กรุงเทพฯ--11 พ.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
กำไรสุทธิคิดเป็นมูลค่า 184 ล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้จากการดำเนินงานในแต่ละหน่วยอยู่ที่ 419 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
รายได้จากการดำเนินงานในแต่ละหน่วยเติบโตขึ้นร้อยละ 8 รายได้จากการดำเนินงานในแต่ละหน่วยที่สำคัญเติบโตขึ้นร้อยละ 14
ภูมิภาคอเมริกาเหนือทำรายได้คิดเป็นมูลค่า 260 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการดำเนินงานร้อยละ 13
ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกทำรายได้คิดเป็นมูลค่า 79 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการดำเนินงานร้อยละ 16
การซื้อหุ้นของบริษัทคืนคิดเป็นมูลค่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสแรก
บริษัทแถลงจุดยืนเป้าหมายทางการเงินในปี 2559 ที่จะประกาศในวันนักลงทุนที่กำลังจะมาถึง
บริษัท กู๊ดเยียร์ ไทร์ แอนด์ รับเบอร์ จำกัด สหรัฐอเมริกา แถลงผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ของปี 2559
มร.ริชาร์ด เจ. เครเมอร์ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เผยว่า "เรารู้สึกภูมิใจเป็นอย่างยิ่งกับผลงานในไตรมาสแรก เนื่องจากความต้องการในกลุ่มสินค้าระดับพรีเมี่ยมและคุณภาพยอดเยี่ยมของเรานั้นสูงขึ้นมาก รวมถึงส่วนประสมของผลิตภัณฑ์ที่ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ช่วยให้บริษัทมีผลกำไรมากขึ้น โดยกำไรที่ได้จากการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกเพิ่มขึ้นร้อยละ 11.4 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่เพิ่มขึ้นเพียงร้อยละ 9.6
มร. เครเมอร์กล่าวต่อ "ผลงานที่เกิดขึ้นทั้งหมด สะท้อนให้เห็นถึงความสำเร็จของการนำนโยบายของบริษัทมาปฏิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงความมุ่งมั่นในการนำเสนอคุณภาพของผลิตภัณฑ์ให้กับตลาด และความเป็นเลิศในด้านการทำงานของเรา จะช่วยให้เราสร้างข้อได้เปรียบทางการค้าได้อย่างแน่นอน"
ทั้งนี้ ยอดขายของกู๊ดเยียร์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 อยู่ที่ 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ทำรายได้อยู่ที่ 4 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้สาเหตุเกิดมาจากผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงอัตราการแลกเปลี่ยนเงินตราสกุลของต่างประเทศที่ไม่น่าพอใจ เป็นมูลค่าถึง 141 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และการกระจายส่งสินค้าไปยังบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลา
ในส่วนของยอดจำหน่ายรวมอยู่ที่ 41.5 ล้านเส้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2558 ซึ่งเกิดจากการเติบโตทางธุรกิจในทวีปเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นและจีน โดยที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ในตลาดยางรถยนต์ทดแทน (Replacement) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์กู๊ดเยียร์ในตลาดยางติดรถ (Original Equipment) เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 ทั้งนี้ หากไม่รวมถึงผลกระทบจากการกระจายส่งสินค้าไปยังบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลา ยอดจำหน่ายยางรวมจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 3
กู๊ดเยียร์ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสแรกของปี 2559 มูลค่า 419 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่มูลค่า 388 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีผลจากปัจจัยต่างๆ อาทิ ราคาสุทธิวัตถุดิบต่างๆ และยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น
ผลงานดังกล่าวที่เติบโตขึ้น อาจได้รับผลกระทบบ้างเล็กน้อยจากการกระจายส่งสินค้าไปยังบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลาและยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆ ในด้านการบริหารจัดการทั่วไป ทั้งนี้ รายได้จากการดำเนินงานที่สำคัญ ซึ่งไม่รวมในเวเนซุเอลานั้น มูลค่า 366 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา
การกระจายส่งสินค้าไปยังบริษัทย่อยในประเทศเวเนซุเอลานั้นส่งผลกระทบทางด้านลบต่อยอดจำหน่ายรวม ที่ประมาณ 0.4 ล้านเส้น โดยมียอดขายอยู่ที่มูลค่า 94 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และรายได้จากการดำเนินงานในหน่วยต่างๆ ที่มูลค่า 22 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
เอเชีย แปซิฟิก
ยอดขายในไตรมาสที่ 1 ของปี 2559 ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 จากปีก่อน อยู่ที่มูลค่า 489 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยยอดขายนี้สะท้อนถึงยอดจำหน่ายรวมที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 โดยมีปัจจัยหลักมาจากการเติบโตทางเศรษฐกิจในประเทศญี่ปุ่นและจีน โดยผลงานที่เติบโตขึ้นเหล่านี้ ได้รับผลกระทบไปบ้างเล็กน้อยจากการแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างประเทศที่ไม่น่าพอใจ
ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์ในตลาดยางรถยนต์ทดแทน (Replacement) เพิ่มขึ้นร้อยละ 41 ในขณะที่ปริมาณการจำหน่ายยางรถยนต์กู๊ดเยียร์ในตลาดยางติดรถ (Original Equipment) เพิ่มขึ้นร้อยละ 14
รายได้จากการดำเนินงานในไตรมาสที่ 1 ของปี 2559 ที่มีมูลค่า 79 ล้านเหรียญสหรัฐฯ นั้น เพิ่มขึ้นร้อยละ 18 จากปีที่แล้ว เป็นผลมาจากปัจจัยต่างๆ อาทิ ราคาสุทธิวัตถุดิบต่างๆ และยอดจำหน่ายที่เพิ่มขึ้น
เป้าหมายทางการเงินในปี 2559
บริษัทได้แถลงจุดยืนในเป้าหมายทางการเงินขององค์กรในปี 2559 ไว้ดังนี้:
การเติบโตด้านรายได้จากการดำเนินงานในหน่วยธุรกิจที่สำคัญ เพิ่มขึ้นระหว่างร้อยละ 10-15 (ไม่รวมธุรกิจในประเทศเวเนซุเอลา)
กระแสเงินสดอิสระในทางบวกจากการดำเนินงานต่างๆ
อัตราหนี้ที่ปรับแล้วต่อค่า EBITDA หรือกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษีนิติบุคคล ค่าเสื่อมและค่าจัดจำหน่าย คือ 2.0x ต่อ 2.1x ในสิ้นปีนี้