กรุงเทพฯ--9 พ.ค.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ. ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ลงทุน ในการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2559 และครั้งที่ 3/2559 มูลค่า 3,500 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ ได้นำเงินที่ได้รับการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้ไปใช้ในการชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่มีอยู่เดิม และเพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯ ในการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ด้านผู้บริหาร " จรีพร จารุกรสกุล " เผยการขายหุ้นกู้ในครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่ต้องการลดต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ให้ต่ำลง โดยบริษัทฯ เชื่อว่าการลดต้นทุนการเงินจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังพร้อมที่จะเดินหน้าในการให้บริการ 4 Hubsซึ่งประกอบด้วย LOGISTIC HUB, INDUSTRIAL HUB, UTILITY & POWER HUB และ DIGITAL HUB และตั้งเป้ารายได้ของบริษัทฯ แตะ 1.7 หมื่นล้านบาท ในปีนี้
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA ผู้นำด้าน Built to Suit คลังสินค้า – ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงานระดับพรีเมี่ยม เปิดเผยว่า การเสนอขายหุ้นกู้มูลค่า 3,500 ล้านบาท เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2559 ที่ผ่านมานั้น ประกอบด้วย การเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 2/2559 แก่นักลงทุนทั่วไป และ/หรือ นักลงทุนสถาบัน ในมูลค่า 2,500 ล้านบาท โดยมีธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ในครั้งนี้ และได้เปิดจองซื้อเมื่อวันที่ 25 - 28 เมษายน 2559 ที่ผ่านมา และการเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 3/2559 ในมูลค่า 1,000 ล้านบาท แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงจำนวนไม่เกิน 10 ราย ในวันที่ 29 เมษายน 2559
ทั้งนี้ การออกหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2259 แก่นักลงทุนทั่วไป และ/หรือ นักลงทุนสถาบัน แบ่งเป็น 2 ชุด โดยชุดแรก บริษัทฯ ได้มีการออกหุ้นกู้ อายุ 3 ปี ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2562 ในมูลค่า 1,000 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 3.85 ต่อปี และบริษัทฯ จะจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุของหุ้นกู้ สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ชุดที่ 2บริษัทฯ ได้มีการออกหุ้นกู้ อายุ 4 ปี ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2563 ในมูลค่า 1,500 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.10 ต่อปี และบริษัทฯ จะจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุของหุ้นกู้ ในส่วนของการออกหุ้นกู้ครั้งที่ 3/2259 แก่ผู้ลงทุนโดยเฉพาะเจาะจงจำนวนไม่เกิน 10 ราย บริษัทฯ ได้มีการออกหุ้นกู้ อายุ 4 ปี ที่ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2563 ในมูลค่า 1,000 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.10 ต่อปี และบริษัทฯ จะจ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3เดือน ตลอดอายุของหุ้นกู้
โดยบริษัทฯ มีวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ เพื่อนำเงินที่ได้รับไปชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินที่มีอยู่เดิม เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ ตลอดจนใช้ในการพัฒนาโครงการต่างๆ ของบริษัทในปัจจุบันและโครงการใหม่ของบริษัทฯ เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯ และการขยายธุรกิจในธุรกิจใหม่ๆ ของบริษัทฯ
"ในการออกหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2559 และครั้งที่ 3/2559 เป็นการออกหุ้นกู้ตามมติที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ประจำปี 2558 เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2558 ที่มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ ออกและเสนอขายหุ้นกู้ได้ในวงเงิน 7,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทฯ ได้ออก (ซึ่งรวมการออกหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2559 และครั้งที่ 3/2559) ตามมติดังกล่าวแล้วจำนวน 6,900 ล้านบาท" นางสาวจรีพร กล่าว
นอกจากนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและรองประธานกรรมการ กล่าวเพิ่มเติมว่า การออกหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2559 และครั้งที่ 3/2259 เป็นไปตามนโยบายของบริษัทฯ ที่มีความมุ่งมั่นในการลดต้นทุนทางการเงินของบริษัทฯ ให้ต่ำลงอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ เชื่อว่าการลดต้นทุนการเงินจะก่อให้เกิดผลประโยชน์ต่อบริษัทฯ ตลอดจนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ
ปัจจุบันบริษัทฯเป็นผู้ให้บริการครบวงจรในการให้บริการทางด้านคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า และโรงงาน นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค พลังงาน และอสังหาริมทรัพย์ ในระดับมาตรฐานสากล ตลอดจนการบริหารคลังข้อมูลดิจิทัล (data center) ที่ครบวงจร ทั้งด้านการวางระบบฐานข้อมูล และบริการเสริมต่างๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า โดยเบื้องต้นบริษัทฯ วางแผนจะเป็นผู้นำธุรกิจในการให้บริการ 4 HUBS ซึ่งประกอบด้วยLOGISTIC HUB, INDUSTRIAL HUB, UTILITY & POWER HUB และ DIGITAL HUB ซึ่งหากแผนการขยายธุรกิจดังกล่าวสำเร็จ จะส่งผลให้ WHA เป็น Real Sector ที่ครบวงจรแห่งแรกของโลก
ดังนั้น จากแผนขยายธุรกิจและการดำเนินธุรกิจในข้างต้น บริษัทฯ จึงมั่นใจว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2559 จะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ระดับ 1.6-1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งในปี 2559 บริษัทฯ จะรับรู้รายได้จาก HEMRAJ อย่างชัดเจน รวมถึงการขยายแผนเชิงรุกในการพัฒนาด้านโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรมทั้งในประเทศ และต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น