กรุงเทพฯ--29 เม.ย.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์
· กำไรสุทธิ 103 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี พ.ศ. 2558
· รายได้รวม 9.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณผู้โดยสารและสินค้า
· ปริมาณผู้โดยสารยังเพิ่มขึ้นรวดเร็วเกินปริมาณความจุที่นั่งอย่างต่อเนื่อง ก้าวล้ำเกินกว่าการเติบโตของภูมิภาค
· กลยุทธ์ในการเข้าถือครองหุ้นนั้นทำให้เกิดผลสำเร็จในด้านเครือข่ายการบิน การเพิ่มขึ้นของรายได้และการประหยัดจากขนาดที่ใหญ่ขึ้น
· รายได้จากพันธมิตรมากถึง 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยส่งต่อผู้โดยสารกว่า 5 ล้านคนเข้ามายังเครือข่ายการบินของสายการบินเอทิฮัด
· การเติบโตทั่วทั้งธุรกิจด้านต่าง ๆ ของกลุ่ม รวมถึงการขนส่งสินค้า การบำรุงรักษาและซ่อมบำรุง บริการครัวการบิน การบริการภาคพื้นและรายการสะสมไมล์
สายการบินเอทิฮัด สายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรสตส์ ได้ประกาศผลประกอบการทางการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่เคยมี ด้วยกำไรสุทธิถึง 103 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ด้วยรายได้รวมทั้งหมดกว่า 9.02 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ผลการดำเนินงานของสายการบินซึ่งเป็นการทำกำไรสุทธิได้เป็นปีที่ 5 ติดต่อกันนี้ มีกำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) อยู่ที่ 259 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อมค่าจัดจำหน่าย และการให้เช่า (EBITDAR) ที่ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คิดเป็นร้อยละ 16 ของรายได้รวม
มร. เจมส์ โฮแกน ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของสายการบินเอทิฮัดกล่าวว่า
"หน้าที่ของเรานั้นคือการสร้างสายการบินที่ทำกำไรได้อย่างยั่งยืน ปีนี้เป็นปีที่ 5 ที่เราทำกำไรสุทธิได้ และด้วยผลประกอบการทางการเงินรายปีที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา แสดงให้เห็นถึงว่าเราได้ดำเนินการไปยังเป้าหมายที่ว่านั่น"
"ความสามารถในการทำกำไรของเรานั้นแสดงให้เห็นชัดเจนถึงความสำเร็จของกลยุทธ์ทางธุรกิจของเรา บนพื้นฐานของการเติบโตของตนเองโดยเร่งให้มากขึ้นจากพันธมิตรของเรา"
"เช่นเดียวกับความสามารถในการทำกำไรของการปฏิบัติการ เราก็สร้างมูลค่าให้กับกิจการของเราทั่วทั้งสายการบิน และบนช่องทางธุรกิจเสริมอีกหลายประการ"
งบการเงินของสายการบินเอทิฮัดนั้นได้รับการสอบบัญชีโดย เดอลอยต์ และเป็นไปตามมาตรฐานการรายงานทางการเงินสากล (IFRS)
ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานที่แข็งแกร่งทำให้อัตราการบรรทุกดีขึ้น ในขณะที่ปริมาณผู้โดยสารนั้นก้าวล้ำเกินกว่าการเพิ่มขึ้นของความจุที่นั่ง
สายการบินเอทิฮัดได้ขนส่งผู้โดยสาร 17.6 ล้านคนในปี พ.ศ. 2558 เป็นการเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.9 เมื่อเทียบปีต่อปี การเพิ่มขึ้นของปริมาณผู้โดยสารนั้นยังเพิ่มมากกว่าการเพิ่มความจุที่นั่งของสายการบินเอทิฮัดอย่างต่อเนื่องและเพิ่มขึ้นมากกว่าการเติบโตของตลาดระดับภูมิภาค ซึ่งมีการลดลงของอัตราการบรรทุกตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2557*1 ผู้โดยสารที่ก่อให้เกิดรายได้กิโลเมตร (RPKs) ซึ่งวัดถึงการเดินทางของผู้โดยสารได้เพิ่มขึ้นร้อยละ 21.3 ไปเป็นจำนวน 83.2 พันล้าน ในขณะที่ เจ้านวนที่นั่งที่มีให้บริการกิโลเมตร (ASKs)ซึ่งแสดงถึงความจุของที่นั่งที่มีให้บริการ นั้นโตขึ้น ร้อยละ 21 ไปอยู่ที่ 104.8 พันล้าน
โดยรวมแล้ว สายการบินปฏิบัติการบินไป 97,400 เที่ยวบินเป็นระยะทางกว่า 467 ล้านกิโลเมตร อัตราการบรรทุกเฉลี่ยของทั้งเครือข่ายการบินอยู่ที่ร้อยละ 79.4 เปรียบเทียบกับร้อยละ 79.2 ใน พ.ศ. 2557
จุดหมายปลายทางใหม่ 6 แห่งได้ถูกเพิ่มเติมเข้ามายังเครือข่ายการบินระดับโลกของสายการบินเอทิฮัด คือโกลกาตา มาดริด ฮ่องกง เอนเตเบ้ เอดินเบอระ และดาร์ เอส ซาลาม และมีการเพิ่มความจุใน 6 เส้นทางบินที่มีอยู่เดิม ด้วยเครื่องบินที่ใหญ่ขึ้น ความถี่ที่มากขึ้นและการมีการสำรองที่นั่งที่เพิ่มมากขึ้น
ฝูงบินของสายการบินเอทิฮัดเพิ่มขึ้นจำนวน 11 ลำ โดยมีจำนวนทั้งสิ้น 121 ลำ เมื่อสิ้นปี ด้วยอายุเฉลี่ย 5.8 ปี ฝูงบินของสายการบินเอทิฮัดนั้นเป็นหนึ่งในฝูงบินที่อายุน้อยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สุดในอุตสาหกรรม เครื่องบินที่เพิ่มเข้ามานั้นรวมถึง เอ380-800 4 ลำ โบอิ้ง 787-9 ดรีมไลเนอร์ 4 ลำ และยังมีการเช่าเครื่องบินมาเพื่อเพิ่มความจุ เอ380 นำมาให้บริการในเส้นทางซิดนีย์และนิวยอร์ก และนำไปให้บริการเป็นเที่ยวบินรายวันเที่ยวที่สองในเส้นทางไปสนามบินลอนดอน ฮีทโธรว์ ในขณะที่ 787 เริ่มปฏิบัติการในเที่ยวบินเชิงพาณิชย์ระหว่างกรุงอาบู ดาบีกับ ซูริค บริสเบน วอชิงตัน ดีซีและสิงคโปร์
กลยุทธ์การเข้าเป็นพันธมิตรนั้นส่งต่อผู้โดยสารมาให้ 5 ล้านคนและเม็ดเงินอีก 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เป็นรายได้โดยตรง เช่นเดียวกับความสำคัญของการช่วยลดต้นทุน
กลยุทธ์การเป็นพันธมิตรของสายการบินเอทิฮัด นั้นมีฐานอยู่บนข้อตกลงเที่ยวบินร่วมเกือบ 50 ความตกลง และกลยุทธ์การเข้าไปลงทุนเป็นหุ้นส่วนข้างน้อยในสายการบินบางแห่งยังเป็นปัจจัยที่สำคัญของการเติบโตในปี พ.ศ. 2558
ข้อตกลงเที่ยวบินร่วมใหม่ที่มีขึ้นใน พ.ศ. 2558 สายการบินปากีสถาน อินเตอร์เนชันแนล แอร์ไลน์ (PIA) ในขณะเดียวกันการทำเที่ยวบินร่วมของสายการบินเอทิฮัดกับสายการบินต่าง ๆ ที่มีข้อตกลงอยู่เดิม ได้แก่ แอร์เซอร์เบีย อเมริกันแอร์ไลน์ส ฟลายนาส เจ็ทแอร์เวย์ส โคเรียนแอร์ นิกิและ เอสเซเว่น ก็ได้มีการขยายเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้สายการบินเอทิฮัดนั้นมีเครือข่ายทั้งการขนส่งผู้โดยสารและสินค้ารวมกันมากกว่า 600 จุดหมายปลายทาง กับสายการบินที่มีความตกลงด้านเที่ยวบินกัน 197 รายและพันธมิตรเที่ยวบินร่วม 49 ราย
เอทิฮัด รีเจียนอล คือสายการบินล่าสุดที่เพิ่มเข้ามาในเครือข่ายสายการบินที่เอทิฮัดเข้าถือหุ้น ซึ่งรวมถึง แอร์เบอร์ลิน แอร์เซเชลส์ เจ็ทแอร์เวย์ส แอร์เซอร์เบีย อลิตาเลียและเวอร์จิน ออสเตรเลีย ซึ่งรายหลังสุดนี้หุ้นส่วนของสายการบินเอทิฮัดได้เพิ่มเป็นร้อยละ 25.1 ในปี พ.ศ.2558 เมื่อรวมกันทั้งหมดสายการบินที่เอทิฮัดเข้าถือหุ้นนี้จะเป็นกลุ่มสายการบินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 7 ของโลก โดยให้บริการผู้โดยสานมากกว่า 100 ล้านคนทั่วโลก
กลยุทธ์นี้ได้นำยอดขายให้เพิ่มขึ้นมากทั่วทั้งเครือข่ายเส้นทางการบินทั่วโลกของสายการบินเอทิฮัด โดยมีส่งต่อรายได้จำนวน 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจาก พ.ศ. 2557 ถึงร้อยละ 22.1 และส่งต่อผู้โดยสารมายังเที่ยวบินของสายการบินเอทิฮัดมากกว่า 5 ล้านคน นอกเหนือจากนั้น สายการบินและสายการบินพันธมิตรที่เข้าไปถือครองหุ้นยังสามารถชี้และพัฒนาการทำงานร่วมกันของธุรกิจและการลดต้นทุน
มร. โฮแกนกล่าวว่า ผลตอบแทนที่สายการบินได้รับจากการเข้าไปลงทุนในหุ้นส่วนของทั้ง 7 สายการบินนั้นมากกว่าจำนวนเงินที่ใช้ไปหลายเท่านัก
"สำหรับการลงทุนด้วยจำนวนเงินที่น้อยกว่าเครื่องบินใหม่ 3 ลำ เราสามารถสร้างเครือข่ายเส้นทางการบินระดับโลก ดึงดูดลูกค้าใหม่กว่า 5 ล้านคนและรายได้ 1.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และทำงานร่วมกันเพื่อลดต้นทุน นี่เป็นธุรกิจที่ชาญฉลาด
"เรามีแนวทางสองแนว ตั้งแต่ระดับกลยุทธ์ เรามองหาพันธมิตรที่จะเป็นหุ้นส่วนเพื่อสร้างการเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายเส้นทางการบิน สร้างรายได้เพิ่มเติมและสร้างการประหยัดจากขนาดที่ใหญ่ขึ้น พันธมิตรของเราทุกรายนั้นได้มอบสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ในระดับนี้"
"พันธมิตรแต่ละรายนั้นต่างมีเป้าหมายกำไรขาดทุนของตนเอง ซึ่งเป็นความรับผิดขอบของคณะผู้บริหารและคณะกรรมการของแต่ละสายการบิน มีหลายสายการบินในจำนวนนี้ เช่น แอร์เซอร์เบีย แอร์เซเชลส์ เจ็ทแอร์เวย์ส และเวอร์จินออสเตรเลีย นั้นก็อยู่ในระดับนี้เช่นเดียวกัน เราสนับสนุนการเปลี่ยนโครงสร้างของธุรกิจที่มีความต้องการ เช่น อลิตาเลียและแอร์เบอร์ลิน"
"แม้กระทั่งด้วยการเข้าไปลงทุน อย่างเช่นแอร์เบอร์ลิน ซึ่งใช้เวลานานกว่าที่คาดไว้เพื่อให้สายการบินไปถึงจุดที่ทำกำไรได้อย่างยั่งยืน เรากำลังมองหาผลตอบแทนโดยตรงที่จะคืนกลับมาให้ธุรกิจของเรา เกินไปกว่าความคาดหมายเดิมของเราเราได้รับรายได้มากกว่า 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยตรงมายังสายการบินเอทิฮัดและในปัจจุบัน แอร์เบอร์ลินก็ส่งต่อรายได้โดยตรงมากกว่า 150 ล้านดอลาร์สหรัฐฯ ต่อปี เช่นเดียวกับการร่วมมือกันเพื่อลดต้นทุนในหลาย ๆ ด้านซึ่งคิดเป็นจำนวนกว่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกเหนือจากนั้น ความสัมพันธ์กับแอร์เบอร์ลินนั้นได้ทำให้เกิดเม็ดเงินมากกว่า 630 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ มายังเศรษฐกิจของกรุงอาบู ดาบี นี่คือสาเหตุว่าทำไมเรายังจะมุ่งมั่นที่จะปรับโครงสร้างของธุรกิจนั้นในขณะที่กำลังก้าวไปข้างหน้า"
ประชาคมการเงินของโลกนั้นยังให้การยอมรับกลยุทธ์ของสายการบินเอทิฮัดอย่างต่อเนื่อง
ในระหว่างปีที่ผ่านมา สายการบินเอทิฮัดได้ดำเนินธุรกรรมทางการเงินมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อช่วยการขยายตัวของสายการบินและบริษัทในเครือ เอทิฮัด แอร์พอร์ท เซอร์วิสเซส และสายการบินที่เข้าไปถือหุ้นห้ารายจากเจ็ดรายที่อยู่ในเอทิฮัด แอร์เวย์ส พาร์ทเนอร์ส
มร. โฮแกนกล่าวเสริมว่า "ธุรกรรมที่เป็นครั้งประวัติศาสตร์นี้เป็นนับเป็นครั้งแรกของอุตสาหกรรมการบิน และความสำเร็จของธุรกรรมนี้ก็ได้เน้นย้ำถึงความเชื่อมั่นและการสนับสนุนในระดับที่สูงยิ่งจากนักลงทุนสถาบันที่มีต่อกลยุทธ์ทางธุรกิจที่ไม่เหมือนใครนี้ เป็นการลงคะแนนแห่งความเชื่อมั่นที่ไม่ได้มีต่อสายการบินเอทิฮัดเท่านั้นแต่ยังมีต่อหุ้นส่วนของเราด้วย"
ในปี พ.ศ. 2558 สายการบินเอทิฮัดนั้นได้รับการจัดอันดับระดับ A พร้อมทั้งคาดการณ์ในระดับที่มั่นคงจากฟิทช์ เรตติ้งส์ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ใหญ่ที่สุดของโลก ฟิทช์ เรตติงส์ ยังได้ออกการจัดอันดับผู้ออกหลักทรัยพย์ระยะยาว(IDR) ตามด้วยการวิเคราะห์อย่างละเอียดของธุรกิจของสายการบินเอทิฮัดและประสิทธิภาพในเชิงพาณิชย์และกลยุทธ์ในพันธมิตรหุ้นส่วน
การเติบโตอย่างต่อเนื่องทั่วทั้งธุรกิจด้านต่างๆ ของกลุ่ม รวมไปถึงการขนส่งสินค้า การบำรุงรักษาและซ่อมบำรุง ครัวการบินและการบริการภาคพื้น และรายการสะสมไมล์
ในปี พ.ศ. 2558 กลยุทธ์ของสายการบินเอทิฮัดที่จะเปลี่ยนจากสายการบินเดี่ยว ๆ กลายเป็นกลุ่มของการเดินทางและธุรกิจการบินได้ให้ผลที่แข็งแกร่ง ธุรกิจหลักต่าง ๆ ได้แก่ การขนส่งสินค้า การบำรุงรักษาและซ่อมบำรุง ครัวการบินและการบริการภาคพื้น และรายการสะสมไมล์ เช่นเดียวกับ ธุรกิจหลักของสายการบินที่เติบโตขึ้น
แผนกขนส่งสินค้าของสายการบินเอทิฮัด นั้นมีผลประกอบการที่ดีใน พ.ศ. 2558 การขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ มีปริมาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 4 ไปเป็นจำนวน 591,000 ตัน ทำให้เป็นหนึ่งในการปฏิบัติการขนส่งสินค้าทางอากาศที่ประสำความสำเร็จที่สุดของโลก
ด้วยเป็นผู้ขนส่งสินค้าทางอากาศร้อยละ 88 ทั้งการนำเข้า ส่งออกและส่งต่อสินค้าที่ท่าอากาศยานนานาชาติอาบู ดาบีในปีที่แล้ว เอทิฮัด คาร์โกได้ขยายการเข้าถึงในระดับโลกมากขึ้นโดยการนำเสนอการขนส่งสินค้าบนระวางสินค้าของเครื่องบินในเส้นทางที่ให้บริการผู้โดยสารใหม่ 6 เส้นทาง ทำให้มีจำนวนจุดหมายปลายทางของเที่ยวบินโดยสารเป็น 96 จุดหมายปลายทางซึ่งก็มีการขนส่งสินค้าเช่นกัน เอทิฮัด คาร์โกยังได้ขยายบริการการขนส่งสินค้าไปยังตลาดใหม่ ๆ หลายแห่ง รวมถึง ดาการ์ นูอัคโชท และดูอาลาในแอฟริกา ทำให้มีจุดหมายของเที่ยวบินขนส่งสินค้าเพียงอย่างเดียวอยู่ที่ 20 จุดหมายปลายทาง
อีกหนึ่งตัววัดของการเติบโตของสายการบินเอทิฮัดคือการเพิ่มขึ้นของสมาชิกของรายการสะสมไมล์เอทิฮัดเกสท์ได้เพิ่มขึ้น จาก 2.9 ล้านคนเป็น 3.75 ล้านคน หรือโดยเฉลี่ยมีสมาชิกใหม่ 70,000 รายในแต่ละเดือนของปี พ.ศ. 2558
สายการบินยังคงเป็นแรงผลักดันในโครงการเพื่อความเป็นเอมิเรตส์ของประเทศ
จนถึงสิ้นสุดปี พ.ศ. 2558 สายการบินเอทิฮัดได้จ้างงานกว่า 26,566 ตำแหน่งทั่วโลกจากมากกว่า 144 สัญชาติ เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.7 จากปีที่ผ่านมา ชาวเอมิราติ ยังคงเป็นสัญชาติที่มีจำนวนมากที่สุดในสายการบิน ใน พ.ศ. 2558 สายการบินได้ต้อนรับคนสัญชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กว่า 1,200 คนมาเป็นพนักงานทั่วโลกทำให้พนักงานชาวเอมิราติ มีจำนวนมากกว่า 3,000 คน ถือเป็นร้อยละ 29 ของจำนวนพนักงานหลักของสายการบินแห่งชาติแห่งนี้
ตั้งแต่การเริ่มดำเนินงานใน พ.ศ. 2546 สายการบินเอทิฮัดได้กลายมาเป็นแรงผลักดันสำคัญของโครงการเพื่อความเป็นเอมิเรตส์ของชาติ มีการลงทุนเพื่อการพัฒนาแรงงานของประเทศและสนับสนุนบทบาทของชาวเอมิราติในภาคดารบินและผลักดันเพื่อความเป็นผู้นำ
สายการบินได้รับการยกย่องด้วยรางวัลต่าง ๆ ของอุตสาหกรรมการบินตลอดทั้งปี
สายการบินเอทิฮัดได้รับการขนานนามให้เป็น สายการบินแห่งปี 2559 จากแอร์ทรานสปอร์ตเวิร์ลด ด้วยการยอมรับรูปแบบการเติบโตที่โดดเด่นและการมุ่งเน้นเชิงพาณิชย์ ในขณะที่ก็ได้ให้คำนิยามใหม่ของการเดินทางทางอากาศที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง และเป็นปีที่ 7 ติดต่อกันที่สายการบินเอทิฮัดได้รับการประกาศให้เป็นสายการบินชั้นนำของโลกจากงานเวิร์ลด ทราเวล อวอร์ดส
ธุรกรรมทางการเงินมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ของเอทิฮัด แอร์เวย์ส พาร์ทเนอร์ส ครั้งประวัติการณ์นั้นได้รับการยกย่องให้เป็นข้อตกลงซึ่งเป็นนวัตกรรมแห่งปีจากแอร์ไฟแนนซ์เจอร์นัล และเป็นรางวัลนิติกรรมสัญญาแห่งการพัฒนาของยุโรป ตะวันออกกลางและแอฟริกาแห่งปี จากอินเตอร์เนชันแนล ไฟแนนซิง รีวิว องค์กรด้านข่าวสารการตลาดและ เป็นข้อตกลงด้านการเงินและภาระผูกพันแห่งปีของตะวันออกกลาง จาก โกลบอล ทรานสปอร์ต ไฟแนนซ์