ความเปราะบางของตลาดที่อยู่อาศัยไทย

ข่าวอสังหา Friday October 9, 2015 13:02 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส ในจำนวนที่อยู่อาศัยที่มีอยู่ในโครงการ 1,634 แห่ง รวม 488,026 หน่วย มีถึง 56% ที่ยังไม่ได้สร้างเสร็จ ณ สิ้นปี 2558 เกิดวิกฤติขึ้นมา จะลำบากกันได้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส http://www.area.co.th) ได้ประมวลข้อมูลโครงการที่ขายอยู่ในท้องตลาดทั้งหมดในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 1,634 แห่ง ปรากฏว่ามีหน่วยขายอยู่ 488,026 หน่วย ปรากฏว่าขายไปได้ 309,385 หน่วย หรือ 63% ของหน่วยขชายทั้งหมดซึ่งถือเป็นเรื่องน่ายินดี แสดงว่าตลาดไม่ได้ตกต่ำจนเกินไป ยังมีการขายได้อยู่ อย่างไรก็ตามหากพิจารณาถึงระยะเวลาที่จะก่อสร้างแล้วเสร็จ จะพบว่า ที่จะสร้างเสร็จภายในปี 2559 มี 139,359 หน่วย (29%) ที่จะสร้างเสร็จในปี 2560 มี 83,256 หน่วย (17%) และที่จะสร้างเสร็จในปี 2561 มี 50,047 หน่วย หรือ 10% ดังนั้นรวมแล้วที่จะสร้างเสร็จหลังปี 2558 มีถึง 272,663 หน่วย หรือ 56% หรือมากกว่าครึ่งหนึ่งชองอุปทานทั้งหมดเลยทีเดียว ที่อยู่อาศัยที่เปราะบางที่สุดก็คือห้องชุด เพราะมีสัดส่วนที่ยังสร้างไม่เสร็จในปี 2558 และจะทะยอยสร้างเสร็จในปี 2559, 2560 และ 2561 ถึง 70% ของหน่วยขายรวมทั้งหมด รองลงมาคือทาวน์เฮาส์ 61% หรือ 69,443 หน่วย ส่วนบ้านเดี่ยวอาจมีน้อยกว่าครึ่งหนึ่ง เพราะมีเป็นจำนวนมากที่สร้างไปขายไป ไม่ได้รอการสั่งสร้างเสียทีเดียว ทั้งนี้ยกเว้นตึกแถว และที่ดินจัดสรรซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยส่วนน้อยมาก หากประเทศชาติเกิดวิกฤติเศรษฐกิจขึ้นมา เพราะอัตราการเติบเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยต่ำกว่าประเทศอื่นในอาเซียนทั้งในปีนี้และปีหน้า และหากเกิดวิกฤติทางการเมือง เช่น การประท้วงของกลุ่มต่าง ๆ เช่น กลุ่มชาวสวนยาง กลุ่มการเมือง หรือหากเกิดกรณีการก่อการร้ายเพิ่มเติม ก็จะทำให้เกิดปัญหากับวงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลได้โดยตรง เพราะส่วนมากของอุปทานยังก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ สิ่งที่ทางราชการโดยเฉพาะธนาคารแห่งประเทศไทย ควรดำเนินการก็คือการตรวจสุขภาพของโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับการอำนวยสินเชื่อไปแล้วว่าจะสามารถก่อสร้างได้แล้วเสร็จหรือไม่ และควรมีมาตรการในการสนับสนุนหากเกิดการสะดุดขึ้นมา โดยเฉพาะปัญหาเงินดาวน์ของผู้จองซื้อที่อยู่อาศัย ซึ่งหากเกิดปัญหาขึ้นมา ก็อาจจะได้รับผลกระทบโดยตรง โดยอาจพิจารณาให้มีการคุ้มครองเงินดาวน์ โดยการประกันเงินดาวน์ของผู้ซื้อบ้าน เพื่อความอุ่นใจของผู้จ่ายเงินดาวน์ไปแล้ว การติดตามการก่อสร้างอย่างใกล้ชิด และติดตามราคาค่าก่อสร้างอย่างใกล้ชิด รวมทั้งการเบิกงวดเงินการก่อสร้างที่ตรงตามความเป็นจริงอย่างใกล้ชิด จะช่วยป้องปรามปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตได้เช่นกัน อ้างอิง: AREA แถลง ฉบับที่ 306/2558: วันศุกร์ที่ 9 ตุลาคม 2558 ผู้แถลง: ดร.โสภณ พรโชคชัย (sopon@area.co.th) ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส หรือ AREA (www.area.co.th): ซึ่งเป็นองค์กรที่มีฐานข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ภาคสนามขนาดใหญ่ที่สุดและปรับปรุงให้ทันสมัยที่สุดในประเทศไทย และดำเนินการเก็บข้อมูลต่อเนื่องมาตั้งแต่ พ.ศ.2537 เป็นศูนย์ข้อมูลที่มีความเป็นกลางทางวิชาการ และเป็นอิสระทางวิชาชีพ โดยไม่ถูกครอบงำโดยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียใด ๆ สมาชิกของศูนย์ข้อมูลฯ ได้รับข้อมูลที่เป็น First-hand information ในเวลาเดียวกัน

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ