กรุงเทพฯ--21 พ.ย.--ธ.กรุงไทย
เมื่อวานนี้ (20 พฤศจิกายน 2544) ที่ธนาคารกรุงไทย ได้มีพิธีลงนามในบันทึกความร่วมมือในการสนับสนุนทางการเงินแก่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ระหว่าง นายวิโรจน์ นวลแข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย และนางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมวรรณ ซึ่งเป็นผู้บริหารกองทุนรวมเพื่อร่วมลงทุนในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม
นายวิโรจน์ นวลแข กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่าธนาคารได้ตระหนักถึงความสำคัญของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ซึ่งกระจายอยู่ในภาคการผลิตต่างๆ ถึงกว่าร้อยละ 90 ของธุรกิจทั้งหมดในประเทศ และถือเป็นภาระกิจที่สำคัญที่ธนาคารจะต้องให้การสนับสนุนเพราะ SMEs เป็นรากฐานที่สำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยในปีนี้ ธนาคารได้อนุมัติสินเชื่อให้ธุรกิจ SMEs ไปแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท
"การลงนามในครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือผู้ประกอบธุรกิจ SMEs อีกรูปแบบหนึ่ง โดยธนาคารจะคัดเลือกลูกค้าที่มีศักยภาพในการเจริญเติบโต แต่ยังขาดแคลนเงินทุน จากทุกภาคอุตสาหกรรม ส่งให้ทาง บลจ.วรรณ พิจารณาเข้าร่วมลงทุน ซึ่งการร่วมลงทุนจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับลูกค้า อีกทั้งยังช่วยปรับอัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของกิจการให้ต่ำลง ทำให้ลูกค้าสามารถลดภาวะค่าใช้จ่ายด้านดอกเบี้ยเงินกู้ อีกทั้งธนาคารยังพิจารณาปล่อยสินเชื่อเพิ่ม เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียนและใช้ขยายธุรกิจให้อีกด้วย นอกจากนี้ ทางบลจ.วรรณยังจะให้คำแนะนำในการปรับปรุงประสิทธิภาพในการผลิต บุคคลากร การเงิน การบัญชี รวมทั้งการตลาดให้อีกด้วย"
ทางด้านนางวิวรรณ ธาราหิรัญโชติ กรรมการผู้จัดการ บลจ.วรรณ เปิดเผยว่า ขณะนี้กองทุนรวมเพื่อร่วมลงทุนในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ได้เข้าร่วมทุนเละให้การสนับสนุนทางการเงินกับธุรกิจ SMEs ไปแล้ว 7 บริษัท เป็นวงเงินรวม 82.74 ล้านบาท ประกอบด้วยธุรกิจเสื้อผ้าเด็กเพื่อการส่งออก ธุรกิจผลิตงานแอนิเมชั่นแบบ 3 มิติ ธุรกิจผลิตเฟอร์นิเจอร์ไม้ไผ่ ผลิตอาหาร ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และธุรกิจเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ และภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะสามารถเข้าร่วมทุนได้อีกอย่างน้อย 2 บริษัท
"ในปีหน้าคงได้เห็นภาพกองทุนรวมฯ เข้าไปร่วมทุนกับบริษัทต่างๆ อย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น เพราะได้ลงนามสนับสนุนทางการเงินกับหลายสถาบันการเงิน โดยเฉพาะธนาคารกรุงไทย คาดว่าจะสามารถส่งลูกค้าให้พิจารณาร่วมลงทุนจำนวนมาก เพราะมีฐานลูกค้าที่ใหญ่และกระจายอยู่ทั่วประเทศ"
อนึ่ง กองทุนรวมเพื่อการร่วมทุนในวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม จัดตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนกรกฎาคม 2543 เพื่อให้การสนับสนุนด้านเงินทุนแก่ธุรกิจ SMEs ในรูปแบบของการร่วมลงทุนในสัดส่วน 10-50% ของทุนจดทะเบียน ระยะร่วมลงทุนประมาณ 3-5 ปี อีกทั้งให้คำปรึกษาและแนะนำ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการบริหารจัดการและการแข่งขันของธุรกิจ ฮ อีกด้วย
ฝ่ายสื่อสารและประชาสัมพันธ์ โทร. 0-2208-4174-7--จบ--
-นห-