กรุงเทพฯ--3 พ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 30 จังหวัด 166 อำเภอ 789 ตำบล 6,324 หมู่บ้าน แยกเป็น น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค 12 จังหวัด น้ำเพื่อการเกษตร 9 จังหวัด น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร 9 จังหวัด พร้อมประสานจังหวัดตรวจสอบข้อมูลปริมาณน้ำต้นทุนและประเมินปริมาณน้ำที่สามารถใช้การได้ สำรวจภาชนะเก็บกักน้ำกลางเพื่อเป็น จุดจ่ายน้ำรวมของหมู่บ้าน เตรียมพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยสนับสนุนการแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่อง สำหรับด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า หลายพื้นที่ของประเทศได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง โดยขณะนี้มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 30 จังหวัด 166 อำเภอ 789 ตำบล 6,324 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 8.44 ของจำนวนหมู่บ้านทั่วประเทศ แยกเป็น จังหวัด ที่มีปัญหาด้านน้ำอุปโภคบริโภค 12 จังหวัด ได้แก่ น่าน พิจิตร ลำพูน สุรินทร์ ขอนแก่น ชัยนาท สระบุรี ชลบุรี ตรัง ตาก ประจวบคีรีขันธ์ และพังงา จังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำเพื่อการเกษตร 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา สุโขทัย นครพนม มหาสารคาม บุรีรัมย์ กาญจนบุรี สระแก้ว และจันทบุรี และจังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร 9 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ นครราชสีมา เพชรบุรี ตราด สตูล กระบี่ นครศรีธรรมราช และหนองบัวลำภู เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งมีประสิทธิภาพ พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้สั่งการให้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประสานจังหวัดตรวจสอบข้อมูลปริมาณน้ำต้นทุนในระดับหมู่บ้าน เพื่อประเมินปริมาณน้ำ ที่สามารถใช้การได้ตลอดช่วงฤดูแล้ง รวมถึงวางแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เป็นระบบ โดยเฉพาะการสำรวจและจัดทำบัญชีภาชนะเก็บกักน้ำกลางเพื่อเป็นจุดจ่ายน้ำรวมของหมู่บ้าน พร้อมจัดวงรอบในการนำรถบรรทุกน้ำสะอาดไปเติมยังจุดจ่ายน้ำกลาง ให้สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำของประชาชนในแต่ละพื้นที่ รวมถึงเตรียมพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยสนับสนุนการแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่อง เพื่อมิให้ประชาชนประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค สำหรับด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ ได้เน้นย้ำให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการสำรวจพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือด้านการเกษตร ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์อย่างเคร่งครัด โดยให้ประชาชนเข้ามา มีส่วนร่วมในการสำรวจพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยทหารแจกจ่ายน้ำ แก่ผู้ประสบภัยแล้ง โดยสูบน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆ เข้าพื้นที่การเกษตร 46,492,629 ลูกบาศก์เมตร สูบน้ำดิบเข้าระบบการผลิตน้ำประปา 6,511,992,000 ลิตร แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคกว่า 260,862,284 ลิตร ผลิตน้ำดื่มแจกจ่ายกว่า 1,104,000 ลิตร สำหรับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ศูนย์ฯ เขต สำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัด 76 จังหวัด และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขา 30 สาขาใน 16 จังหวัด หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th