กรุงเทพฯ--7 มี.ค.--เอส.ที.วีดีโอ
การประกาศรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลออสก้าร์ครั้งที่ 73 ประจำปีนี้ ภาพยนตร์มหากาพย์อาณาจักรโรมันเรื่อง Gladiator สามารถเข้าชิงได้ถึง 12 รางวัล ซึ่งรวมถึงรางวัลหลักๆได้แก่ ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) , ดารานำชายยอดเยี่ยม (Best Actor) คือ Russell Crowe, ดาราสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor) คือ Joaquin Phoenix
และ ผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director) คือ Ridley Scott นอกจากนั้นรางวัลรองๆทั้งด้านเสียง , ภาพ และการตัดต่อก็ได้เข้าชิงเกือบครบ ทำให้ Gladiator เป็นภาพยนตร์เต็งหนึ่งของปีนี้ ที่มีโอกาสคว้าได้หลายรางวัล รวมทั้งรางวัลใหญ่ด้วย ส่วนที่มาแรงตามมาในอันดับที่ 2 คือภาพยนตร์กำลังภายในของผู้กำกับ Ang Lee เรื่อง Crouching Tiger, Hidden Dragon โดยได้เข้าชิงถึง 10 รางวัล (7 ใน 10 รางวัลที่เข้าชิง ต้องชนกับ Gladiator อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้) ซึ่งรวมถึง ภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best Picture) , ผู้กำกับยอดเยี่ยม (Best Director) คือ Lee และที่เต็งแบบนอนมาคือ ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม (Best Foreign-Language Film) ซึ่ง Crouching Tiger, Hidden Dragon มีความคล้ายหนังของ Roberto Benigni เรื่อง Life Is Beautiful เมื่อ 2 ปีที่แล้วที่ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดยภาษาที่ใช้ในภาพยนตร์ไม่ใช่ภาษาอังกฤษ และการที่ได้เข้าชิงมากถึง 10 รางวัลเป็นการทำลายสถิติของหนังภาษาต่างประเทศ โดยแซงสถิติเก่าที่ Life Is Beautiful ได้เข้าชิง 10 รางวัล และถ้าย้อนประวัติศาสตร์ตั้งแต่มีการแจกรางวัลออสก้าร์มา มีภาพยนตร์ที่ต้องใช้ subtitles หรือคำบรรยาย Crouching Tiger, Hidden Dragon เป็นเรื่องที่ 7 ที่ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และมีสิทธิเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำได้ด้วย ส่วนภาพยนตร์ที่ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมที่เหลือได้แก่ ภาพยนตร์ของผู้กำกับ Steven Soderbergh 2 เรื่อง คือ Traffic กับ Erin Brockovich และภาพยนตร์ของผู้กำกับ Lasse Hallstrom เรื่อง Chocolat ที่ค่าย Miramax โหมโปรโมตกันสุดๆ ซึ่งทั้ง 3 เรื่องต่างก็ได้เข้าชิงกันเรื่องละ 5 รางวัลเท่ากัน
ภาพยนตร์ทั้ง 5 เรื่องที่ได้เข้าชิงรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ต่างทำรายได้ในอันดับหนังทำเงินที่แตกต่างกัน โดยเรื่องที่ทำไว้มากที่สุดก็คือ Gladiator จากค่าย DreamWorks ทำเงินล่าสุด (ณ วันที่ 14 กุมภาพันธ์) ที่ $187 million. เรื่องนี้อาจไม่ได้ประโยชน์นักจากการได้เข้าชิงเยอะ หรืออาจชนะรางวัลเยอะ เพราะหนังออกจากโรงฉายไปหมดแล้ว วีดีโอก็หาดูได้ทั่วไป แต่อาจมีการนำกลับมาฉายตามโรงภาพยนตร์ใหม่ก็ได้ รองลงไปคือ Erin Brockovich จากค่าย Universal ทำเงิน $126 million. เรื่องนี้ตกในสถานะการณ์เหมือนกับ Gladiator เลย
ส่วนหนังที่ยังฉายอยู่และน่าจะทำเงินเพิ่มกันได้มากมาย ได้แก่ Traffic ค่าย USA Films ทำเงินได้แล้ว $71 million. , Crouching Tiger, Hidden Dragon ค่าย Sony Pictures Classics ทำเงิน $60 million. ซึ่งเชื่อว่าทั้ง 2 เรื่องนี้จะทำรายได้ทะลุหลัก $100 million ได้อย่างแน่นอนไม่ว่าจะชนะรางวัลมากน้อยแค่ไหน (แต่ชนะมากยิ่งได้มาก) อีกเรื่องคือ Chocolat ค่าย Miramax ที่ทำเงินยังไม่มากที่ $27 million.
Russell Crowe จากภาพยนตร์เรื่อง Gladiator สามารถเข้าชิงสาขาดารานำชายยอดเยี่ยมได้ 2 ปีติดต่อกัน โดยปีที่แล้วเขาได้ชิงจากเรื่อง The Insider แต่ก็พลาดไป ปีนี้มีโอกาสแก้ตัวอีกครั้ง โดยต้องเจอศึกหนักกว่าปีที่แล้วอีก เพราะต้องชนกับดาราที่ได้รับขนานนามว่า ลูกชายแห่งรางวัลออสก้าร์อย่าง Tom Hanks ซึ่งล่าสุดเพิ่งคว้ารางวัลลูกโลกทองคำมาหมาดๆ จากเรื่อง Cast Away ที่เขาลงทุนลดน้ำหนักมากถึง 50 ปอนด์ งานนี้ Hank ลุ้นรางวัลเป็นชิ้นที่ 3 โดยเขาเคยได้เข้าชิงนับครั้งนี้ก็ 5 ครั้งพอดี โดยคู่แข่งของเขาที่เหลืออีก 3 คน ได้แก่ Javier Bardem ในบทนักเขียนชาวคิวบาชื่อ Reinaldo Arenas ในภาพยนตร์เรื่อง Before Night Falls, Geoffrey Rush ในภาพยนตร์ย้อนยุคในบท Marquis de Sade เรื่อง Quills และม้ามืดที่สร้างความแปลกในที่หลุดเข้ามาชิงได้อย่าง Ed Harris ในบทศิลปินนาม Jackson Pollock ในเรื่อง Pollock.
เป็นไปตามความคาดหมายที่สาขาดารานำหญิงต้องมีชื่อ Julia Roberts ที่ล่าสุดคว้ารางวัลลูกโลกทองคำมาประเดิมก่อนแล้ว จากบทบาทอันยอดเยี่ยมในบท Erin Brockovich นับเป็นการกลับมาเข้าชิงหลังจากหายหน้าไปจากรางวัลออสก้าร์เสียนาน หลังจากเคยได้เข้าชิงจาก Steel Magnolias เมื่อปี 1989 และ Pretty Woman ในปี 1990 ในปีนี้เธอต้องเจอคู่แข่งอย่าง Joan Allen ในบทนักการเมืองเรื่อง The Contender, Juliette Binoche ในบททำทำขนมที่น่ารักจากเรื่อง Chocolat, Ellen Burstyn ในหนังเกี่ยวกับการติดยาเรื่อง Requiem for a Dream และ Laura Linney ในภาพยนตร์เรื่อง You Can Count on Me.
สร้างความแปลกใจเล็กน้อยสำหรับ Jeff Bridges ที่ได้เสนอชื่อเข้าชิงรางวัลสาขา ดาราสมทบชายยอดเยี่ยมจากเรื่อง The Contender แทนที่จะเป็น Gary Oldman จากเรื่องเดียวกัน โดยต้องลุ้นแข่งกับตัวเต็งอย่าง Joaquin Phoenix จากเรื่อง Gladiator (แทนที่จะเป็นจากเรื่อง Quills) และ Benicio Del Toro จากเรื่อง Traffic ที่มีภาษีกว่าเล็กน้อยตรงที่ชนะรางวัลลูกโลกทองคำมาแล้ว ส่วนที่เหลืออีก 2 คนคือ Willem Dafoe ในบทผีดิบดูดเลือดเรื่อง Shadow of the Vampire และ Albert Finney ในบทที่ต้องประชันกับ Julia Roberts ใน Erin Brockovich
ส่วนสาขาดาราสมทบหญิงก็มีม้ามืดหลุดเข้ามาคือ Marcia Gay Harden จาก Pollock แต่ต้องยอมรับว่ายังเป็นรอง Kate Hudson จากภาพยนตร์เพลงร็อคย้อนยุคเรื่อง Almost Famous ที่ได้รางวัลลูกโลกทองคำมาประดับตู้โชว์ไปเรียบร้อย นอกจากนั้น Frances McDormand จากภาพยนต์เรื่อง Almost Famous เช่นเดียวกันก็ได้เข้าชิงด้วย งานนี้ต้องแข่งกันเองอย่างช่วยไม่ได้ ส่วนผู้เข้าชิงที่เหลืออีก 2 คนคือ Judi Dench จากเรื่อง Chocolat ซึ่งคนนี้ประมาทไม่ได้ ไม่เชื่อลองกลับไปดูเมื่อ 2 ปีที่แล้วสิ แสดงไม่ถึง 10 นาทีคว้ารางวัลสบายไปเลย และ Julie Walters จากบทอาจารย์บัลเล่ย์เรื่อง Billy Elliot
หันมาดูสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยมกันบ้าง มีข่าวดีและข่าวร้ายสำหรับ Steven Soderbergh ข่าวดีก็คือ เขาได้เสนอชื่อเข้าชิงจากภาพยนตร์ถึง 2 เรื่อง คือ Traffic และ Erin Brockovich ซึ่งเป็นการเข้าชิงคนเดียว 2 เรื่องเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ Michael Curtiz ทำได้เมื่อปี 1938 จากเรื่อง Four Daughters และ Angels with Dirty Faces. (แต่ช่วง 1950 ถึง 1974 ทางสถาบันไม่อนุญาติให้มีการชิงเกิน 1 เรื่อง) ส่วนข่าวร้ายก็คือ ผู้ที่ได้เข้าชิงมากกว่า 1 เรื่องในประวิติศาสตร์จะไม่ชนะรางวัล เช่นเดียวกับรางวัลลูกโลกทองคำ ที่เขาเข้าชิงจาก 2 เรื่อง แต่ชวดหมด เพราะผู้ลงคะแนนจะกระจายกันไป ไม่ได้เป็นกลุ่มก้อน คู่แข่งคนสำคัญจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก Ang Lee ผู้กำกับ Crouching Tiger, Hidden Dragon ที่คว้าเอาพุงปลาไปกิน บนเวทีลูกโลกทองคำ ส่วนผู้เข้าชิงที่เหลือคือ Stephen Daldry จาก Billy Elliot และ Ridley Scott จาก Gladiator ซึ่งหนังของเขาได้ชิงมากถึง 12 รางวัล แต่ตัวเขาเองกับไม่ได้เป็นตัวเต็งอะไรมาก โดยปกติรางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมมักจะสอดคล้องกับรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม แต่ Stephen Daldry จาก Billy Elliot เป็นเพียงคนเดียว ที่หนังของเขาไม่ได้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โดยโดน Chocolat ของผู้กำกับ Lasse Hallstrom เบียดไป ซึ่งจากประวัติศาสตร์ สามารถตัดชื่อ Stephen Daldry ออกไปได้เลย เพราะในกรณีแบบนี้ ยากส์
หันมามองผู้พลาดหวังกันบ้าง Wonder Boys ได้เข้าชิงเพียง 3 รางวัล จาก บทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay) , ตัดต่อยอดเยี่ยม (Film Editing) และ เพลงยอดเยี่ยม (Best Song) จาก Bob Dylan ในเพลง "Things Have Changed" ส่วนดารานำ Michael Douglas ก็พลาดไปหมด ทั้งจากสาขาดารานำจากเรื่องนี้ และ ดาราสมทบจากเรื่อง Traffic
หนังอีกเรื่องที่ถูกเมินจากออสก้าร์ก็คือ หนังเกี่ยวกับวิกฤติการณ์จรวดมิสซายคิวบาเรื่อง Thirteen Days, หนังเกี่ยวกับบัลเล่ย์ Billy Elliot โดยดารานำชายวัยเยาว์ Jamie Bell พลาดการเข้าชิงดารานำชาย แต่หนังยังได้ชิง 3 รางวัล , Cast Away (ได้ชิงรางวัลเดียวจาก Hanks ในสาขาดารานำชายเท่านั้น) และหนังเพลงของผู้กำกับ Lars von Trier เรื่อง Dancer in the Dark. ที่นางเอก Bjork พลาดการเข้าชิงดารานำหญิง แต่เธอยังมีลุ้นในรางวัลเพลงประกอบภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากเพลง "I've Seen It All."
จากการที่ Gladiator ได้เข้าชิงถึง 12 รางวัล ถือว่ามากเป็นอันดับที่ 3 โดยมีหนังเพียง 2 เรื่องที่ได้เข้าชิงถึง 14 รางวัล คือ All About Eve (ปี 1950) และ Titanic (ปี 1997) , มีหนัง 6 เรื่องที่ได้เข้าชิง 13 รางวัล และ มีอีก 11 เรื่องที่ได้เข้าชิงเท่ากับ Gladiator ที่ 12 รางวัล
การประกาศรางวัลจะมีขึ้นวันที่ 25 มีนาคมนี้ที่ Shrine Auditorium ในเมือง Los Angeles และจะถ่ายทอดสดในเครือข่ายของ ABC. โดยมีดาราตลก Steve Martin เป็นพิธีกร
สนใจรายละเอียดติดต่อได้ที่ บริษัท เอส.ที.วีดีโอ จำกัด 143/448-451 ถ.พรมบรมราชชนนี แขวงอรุณอัมรินทร์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ 10700โทร. 884-6370-7--จบ--
-สส-