กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--IR network
บมจ. เอแอลที เทเลคอม (ALT) เดินสายโรดโชว์เรียกความเชื่อมั่นนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อย 5 จังหวัดทั่วประเทศ ประเดิมที่แรกจังหวัดชลบุรี สงขลา เชียงใหม่ ขอนแก่น และกรุงเทพฯ เตรียมขายหุ้นไอพีโอ 250 ล้านหุ้น เร็วๆ นี้ ก่อนเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้นไตรมาส 3 นี้ "ปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์" มั่นใจนักลงทุนให้การตอบรับอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานแกร่งและแนวโน้มอุตสาหกรรมโทรคมนาคมขยายตัวต่อเนื่องทุกปี หนุนผลประกอบการในอนาคตสดใสบวกกับแผนธุรกิจที่มีความชัดเจน
นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) (ALT) ผู้ประกอบธุรกิจโทรคมนาคมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า ก่อนการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 250 ล้านหุ้น บริษัทฯ มีแผนที่จะเดินสายโรดโชว์เพื่อนำเสนอข้อมูลให้แก่นักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน ซึ่งจะทำให้นักลงทุนรู้จักและมีความเข้าใจในพื้นฐานรวมถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยจะทำการโรดโชว์ทั้งสิ้น 5 จังหวัด โดยวันที่ 16 พฤษภาคมนี้ เป็นการโรดโชว์ครั้งแรกที่จังหวัดชลบุรี วันที่ 18 พฤษภาคม อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา วันที่ 23 พฤษภาคม จังหวัดเชียงใหม่ วันที่ 26 พฤษภาคม จังหวัดขอนแก่น หลังจากนั้นจะเป็นการเดินสายโรดโชว์กับนักลงทุนสถาบัน และจะปิดท้ายการโรดโชว์แก่นักลงทุนในวันที่ 14 มิถุนายน ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กรุงเทพฯ
การเดินทางไปโรดโชว์ในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำเสนอข้อมูลของ ALT ทั้งในส่วนของการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน และแผนการขยายธุรกิจ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนได้เห็นถึงศักยภาพในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ รวมถึงวิสัยทัศน์ของผู้บริหารที่มีความโดดเด่น จึงทำให้มั่นใจว่าในช่วงการโรดโชว์ดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี
"ALT มีจุดเด่น คือ เป็นผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมแบบครบวงจร (one stop solution for telecom provider) และเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ดีกับผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคม (Telecom Operators) เสมอมาและด้วยประสบการณ์ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมากกว่า 15 ปี ทำให้เราสามารถเข้าใจความต้องการของลูกค้าเฉพาะกลุ่มเป็นอย่างดี จึงได้รับความไว้วางใจมอบหมายงานเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลทำให้บริษัทฯ มีผลประกอบการที่เติบโตสูงอย่างต่อเนื่องด้วย และเชื่อว่าการโรดโชว์ครั้งนี้จะทำให้นักลงทุนเข้าใจเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท มองเห็นแผนการเติบโตเพื่อให้บรรลุถึงเป้าหมายที่วางไว้" นางปรีญาภรณ์ กล่าว
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บมจ. เอแอลที เทเลคอม (ALT) เปิดเผยว่า "เอแอลที เทเลคอม" เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่มีความน่าสนใจอย่างมาก โดย ALT มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ในวงการอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมาอย่างยาวนานและมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจเป็นอย่างดี ประกอบกับอุตสาหกรรมโทรคมนาคมมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับงานใหม่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอและมีผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างโดดเด่นต่อเนื่องมาโดยตลอด ทั้งนี้ ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ALT มีการขยายตัวอย่างมากทุกปี โดยในปี 2556 มีกำไรสุทธิ 50.14 ล้านบาท มีรายได้จากการดำเนินงาน 1,916.81 ล้านบาท ปี 2557 มีกำไรสุทธิ 100.94 ล้านบาท มีรายได้จากการดำเนินงาน 1,806.79 ล้านบาท และปี 2558 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 220.16 ล้านบาท มีรายได้จากการดำเนินงาน 2,600.20 ล้านบาท
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ ALT มั่นใจว่าด้วยปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการของบริษัทฯ ที่มีการเติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในส่วนของกำไรสุทธิในช่วงปี 2556-2558 ที่มีการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึงร้อยละ 109.54 รวมถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคต ทั้งจากธุรกิจให้เช่าโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมที่จะขยายพื้นที่ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยบริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะเพิ่มสัดส่วนผลประกอบการจากธุรกิจให้เช่าโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม ซึ่งมีลักษณะเป็นรายได้ประจำ (Recurring Income) ให้มีสัดส่วน 50% ของผลประกอบการรวมของบริษัทฯ ภายใน 5 ปี รวมถึงการขยายการลงทุนของผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเป็นอุตสาหกรรมที่ต้องใช้งบลงทุนสูงเพื่อรองรับการปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีและประสิทธิภาพการให้บริการอยู่ตลอดเวลา จะทำให้การโรดโชว์ในครั้งนี้ได้รับการตอบรับที่ดีจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและนักลงทุนสถาบัน โดยคาดว่าจะสามารถเปิดจองซื้อหุ้น IPO ได้ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ในช่วงต้นเดือนกรกฎาคมนี้
ทั้งนี้ ALT เตรียมนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ในการลงทุนโครงข่ายเคเบิลใยแก้วนำแสง ชำระคืนเงินกู้ยืม และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อต่อยอดธุรกิจตามที่บริษัทฯ ได้วางแผนไว้