แอมเวย์เดินหน้าปี 2544 จัดงบ 78 ล้านเพื่องานแสดงสินค้าทั่วประเทศพร้อมโฆษณาภาพลักษณ์

ข่าวทั่วไป Friday February 23, 2001 14:27 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--23 ก.พ.--แอมเวย์ (ประเทศไทย)
แอมเวย์เดินหน้าปี 2544 จัดงบ 78 ล้านเพื่องานแสดงสินค้าทั่วประเทศพร้อมโฆษณาภาพลักษณ์เตรียมฉลองเปิดพิคแอนด์เพย์ครบ 20 แห่งรองรับความสำเร็จจากไอเอ็มซี
แอมเวย์ (ประเทศไทย) ผู้นำธุรกิจขายตรงในเมืองไทย ฉลองความสำเร็จเปิดร้านสะดวกซื้อ "แอมเวย์ พิคแอนด์เพย์" จังหวัดขอนแก่น ประกาศขยายครบ 20 แห่งทั่วประเทศภายในไตรมาสแรกของปีนี้ เพื่อรองรับหลักการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ "ไอเอ็มซี" พร้อมเดินหน้าแผนงานปี 2001 จัดสรรงบ 50 ล้านบาทสำหรับงานโฆษณาภาพลักษณ์ และอีก 28 ล้านบาทเพื่อจัดงานแสดงสินค้าใหญ่ทั่วประเทศ
นายปรีชา ประกอบกิจ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากแอมเวย์ประเทศไทยได้ประกาศใช้หลักการดำเนินธุรกิจรูปแบบใหม่ "ไอเอ็มซี" โดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถเลือกสมัครเป็นสมาชิกเพื่อใช้สินค้า หรือสมัครเป็นนักธุรกิจอิสระเพื่อดำเนินธุรกิจได้ตามความสนใจ ปรากฏว่า ได้รับการตอบรับและสนับสนุนอย่างดียิ่งทั้งจาก นักธุรกิจอิสระเดิมและจากผู้บริโภคทั่วไป หลังจากเปิดรับสมัครสมาชิกผู้ใช้สินค้าเมื่อเดือนกันยายน 2543 ที่ผ่านมาเพียง 4 เดือน แอมเวย์มีจำนวนสมาชิกผู้ใช้สินค้าเฉลี่ยเดือนละ 20,000 ราย ซึ่งเป็นยอดสมัครใหม่นอกเหนือไปจากจำนวนนักธุรกิจอิสระหลักที่ต่ออายุสมาชิกภาพอย่างสม่ำเสมออีก 147,000 รายทั่วประเทศ ทำให้บริษัทต้องเร่งปรับรูปแบบคลังสินค้าเพื่อให้บริการแก่นักธุรกิจอิสระและสมาชิกให้ได้รับความสะดวกในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์มากยิ่งขึ้น ภายใต้รูปแบบร้านค้าสะดวกซื้อชื่อ "แอมเวย์ พิคแอนด์เพย์"
"เดิมเราคาดว่า จะสามารถปรับคลังสินค้าทั้ง 20 แห่งให้เป็นแอมเวย์ พิคแอนด์เพย์ ได้ภายใน 3 ปี แต่ผลการตอบรับที่ดีจากสมาชิกและนักธุรกิจอิสระ ทำให้เราต้องเร่งมือยิ่งขึ้น จนขณะนี้แอมเวย์ พิคแอนด์เพย์ ได้เปิดให้บริการแล้ว 18 แห่ง และจะครบ 20 แห่งทั่วประเทศภายในไตรมาสแรกของปี 2544 นี้ โดยใช้เวลาดำเนินการเพียงปีครึ่งเท่านั้น สำหรับสาขาที่เปิดดำเนินการแล้ว ได้แก่ สำนักงานใหญ่ ดอนเมือง หนองแขม คลองเตย เชียงใหม่ เชียงราย พิษณุโลก สุรินทร์ ขอนแก่น อุบลราชธานี นครราชสีมา นครสวรรค์ ระยอง ลพบุรี เพชรบุรี ภูเก็ต นครศรีธรรมราช และ หาดใหญ่ ทั้งนี้ สำหรับสาขาที่ 19 และ 20 คือ สุราษฎร์ธานีและธนบุรี มีกำหนดเปิดให้บริการภายในไตรมาสแรกของปี 2544 นี้" นายปรีชากล่าว
นายปรีชา กล่าวอีกว่า แอมเวย์มียอดขายในปีบัญชี 2543 ที่ผ่านมา (เดือนกันยายน 2542-เดือน สิงหาคม 2543) จำนวน 4,030 ล้านบาท และในปี 2544 นี้ บริษัทตั้งเป้าหมายยอดขายสูงขึ้นอีก 10 % โดยประเดิมต้นปีด้วยแผนงานโฆษณาภาพลักษณ์ภายใต้ชื่อแคมเปญ "คุ้มค่า" หรือ Value ประกอบด้วย สื่อโทรทัศน์เป็นสื่อหลักและสื่อสิ่งพิมพ์เป็นสื่อเสริม ด้วยงบประมาณรวม 50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 25% จะเริ่มออกอากาศและตีพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกในวันที่ 18 มกราคม นี้ ด้วยการนำเสนอภาพของผู้บริโภคยุคใหม่ที่เลือกใช้สินค้าอย่างคุ้มค่าและมีเหตุผล สอดคล้องกับปรัชญาการผลิตสินค้าคุณภาพดังวิสัยทัศน์ "แอมเวย์…เพื่อคุณ เพื่อชีวิตที่คุณค่า" ทั้งนี้ การนำสื่อโฆษณามาใช้นับเป็นกลยุทธ์หนึ่งในการเพิ่มเครื่องมือสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และเป็นการส่งเสริมหลักการดำเนินธุรกิจไอเอ็มซีอีกทางหนึ่ง
นายปรีชา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมงบประมาณอีก 28 ล้านบาทสำหรับการจัดงานประชุมและแสดงสินค้าแอมเวย์ 2001 ซึ่งจัดขึ้นต่อเนื่องเป็นประจำทุกปีมาเป็นเวลากว่า 14 ปี และนับเป็นงานแสดงสินค้าต้นแบบในอุตสาหกรรมธุรกิจขายตรงของเมืองไทยทีเดียว สำหรับปีนี้จะจัดขึ้นครั้งแรกวันที่ 3-4 กุมภาพันธ์ ศกนี้ ที่ศูนย์การประชุมและแสดงสินค้านานาชาติอิมแพ็ค(ใหม่) เมืองทองธานี โดยได้ขยายพื้นที่ในการจัดงานเพิ่มขึ้นถึง 70% คาดว่าจะมีผู้สนใจเยี่ยมชมงานถึง 60,000 คน จากนั้นจะเวียนจัดไปยังจังหวัดต่างๆทั่วทุกภูมิภาคอีก 8 แห่ง เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจขายตรงในระดับภูมิภาค
" ในโอกาสอันสำคัญนี้ มร.สตีฟ แวน แอนเดล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อัลติคอร์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแอมเวย์ คอร์ปอเรชั่น ได้ให้เกียรติเดินทางมาร่วมงานประชุมผู้นำนักธุรกิจอิสระแอมเวย์ งานประชุมระดับชาติ และงานแสดงสินค้า แอมเวย์ 2001 ในวันดังกล่าว เพื่อร่วมแสดงความยินดีและตอกย้ำความสำเร็จทั้งของบริษัทและหุ้นส่วนทางธุรกิจของเรา คือนักธุรกิจอิสระแอมเวย์ เนื่องจากในปีบัญชีที่ผ่านมาแม้จะยังประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจอยู่ แต่สำหรับนักธุรกิจอิสระแอมเวย์ที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ จะมีรายได้เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30% ทีเดียว นอกจากนั้นเราพบว่า มีนักธุรกิจอิสระที่ประสบความสำเร็จขึ้นดำรงตำแหน่งสูงขึ้นในระดับเพชรจำนวน 10 รหัส และระดับเพชรบริหารอีก 5 รหัส อีกทั้งยังมีนักธุรกิจอิสระที่สามารถดำรงคุณสมบัติระดับผู้นำได้ถึง 83% นับเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจของนักธุรกิจอิสระรายย่อยอย่างแท้จริง" นายปรีชากล่าวในที่สุด--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ