทย ดันรายได้กระฉูด!!! พร้อมส่งสินค้าบุกตลาดกัมพูชา จีน และลาว รองรับเปิดเสรีเออีซี ดันสัดส่วนรายได้ต่างประเทศขยับขึ้นเป็น 12%
นายชัชชวี วัฒนสุข ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2559ในวันที่ 21 เมษายน 2559 ที่ผ่านมามีมติจ่ายเงินปันผลประจำปี 2558 ในรูปของเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.04 บาท กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 28 เมษายน 2559 และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนเพื่อการรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นตามมาตรา 225ของพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ.2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 29 เมษายน2559 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2559
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2559 คาดว่าจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ โดยจะเห็นภาพที่ชัดเจนตั้งแต่ไตรมาส 1/59 หลังได้รับโอกาสจาก 7-Eleven ให้เพิ่มจุดจำหน่ายกาแฟลาเต้ จากเดิม 2,500 แห่ง ขยายเป็น 5,000 แห่ง เนื่องจากความนิยมเพิ่มสูงขึ้น ส่วน ชานม ชาเย็น และชามะนาว ในมุมกาแฟสด เติบโตตามการขยายจำนวนมุมกาแฟสด (All Cafe) ในร้าน 7-Eleven กว่าเท่าตัว เพิ่มเป็น 2,300 จุด จากปีก่อนมีเพียง 1,000 จุด หรือเพิ่มขึ้น 1.3 เท่า
ขณะเดียวกันยังคงเดินหน้าติดตั้งเครื่องกดเครื่องดื่มร้อนอัตโนมัติ (Vending Machine) ตามแผน โดยปัจจุบันติดตั้งแล้ว จำนวน 45 เครื่อง และมี List รายชื่อที่รอติดตั้งอีกจำนวน 600 สาขา โดยคาดว่าภายในสิ้นปี 2559 จะมีทั้งสิ้น 750 เครื่อง ปี 2560 ติดตั้งเพิ่มอีก 750เครื่อง รวมเป็น 1,500 เครื่อง กระจายใน 7-Eleven ทั่วประเทศตามแผน มูลค่าลงทุนรวม 120 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่ระดมทุนได้จากการขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในปีที่ผ่านมา
"ในปีนี้ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จาก 1,004 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากรายได้จากธุรกิจที่มีการร่วมพัฒนา (B2B) ร่วมกับ 7-Eleven ซึ่งถือว่า 7-Eleven มอบความไว้วางใจและเป็นคู่ค้าพันธมิตรกัน ซึ่งในปีนี้คาดว่าสัดส่วนรายได้จาก B2Bจะอยู่ที่ 80-85% ของรายได้รวม ส่วนที่เหลือ 15-20% เป็นรายได้ที่มาจากสินค้าที่จำหน่ายออกสู่ผู้บริโภคโดยตรง (B2C) ภายใต้แบรนด์ของบริษัท เช่น เครื่องดื่มชาเขียว "เซนย่า" กาแฟ "วี-สลิม" เครื่องดื่ม"ณ อรุณ" และเครื่องดื่ม "สวัสดี""นายชัชวีกล่าว
ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ที.เอ.ซี.คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) (TACC) กล่าวอีกว่า บริษัทฯเตรียมขยายตลาดไปยังประเทศกัมพูชา จีน และลาว ซึ่งถือเป็นตลาดที่มีศักยภาพ เพื่อรองรับการเติบโตที่แข็งแกร่ง หลังเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศเพิ่มเป็น 12% จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 8% ของรายได้รวม และอยู่ระหว่างศึกษาการขยายช่องทางการส่งออกในต่างประเทศเพิ่ม