บทบาทของ IoT (Internet of things) ปัจจุบันสู่อนาคต

ข่าวเทคโนโลยี Wednesday May 11, 2016 13:50 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--เวเบอร์ แชนวิค กระแส Internet of Things และเรื่องของบิ๊กดาต้า (Big Data) นับเป็นประเด็นยอดฮิตติดลมบนในโลกเทคโนโลยีที่หลายคนพูดถึงกันมากเป็นพิเศษในระยะหลังมานี้ อันเนื่องมาจากการผสมผสานของเทคโนโลยีดังกล่าวทำให้เกิดประโยชน์ทางธุรกิจมากมาย อาทิ โอกาสทางธุรกิจที่จะมีอย่างต่อเนื่องจากการพัฒนาแอพพลิเคชั่นใหม่เพื่อการใช้งานใหม่ๆ ดังนั้นการจัดการข้อมูลให้เกิดประสิทธิภาพคือหัวใจสำคัญหลักในการควบคุมและใช้งาน Internet of Things ให้เกิดประโยชน์สูงสุด จากรายงานของการ์ทเนอร์ (Gartner) ระบุว่าภายในปี 2563 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า อุปกรณ์ต่างๆ กว่า 25,000 ล้านเครื่องจะเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ต ซึ่งส่งผลให้เกิดการใช้ข้อมูลในปริมาณมากมายมหาศาล การมาของ Internet of Things ส่งผลต่อการเคลื่อนไหวและพัฒนาไปสู่ความเป็น Smart City หรือเมืองอัจฉริยะ อันสอดรับกับนโยบาย Digital Economy ของรัฐบาลไทย ซึ่งจะเป็นการใช้เทคโนโลยีอย่างกว้างขวางและส่งผลโดยตรงสังคมไทยและการใช้ชีวิตของคนไทย ไม่ว่าจะเป็น ระบบทะเบียนราษฎร ข้อมูลสาธารณสุขของประชากร ระบบขนส่งเดินทาง และการศึกษา เน็ตแอพ บริษัทชั้นนำในการจัดการและบริหารข้อมูลระดับโลก เผยว่า Internet of Things คือแนวทางสำคัญที่ทำให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเชื่อมต่อระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของตนกับไฮบริดคลาวด์ (Hybrid Cloud) หรือ เทคโนโลยีคลาวด์แบบผสมผสาน ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ที่สำคัญดังต่อไปนี้ Internet of Things จะทำให้ระบบจัดเก็บข้อมูลที่เชื่อมต่อกันเป็นเน็ตเวิร์คแต่อยู่อย่างกระจัดกระจายมีการประมวลผลอย่างมีประสิทธิภาพ Internet of Things ช่วยให้เกิดการทำงานแบบเรียลไทม์และสามารถแชร์ข้อมูลได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าข้อมูลจะถูกเก็บไว้ที่ไหนก็ตาม การใช้ Internet of Things ทำให้เกิดความซับซ้อนในการบริหารข้อมูลในแบบเรียลไทม์ซึ่งเป็นจุดแข็งของเน็ตแอพ วิสัยทัศน์ของเน็ตแอพ ด้าน "ดาต้า แฟบริค" (Data Fabric) ที่สามารถทำให้ผู้ใช้งาน สามารถบริหารจัดการข้อมูลที่ถูกจัดเก็บและใช้งานอยู่ในประเภทของระบบคลาวด์ที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็น private cloud, hyper scale cloud หรือ cloud service provider ได้อย่างราบรื่นเหมือนกับผืนผ้าที่ทักทอเข้าไว้ด้วยกันได้อย่างแนบสนิท จะช่วยให้ภาคธุรกิจต่างๆ สามารถจัดการข้อมูลที่กระจัดกระจายอยู่ในโลกของ Internet of Things ได้อย่างชาญฉลาด ได้แก่ Internet of Things ส่งผลโดยตรงต่อข้อมูล ดังนั้นผลกระทบต่อเน็ตแอพคือ Internet of Things ทำให้เกิดการไหลบ่าของข้อมูลในปริมาณหลายเทระไบต์ซึ่งต้องการการจัดเก็บชั่วคราว หรืออย่างถาวร รวมถึงการส่งต่อข้อมูล เรียกข้อมูลคืน ป้องกันข้อมูลสูญหายและวิเคราะห์ข้อมูล เป็นต้น จากการเป็นผู้บุกเบิกวิสัยทัศน์ด้านดาต้า แฟบริค เน็ตแอพอยู่ในฐานะที่สามารถช่วยให้ลูกค้าตอบสนองการทำงานได้รวดเร็วขึ้น เมื่อมีการไหลผ่านของข้อมูลเข้ามาในปริมาณมากจากหลายหลายที่ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในการจัดการข้อมูลที่ถูกเก็บอยู่บนคลาวด์แตกต่างที่กัน ในสภาพแวดล้อมของ Internet of Things ข้อมูลจะมีการเก็บไว้ ส่งต่อและแลกเปลี่ยนบน Private Cloud คลาวด์ส่วนตัวหรือคลาวด์ในองค์กร Public Cloud คลาวด์สาธารณะหรือผู้ให้บริการคลาวด์ในประเทศและHybrid Cloud คลาวด์แบบผสมผสาน บริหารจัดการและผสมผสานข้อมูลที่ถูกเก็บไว้ตามที่ต่างๆ โดยที่ผู้อื่นไม่สามารถนำไปใช้ได้ ทำหน้าที่ป้องกันและจัดการข้อมูล ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นสิ่งสำคัญที่เพิ่มมูลค่าให้กับแพลตฟอร์มของ Internet of Things ด้วยข้อมูลเพียงชุดเดียวที่ใช้ร่วมกัน เป้าหมายของเน็ตแอพคือทำให้ทุกองค์กรเข้าใจบทบาทของการจัดเก็บข้อมูลในโลกปัจจุบันซึ่งทุกอย่างถูกขับเคลื่อนด้วยดาต้า รวมทั้งประโยชน์ที่ธุรกิจจะได้รับจากเทคโนโลยีของเน็ตแอพต่อการเพิ่มขึ้นของข้อมูล Internet of Things และเทรนด์อื่นๆ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ