กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--มีเดีย พลัส คอนเนคชั่น
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) แถลงผล ประกอบการไตรมาสที่ 1 ปริมาณการขายของทุกธุรกิจเติบโตจากปีก่อนแม้ว่าแรงกดดันด้านราคา ยังคงส่งผลกระทบต่อยอดขายสุทธิและรายได้อัตรากำไรขั้นต้นยังคงทรงตัวอยู่ที่ร้อยละ 46 จากความพยายามในการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอย่างต่อเนื่อง
นายศิวะ มหาสันทนะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) แถลงผลประกอบการและการดำเนินธุรกิจในไตรมาสแรกว่า บริษัทได้เพิ่มช่องทางการตลาดใหม่ๆ โดยได้ควบรวมกิจการกับบริษัทปูนซีเมนต์แห่งหนึ่งในประเทศไทย ขณะเดียวกัน ได้เข้าสู่ตลาด บังคลาเทศที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ในไตรมาสที่ผ่านมา บริษัทฯ มียอดขายสุทธิลดลง จากปีก่อนในอัตราร้อยละ 2 เนื่องจากการแข่งขันในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบกับราคาขายที่ลดลง อย่างไรก็ตามบริษัทฯ สามารถรักษาระดับกำไรขั้นต้นให้อยู่ในระดับเดียวกันกับปีที่แล้ว ในอัตราร้อยละ 46 อันเป็นผลมาจากการพยายามลดต้นทุนในการบริหารจัดการโรงงานโดยเพิ่มประสิทธิภาพ ในกระบวนการ ผลิต ราคาถ่านหินและราคาค่าไฟที่ลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อนรวมถึงความสามารถในการต่อรองราคาวัตถุดิบ ส่วนกำไรสุทธิ ลดลงร้อยละ 2 อยู่ที่ 1,362 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคา
"นอกจากนี้ เรายังคงรักษาระดับการขยายตัว ของธุรกิจอื่น ๆ ในกลุ่มบริษัท ฯไว้ได้ เช่น บริษัท นครหลวงคอนกรีต จำกัด ซึ่งประกอบด้วย อินทรีคอนกรีตและอินทรีอะกรีเกตมีการขยายตัวอย่าง ต่อเนื่องในด้านของปริมาณการขาย โดยอินทรีคอนกรีตมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 2 อินทรีอะกรีเกตมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้นร้อยละ 28 ยอดขายของบริษัท คอนวูด จำกัด เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่แล้ว เนื่องจากการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มลูกค้า ที่หลากหลายขึ้น ยอดขายของบริษัท อินทรี ซุปเปอร์บล๊อก จำกัด ก็เพิ่มขึ้นในอัตราร้อยละ 19 เมื่อเทียบกับปีก่อน" นายศิวะ กล่าว
เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2559 ปูนซีเมนต์ นครหลวง ได้เข้าซื้อกิจการบริษัท เซเม็กซ์ ประเทศไทย จำกัด และ เซเม็กซ์ บังคลาเทศ ซึ่งเป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจการผลิตปูนซีเมนต์ ทั้งในประเทศไทย และบังคลาเทศ โดยคาดว่าการซื้อกิจการจะเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือนพฤษภาคม 2559 นี้
นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 5 เมษายน 2559 บริษัทในกลุ่มบริษัทฯ ยังได้เข้าซื้อกิจการบริษัท วาเลนซ์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งดำเนินธุรกิจทำความสะอาดของเสียจากโรงงานอุตสาหกรรมอีกด้วย
"การเติบโตของตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศในช่วงไตรมาสแรกอยู่ในอัตราร้อยละ 2-3 ซึ่งเป็นไป ตามการคาดการณ์ล่วงหน้าจากตัวเลขของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศซึ่งมาจากการกระตุ้น ภาวะเศรษฐกิจจากรัฐบาล เช่น การลดอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมสำหรับผู้มีรายได้น้อย การประกันราคา สินค้าเกษตร และนโยบายกองทุนหนึ่งตำบล" นายศิวะ สรุป