กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--On Art Creation
สสว. จัดการประกวดรางวัล "สุดยอด SMEs แห่งชาติ" ครั้งที่ 8 ประจำปี 2559 เฟ้นหาผู้ประกอบการ SMEs ไทยที่มีศักยภาพและมีการจัดการธุรกิจที่ได้มาตรฐาน หวังสร้างแรงบันดาลใจให้ SMEs เพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถการบริหารจัดการธุรกิจในทุกมิติสู่มาตรฐานสากล เผยปัจจุบันมี SMEs ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดที่ผ่านมา เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ไปแล้ว
นางสาลินี วังตาล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว. ได้จัดประกวดรางวัล "สุดยอด SMEs แห่งชาติ" ครั้งที่ 8 ประจำปี 2559 (8th SMEs National Awards 2015) ภายใต้แนวคิด "ตามหาเพชรน้ำดี SMEs ไทย" โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสรรหาผู้ประกอบการ SMEs ต้นแบบ ที่มีความสามารถในการดำเนินกิจการอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานที่ดี มีความโปร่งใส และมีธรรมาภิบาล เพื่อสร้างต้นแบบให้เป็นแบบอย่างสำหรับผู้ประกอบการ SMEs รายอื่นๆ ให้มีการปรับปรุงวิธีการดำเนินธุรกิจและการบริหารจัดการเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของธุรกิจตนเอง และเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และกระตุ้นให้ผู้ประกอบการ SMEs ตื่นตัวและตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาศักยภาพของธุรกิจให้มีความเติบโตและเข้มแข็ง สามารถแข่งขันได้ทั้งในระดับประเทศและสากล
โครงการประกวดรางวัล "สุดยอด SMEs แห่งชาติ" จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อ พ.ศ. 2549 และเป็นโครงการที่ สสว. ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง โดยการประกวดจัดมาแล้วทั้งสิ้น 7 ครั้ง และในปี 2559 จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 8 จากการจัดประกวดที่ผ่านมามีผู้ประกอบการ SMEs สมัครเข้าร่วมการประกวดรวมแล้วกว่า 8,000 ราย
การประกวดในครั้งนี้ วางเป้าหมายคัดเลือกธุรกิจที่เป็นวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมจาก 20 กลุ่มธุรกิจ ประกอบด้วย ภาคการผลิต ได้แก่ธุรกิจอาหาร และเครื่องดื่ม ธุรกิจชิ้นส่วนยานยนต์ ธุรกิจไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร ธุรกิจสิ่งทอและแฟชั่น ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์และผลิตภัณฑ์จากไม้ ธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับ ธุรกิจเครื่องจักรกลและอุปกรณ์ ธุรกิจพลาสติกและยาง ธุรกิจสิ่งพิมพ์ ธุรกิจเซรามิก และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากแร่อโลหะ ภาคการค้า ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีก ธุรกิจเพื่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ภาคบริการ ได้แก่ ธุรกิจโรงแรม ท่องเที่ยว และภัตตาคาร ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเพื่อสุขภาพ ธุรกิจงานสร้างสรรค์และออกแบบ ธุรกิจก่อสร้าง ธุรกิจซ่อมบำรุง และ ภาคการเกษตร ได้แก่ ธุรกิจการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ
สำหรับเกณฑ์การพิจารณาและตัดสิน ยังคงได้รับความร่วมมือจากสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ ซึ่งเป็นหน่วยงานร่วมดำเนินการประกวด นำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award-TQA) มาปรับใช้ในการพิจารณาประเมิน เพื่อให้มีความเหมาะสมและตรงกับวัตถุประสงค์ของการประกวด โดย สสว. ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันเพิ่มผลผลิตแห่งชาติ จะเข้าไปประเมินระบบงานต่างๆ ของ SME ว่ามีประสิทธิภาพ มีธรรมาภิบาล และมีระบบงานที่สมบูรณ์มากน้อยเพียงใด โดยผู้ประกอบการ SMEs ที่สมัครเข้าร่วมประกวด และสามารถผ่านการคัดเลือกเข้าสู่การสัมภาษณ์และตรวจเยี่ยมสถานประกอบการ จะได้รับคำปรึกษาแนะนำ รวมถึงได้รับรายงานวิเคราะห์และประเมินผลการบริหารจัดการในด้านต่างๆ เพื่อเป็นสิ่งสะท้อนให้ผู้ประกอบการ SMEs รายนั้น ได้เห็นตัวตนของตนเอง ทั้งจุดดี-จุดด้อย รวมถึงข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ เช่น การสร้างตราสินค้า (Brand) การขยายตลาด การนำนวัตกรรมมาปรับปรุงรูปแบบของสินค้าให้เป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น หรือการปรับปรุงด้านบริหารจัดการ เป็นต้น เพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุง พัฒนาศักยภาพในการบริหารจัดการ และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในแข่งขันของผู้ประกอบการต่อไป ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SMEs ที่เคยได้รับรางวัลจากการประกวดในแต่ละครั้งที่ผ่านมา ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ไปแล้วจำนวน 3 ราย ได้แก่ บริษัท ไวส์โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) (เดิมชื่อ บริษัท คิว.ที.ซี. ทรานสเฟอร์เมอร์ จำกัด) และบริษัท มาสเตอร์คูลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) และอีกหลายรายอยู่ระหว่างการปรับปรุงกิจการและเตรียมการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI ส่วนผู้ประกอบการรายอื่นๆ ก็สามารถนำผลของการประเมินไปปรับปรุงกิจการให้ได้มาตรฐานตามที่ได้รับคำแนะนำ
ในปี 2559 นี้ สสว. ได้ปรับปรุงโครงการ SMEs National Awards เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่ผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น กล่าวคือ การประเมินของผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้รู้ว่า SME แต่ละราย ควรจะมีพัฒนาการเพิ่มขึ้นทางด้านใด เช่น การสร้างตราสินค้า (Brand) การขยายตลาด การนำนวัตกรรมมาปรับปรุงรูปแบบของสินค้าให้เป็นที่ต้องการของตลาดมากยิ่งขึ้น หรือการปรับปรุงด้านบริหารจัดการ สิ่งที่ต่างออกไป จากเดิมคือ สสว. จะช่วยสนับสนุนทางด้านการเงิน และเทคโนโลยี เพื่อให้ SME สามารถปรับปรุงได้ในประเด็นที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ เช่น การแนะนำช่องทางการตลาดขนาดที่ใหญ่ขึ้นให้ หรือ การนำนวัตกรรมจากมหาวิทยาลัยที่เป็นภาคีของ สสว. มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้สินค้าของ SME มีความจูงใจทางด้านการตลาดมากขึ้น เป็นต้น
"จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจ และมีคุณสมบัติตามข้อกำหนด สมัครเข้าประกวด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปี 2559 นี้ สสว. ได้มีการปรับปรุง โครงการรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ เน้นการสร้างประโยชน์แก่ผู้ประกอบการมากยิ่งขึ้น นอกเหนือจากการวิเคราะห์ ประเมินผลและให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการ SMEs จากผู้เชี่ยวชาญแล้ว สิ่งที่ สสว. ปรับปรุงเพิ่มเติมขึ้นมาในปีนี้ คือ สสว. จะช่วยสนับสนุนทางด้านการเงินและเทคโนโลยี เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs สามารถพัฒนาได้ในประเด็นที่ผู้เชี่ยวชาญให้คำแนะนำ เช่น การแนะนำช่องทางการตลาดขนาดที่ใหญ่ขึ้น หรือการนำนวัตกรรมจากมหาวิทยาลัย ที่เป็นภาคีของ สสว. มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้สินค้าจากผู้ประกอบการ SMEs มีความจูงใจด้านการตลาดมากขึ้น เป็นต้น ดังนั้น โครงการรางวัลสุดยอด SMEs แห่งชาติ ยุคปรับปรุงนี้ จะเป็นการเปิดโอกาสให้ SME ไทย ได้พัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขัน และยกระดับสินค้าให้เข้าสู่มาตรฐานสากล ซึ่งจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาวได้ในที่สุด" นางสาลินี กล่าว
ผู้ประกอบการ SMEs ที่สนใจสมัครเข้าร่วมประกวดรางวัล "สุดยอด SMEs แห่งชาติ" ครั้งที่ 8 ประจำปี 2559 สามารถดาวน์โหลดและยื่นใบสมัครได้ที่ www.SMEsNationalAwards.com ตั้งแต่บัดนี้ ถึง วันที่ 15 มิถุนายน 2559 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์ประสานงานการรับสมัคร โทรศัพท์ 0-2619-5500 ต่อ 588 หรือ ฝ่ายส่งเสริมธุรกิจ SMEs สสว.โทรศัพท์ 02-298-3205 และ www.facebook.com/smesnationalawards