กรุงเทพฯ--4 พ.ค.--กรมประมง
ดร.อดิศร พร้อมเทพ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีการมอบหมายให้หน่วยงานต่างๆในสังกัดดำเนินการคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกรและสหกรณ์ที่มีผลงานดีเด่น เพื่อยกย่องประกาศเกียรติคุณและเผยแพร่ผลงานให้สาธารณชนทั่วไปได้รู้จักและยึดถือเป็นแบบอย่างเข้ารับพระราชทานรางวัลในวันพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ซึ่งถือเป็นพระราชพิธีที่มีความเป็นสิริมงคลและสร้างขวัญกำลังใจให้เกษตรกรได้เกิดความภาคภูมิใจในการประกอบอาชีพเกษตรกรรมโดยกำหนดจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมของทุกปี ในปีนี้ตรงกับวันที่ 9 พฤษภาคม 2559 อันเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก
สำหรับในส่วนของกรมประมง มีเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกเข้ารับพระราชทานโล่รางวัลเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ด้านประมงทั้งหมด 5 สาขา โดยแยกเป็นเกษตรกรดีเด่น 3 สาขา คือ 1) สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ได้แก่ นายชนธัญ นฤเศวตานนต์ ต.ตาเนาะแมเราะอ.เบตง จ.ยะลา 2) สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อย ได้แก่ นายอนุสรณ์ พงษ์พานิช ต.เขาน้อย อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ และ 3) สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและพรรณไม้น้ำ ได้แก่ นายอำนวย เตชะวรงค์สกุล ต.วังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม และสถาบันเกษตรกรดีเด่นอีก 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มเกษตรกรทำประมงหรือกลุ่มเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้แก่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนชมรมปลาเชียงราย ต.สันกลาง อ.พาน จ.เชียงราย และ 2) กลุ่มเกษตรกรแปรรูปสัตว์น้ำ ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผลิตภัณฑ์แปรรูปปลาบ้านห้วยบง 2 ต.โนนเมือง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู
อธิบดีกรมประมงกล่าวเพิ่มเติมว่า เกษตรกรที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติรายบุคคลต้องมีคุณสมบัติต่างๆ อาทิ เป็นเกษตรกรที่มีสัญชาติไทย มีความประพฤติดีไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียมาก่อน ประกอบอาชีพด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยอมเสียสละเพื่อส่วนรวมมีผลงานทางการเกษตรดีเด่นเป็นพิเศษ และเผยแพร่ให้แก่ส่วนรวมได้นำไปใช้ประโยชน์ สมควรแก่การยกย่องให้เป็นตัวอย่างแก่บุคคลอื่น ที่สำคัญต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับพระราชทานโล่รางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติในสาขาเดียวกันมาก่อน ส่วนสถาบันเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสถาบันเกษตรกรดีเด่นต้องมีคุณสมบัติ เป็นสถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย หรือเป็นกลุ่มที่รวมตัวกันอย่างเข้มแข็ง และขึ้นทะเบียนเพื่อรับการส่งเสริมและสนับสนุนจากส่วนราชการมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี มีข้อมูลย้อนหลังให้คณะกรรมการตรวจสอบ อย่างน้อย 3 ปี หากเป็นสถาบันเกษตรกรที่เคยได้รับพระราชทานโล่รางวัลดีเด่นแห่งชาติมาแล้ว จะต้องเว้นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาใหม่
ส่วนเกณฑ์การให้คะแนนคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น และสถาบันเกษตรกรดีเด่น จะพิจารณาแตกต่างกันในแต่ละด้าน กล่าวคือ เกณฑ์การให้คะแนนการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นพิจารณาให้คะแนนใน 4 ด้าน ได้แก่ 1) ความคิดริเริ่มและความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคในการสร้างผลงาน 2) ผลงานและความสำเร็จของผลงานทั้งปริมาณและคุณภาพ ตลอดจนระยะเวลาที่ปฏิบัติงานและความยั่งยืนในอาชีพ 3) ความเป็นผู้นำและการเสียสละ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมในด้านต่างๆ และ4) การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำหรับสถาบันเกษตรกรดีเด่น พิจารณาให้คะแนนใน 5 ด้าน ดังนี้ 1) มีความคิดริเริ่ม2) มีความสามารถในการบริหารและจัดการสถาบัน 3) บทบาทและการมีส่วนร่วมของสมาชิกต่อสถาบัน4) ความมั่นคงและฐานะทางเศรษฐกิจของสถาบัน และ5) การทำกิจกรรมด้านสาธารณประโยชน์ และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้เกษตรกรและผู้แทนสถาบันเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกเป็นเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติด้านประมงทั้งหมดจะได้เข้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชพิธี พืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2559 ณ พลับพลาที่ประทับมณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2559 นี้