กรุงเทพฯ--28 เม.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
วิธีการเข้าไปเป็นพันธมิตรซึ่งสายการบินเอทิฮัดนำมาใช้นั้นทำให้เกิดรูปแบบใหม่สำหรับการแข่งขันของสายการบิน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินเอทิฮัดกล่าวที่ เดอะวิงส์ คลับ ในนครนิวยอร์กเมื่อต้นสัปดาห์นี้
ในอุตสาหกรรมซึ่งบรรดาสายการบินเก่าแก่ครอบงำอยู่ และด้วยอุปสรรคที่แข็งแกร่งที่ยากที่จะเข้าสู่ตลาดนี้ ความคาดหวังของสายการบินใหม่ๆที่จะขยายเครือข่ายเส้นทางการบินเพื่อเข้าไปแข่งขันด้วยตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นไปได้ยาก เขากล่าว และแน่นอนเมื่อไม่มีการแข่งขันใหม่ ๆ ผู้บริโภคทั่วโลกก็จะได้รับความลำบาก
มร.โฮแกน ได้กล่าวปาฐกถาในประเด็นสำคัญที่การประชุมวิงส์ คลับประจำเดือนว่า :
"การเดินทางทางอากาศระดับโลกนั้นเป็นธุรกิจที่มีอุปสรรคที่แข็งแกร่งอย่างไม่น่าเชื่อที่จะเข้าไปสู่ธุรกิจนี้ ไม่ใช่แค่ในเรื่องของต้นทุนแต่ ยังมีในแง่ของการเข้าถึงตลาด ความต้องการโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ และความท้าทายของการแข่งขันกับสายการบินยักษ์ใหญ่ที่ยึดครองอยู่"
"อุปสรรคที่ยิ่งใหญ่ที่สุดคือเครือข่ายเส้นทางการบิน คุณไม่สามารถสร้างเครือข่ายการบินระดับโลกในชั่วข้ามคืน ในทางความเป็นจริงแล้วคุณต้องการเวลาหลายศตวรรษ และเงินหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างเครือข่ายเส้นทางการบินที่สามารถแข่งขันกับกลุ่มสายการบินใหญ่ ๆ"
"นั่นคือที่มาที่การเป็นพันธมิตรเข้ามามีส่วน ตั้งแต่วันแรกเราได้เปิดแนวทางให้แก่การเข้าเป็นพันธมิตร ร่วมมือกับสายการบินหลายสายด้านข้อตกลงเที่ยวบินร่วม จากนั้นเราก็ก้าวเข้าไปมากขึ้นด้วยการเข้าไปลงทุนเป็นหุ้นส่วนข้างน้อยในสายการบินที่สำคัญทางกลยุทธ์"
"รวมกันแล้ว เราสามารถที่จะสร้างทางเลือกใหม่ที่แข็งขันได้ให้แก่นักเดินทาง ในตลาดที่สำคัญทั่วโลก นี่เป็นสิ่งที่ดีสำหรับผู้บริโภค ดีกับการท่องเที่ยวและดีกับการค้า"
มร. โฮแกน กล่าวว่า กลยุทธ์การลงทุนในหุ้นส่วนของสายการบินเอทิฮัด เป็นปัจจัยสำคัญของแนวทางนี้
"เรามีแนวทางสองแนว ตั้งแต่ระดับกลยุทธ์ เรามองหาพันธมิตรที่จะเป็นหุ้นส่วนเพื่อสร้างการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายเส้นทางการบิน สร้างรายได้เพิ่มเติมและสร้างการประหยัดจากขนาดที่ใหญ่ขึ้น พันธมิตรของเราทุกรายนั้นได้มอบสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ในระดับนี้"
"สิ่งนี้ช่วยให้สร้างกลุ่มสายการบินที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของโลกและส่งต่อเม็ดเงินมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ให้แก่ธุรกิจของเรา"
"พันธมิตรแต่ละรายนั้นต่างมีแผนเป็นของตนเอง ซึ่งเป็นความรับผิดขอบของคณะผู้บริหารและคณะกรรมการของแต่ละสายการบิน มีหลายสายการบินในจำนวนนี้ เช่น แอร์เซอร์เบีย แอร์เซเชลส์ เจ็ทแอร์เวย์ส และเวอร์จินออสเตรเลีย นั้นก็อยู่ในระดับนี้เช่นเดียวกัน เราสนับสนุนการเปลี่ยนโครงสร้างของธุรกิจที่มีความต้องการ เช่น อลิตาเลียและแอร์เบอร์ลิน"
มร. โฮแกนกล่าวว่า การเข้าไปในตลาดสหรัฐฯ ของสายการบินเอทิฮัด ได้นำคุณประโยชน์มากมายมาให้ประเทศนี้
"เราเป็นผู้เล่นรายเล็ก ๆ ในตลาดการเดินทางทางอากาศของสหรัฐฯ ด้วยจำนวนเที่ยวบินน้อยกว่าร้อยละ 0.01 ต่อวันจากจำนวนเที่ยวบินขาออกระหว่างประเทศทั้งหมด อย่างไรก็ดีเราสามารถมอบประโยชน์ที่สำคัญมากมายให้แก่สหรัฐอเมริกา"
"เราเชื่อมต่อสหรัฐฯ ผ่านฐานการบินของเราในกรุงอาบู ดาบี ต่อไปยังหลายๆตลาดซึ่งยังไม่มีสายการบินอื่น ๆ ให้บริการ นั่นหมายถึงการส่งต่อผู้โดยสารหลายแสนคนทั้งเพื่อการท่องเที่ยวและธุรกิจไปยังสหรัฐและจำนวนหลายแสนคนในนี้ก็ส่งต่อไปยังสายการบินของสหรัฐฯ"
"เรายังคงเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ใกล้ชิดกับบริษัทของสหรัฐฯ ที่ชัดเจนที่สุดก็คือกับโบอิ้งและผู้ผลิตในภาคการบินและอวกาศ แต่เรายังสร้างการเป็นพันธมิตรกับเซเบอร์ ฮันนี่เวลล์ ไอบีเอ็ม อะโดบีและอีกหลาย ๆ ธุรกิจ"
"ผลที่มีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เกิดจากเรานั้นรวมแล้วมากกว่า 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี"
มร.โฮแกนกล่าวว่าเขาเชื่อว่าหลายๆ ประเด็นที่ยกขึ้นมาเกี่ยวกับสายการบินเอทิฮัดโดยแคมเปญโอเพ่นสกายส์นั้นเกิดจากการขาดความเข้าใจในรูปแบบธุรกิจของสายการบิน
"มีความเชื่อหลาย ๆ อย่างที่ผิดเกี่ยวกับธุรกิจของเรา แต่ในความจริงแล้วเราดำเนินงานในฐานะองค์กรเชิงพาณิชย์ ด้วยความต้องการของผู้ถือหุ้นที่ต้องการผลตอบแทนที่เด่นชัดจากการลงทุน เราไม่ได้รับการอุดหนุนหรือการสนับสนุนจากรัฐ เรามีสวัสดิการที่ดีและแรงงานที่มีความพึงพอใจ"
"สิ่งที่เราได้ทำคือการลงทุนที่จำเป็นเพื่อที่จะแข่งขันในธุรกิจที่ต้องใช้เงินทุนอย่างเข้มขึ้น นี่เป็นการลงทุนที่ฉลาดเมื่อคุณได้พิจารณาข้อได้เปรียบที่กรุงอาบู ดาบี มอบให้ในฐานะจุดศูนย์รวมของสายการบินที่มีเครือข่ายระดับโลก ตราบใดที่ยังมีผลตอบ นั่นคือที่ที่รูปแบบพันธมิตรที่ไม่เหมือนใครก้าวเข้ามา"