กรุงเทพฯ--12 พ.ค.--ไทยออพติคอล กรุ๊ป
TOG โชว์กำไรไตรมาสแรกทะลุเป้าโต 73% จากยอดขายรวม 523.32 ล้านบาท จากมูลค่าการขายเลนส์พรีเมี่ยมโตต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา เผยไตรมาส 4 โรงงานใหม่พร้อมเดินเครื่องผลิต เตรียมรุกตลาดเออีซีเพิ่ม หลังประสบความสำเร็จในตลาดยุโรป อเมริกา ออสเตรีเลีย และเอเชียแปซิฟิก
นายธรณ์ ประจักษ์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยออพติคอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TOG ผู้นำด้านการผลิตและจำหน่ายเลนส์สายตาพลาสติกรายใหญ่ของประเทศไทย และผู้ผลิตเลนส์อิสระในระดับสากล เปิดเผยถึงผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2559 ว่าบริษัทมีรายได้รวมจากการขายและบริการทั้งสิ้น 523.32 ล้านบาท สูงกว่าไตรมาสจากงวดเดียวกันของปีก่อน 58.53 ล้านบาท หรือ คิดเป็นอัตราการเติบโต 12.59 % ซึ่งเป็นผลมาจากมูลค่าการขาย "เลนส์พลาสติกมูลค่าเพิ่ม" หรือกลุ่มเลนส์พรีเมี่ยม เพิ่มสูงขึ้น โดยมีกำไรสุทธิ 75.30 ล้านบาท เพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อน 31.83 ล้านบาท หรือคิดเป็น 73.23 % ซึ่งอัตราผลกำไรที่เติบโตสูงขึ้นมากนั้น เป็นผลมาจากการขายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มพรีเมี่ยมมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปีก่อน ประกอบกับการวางระบบบริหารจัดการ และการควบคุมภายในที่ดีขึ้น สามารถควบคุมต้นทุนการผลิตให้มีประสิทธิภาพ อีกทั้งมีการเพิ่มกลยุทธ์ในการวางแผนสื่อโฆษณาเพื่อส่งเสริมการตลาดและการขาย อีกด้วย
" การขยายตัวของยอดขายเลนส์พรีเมียม หรือที่เรียกว่า "เลนส์พลาสติกมูลค่าเพิ่ม" เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะตลาดสหรัฐอเมริกามีอัตราการขยายตัวสูงที่สุด ทั้งนี้ นอกจากตลาดฝั่งอเมริกา และยุโรปแล้ว บริษัท ยังให้ความสำคัญกับตลาดกลุ่ม เออีซี ด้วย เนื่องจากมีสัดส่วนความต้องการใช้เลนส์ที่มีความเหมาะสมกับสภาพสายตาที่หลากหลาย ซึ่งมูลค่าการขายเลนส์กลุ่มนี้มีมูลค่าสูง โดยมีผ่านมา TOG ให้ความสำคัญกับการทำวิจัย และพัฒนา เพื่อให้มีนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของตลาดทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งมั่นใจว่าปี 2559 นี้ TOG จะยังคงมีอัตราการเติบโตตามเป้า" นายธรณ์ กล่าว
ปัจจุบัน TOG มีสัดส่วนตลาดต่างประเทศอยู่ 95% และในประเทศะ 5% โดยส่วนใหญ่เป็นประเทศในแถบยุโรป ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อเมริกา และเอเชียแปซิฟิค สำหรับการขยายตลาดเออีซี นั้น บริษัทฯ ได้ขายสินค้าผ่านบริษัทร่วมทุน 3 ประเทศ โดย TOG เข้าถือหุ้นในสัดส่วนไม่น้อยกว่า 33% คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ และเวียดนาม พร้อมทั้งกำลังศึกษา และเจรจาพันธมิตรเพิ่มเติมใน ประเทศอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และ เมียนมาร์ เพื่อขยายกำลังซื้อในตลาดเออีซี โดยสินค้าหลัก คือเลนส์สายตาเฉพาะบุคคล ซึ่งจะเป็นไลน์การผลิตหลักสำหรับโรงงานแห่งใหม่ ที่มีกำลังการผลิต กว่า 1 ล้านชิ้นต่อปี ซึ่งจะเดินเครื่องผลิตได้ในไตรมาส 4 ปี 2559 ทั้งนี้ปัจจุบัน TOG มียอดการผลิตเลนส์รวม 27 ล้านชิ้นต่อปี และคาดว่าปี 2560 กำลังการผลิตจะเพิ่มเป็น 30 ล้านชิ้นต่อไป หลังจากสามารถเดินเครื่องการผลิตได้เต็มประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตามในส่วนของแผนการดำเนินธุรกิจจากนี้ไป นายธรณ์ กล่าวว่า ยังคงเดินตามแผนงานที่วางไว้ โดยเฉพาะแผนการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตเลนส์เฉพาะบุคคลหรือเลนส์สั่งฝนพิเศษ (Prescription Lens หรือ Rx Lens) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีอัตรากำไรที่ดี จำนวน 300-350ล้านบาท และงบลงทุนปกติ 150 ล้านบาท เพื่อรองรับการเติบโตของบริษัทฯ ที่มีอัตราเติบโตต่อเนื่องกว่า 10% ทุกปี พร้อมพัฒนานวัตกรรมในการผลิตเลนส์สายตาให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญคือการพัฒนาเลนส์ชีวภาพที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะช่วยลดภาวะโลกร้อนได้อีกทางหนึ่ง