กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--IR PLUS
SMPC ประกาศยอดขายรวมไตรมาสแรกปีนี้ 811.76 ลบ. โกยกำไรสุทธิ 134.67 ลบ. เพิ่มขึ้นถึง 166.5% เหตุออเดอร์ลูกค้าทะลัก ค่าเงินบาทอ่อนหนุนส่งออก ประเมินความต้องการใช้ถังแก๊สแอลพีจีในต่างประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง บิ๊กบอส "สุรศักดิ์ เอิบสิริสุข" คาดยอดขายปีนี้โตได้ตามคาด 15-20% จากปีก่อนที่มียอดขายรวมประมาณ 2.82 พันล้านบาท เน้นเดินหน้ารุกตลาดต่างประเทศ ล่าสุดได้ปรับปรุงคุณภาพการผลิต คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 2/59 และสามารถเริ่มใช้งานได้ในไตรมาส 3 ปีนี้ เผยการปรับปรุงเครื่องจักรดังกล่าวจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตถังแก๊สได้อีกราว 10% จาก 6.2 ล้านใบต่อปี เป็น 6.8 ล้านใบต่อปี
นายสุรศักดิ์ เอิบสิริสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท สหมิตรถังแก๊ส จำกัด (มหาชน) หรือ SMPC ผู้ประกอบธุรกิจผลิตถังทนความดันแบบต่างๆ โดยผลิตภัณฑ์หลักเป็นถังสำหรับบรรจุแก๊สปิโตรเลียมเหลว (LPG) เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงหุงต้ม และสำหรับใช้เป็นแหล่งพลังงานรถยนต์ โดยจำหน่ายภายในและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า "SMPC" รวมทั้งรับจ้างผลิตภายใต้เครื่องหมายการค้าต่างๆ เปิดเผยถึง ผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2559 ว่า มียอดขายอยู่ที่ 811.76 ล้านบาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนมียอดขาย 664.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 147.30 ล้านบาท หรือ 22.2% เนื่องจากในงวดนี้ปริมาณขายเพิ่มสูงขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากค่าเงินยูโรที่ผันผวนมากในช่วงต้นปี 58 ทำให้ลูกค้าบางส่วนชะลอการสั่งซื้อเพื่อรอดูสถานการณ์ อย่างไรก็ตาม ลูกค้าเริ่มกลับมาสั่งซื้อตามปกติแล้วตั้งแต่ช่วงครึ่งปีหลังของปี 58 ประกอบกับราคาเหล็กที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ลูกค้าสั่งซื้อในปริมาณเพิ่มขึ้น
ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 134.67 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.13 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 166.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งมีกำไร 50.54 ล้านบาท เนื่องจากยอดขายและอัตราการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น โดยในไตรมาส 1/59 นี้ บริษัทฯมีกำไรขั้นต้น 248.75 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 110.93 ล้านบาท หรือคิดเป็น 80.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรขั้นต้น 137.82 ล้านบาท ทั้งนี้อัตรากำไรขั้นเพิ่มขึ้น 9.9% จาก 20.7% เป็น 30.6% เป็นผลจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลง ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนค่าลงส่งผลดีต่อบริษัทในฐานะผู้ส่งออก ทำให้อัตราการทำกำไรดีขึ้น
"ผลงานที่ออกมาทั้งยอดขายและกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น ถือว่าเป็นที่น่าประทับใจเป็นอย่างมาก และคาดว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/59 ผลประกอบการจะออกมาดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้การรุกตลาดต่างประเทศ บริษัทฯ ยังคงบริหารงานโดยมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการขยายตลาดใหม่ๆในต่างประเทศ เพิ่มเติม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะในแถบประเทศที่กำลังพัฒนาในโซนแอฟริกา และเอเชีย เนื่องจากยังมีความต้องการใช้แก๊ส LPG เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสอดคล้องกับภาพรวมเศรษฐกิจในหลายประเทศที่ขยายตัว ประกอบกับราคา LPG ในตลาดโลกเริ่มปรับตัวลดลง ทำให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนหันมาใช้แก๊ส LPG เป็นเชื้อเพลิงมากขึ้น จึงมองว่าเป็นโอกาสในการขยายฐานสร้างรายได้ให้กว้างยิ่งขึ้น" นายสุรศักดิ์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มธุรกิจทั้งปี 2559 บริษัทฯ ประเมินยอดขายยังคงเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้เพิ่มขึ้น15-20% จากปีก่อนที่มียอดขายอยู่ที่ 2,825 ล้านบาท เป็นผลมาจากแนวโน้มความต้องการใช้แก๊ส LPG ที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณการใช้ถังบรรจุขยายตัวตามไปด้วย ประกอบกับบริษัทฯได้ปรับปรุงคุณภาพการผลิตเพื่อรองรับความต้องการสินค้าที่ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในระยะสั้นบริษัทได้ปรับปรุงคอขวดในส่วนของการผลิต และปรับปรุงเครื่องจักร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต โดยได้เริ่มปรับปรุงแล้วตั้งแต่ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา และคาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ปีนี้ และสามารถเริ่มใช้งานได้ในไตรมาส 3 นี้ โดยการปรับปรุงเครื่องจักรดังกล่าวจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตถังแก๊สได้อีกราว 10% จาก 6.2 ล้านใบต่อปี เป็น 6.8 ล้านใบต่อปี ด้านกำไรสุทธิปีนี้เราคาดว่าจะเติบโตในทิศทางเดียวกับยอดขายได้ ประกอบกับแรงหนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า เพราะรายได้หลักของบริษัทฯ มาจากต่างประเทศกว่าร้อยละ 90