กรุงเทพฯ--13 พ.ค.--อาร์เอส
ภาพขูดมะพร้าวกับลีลาสุดเซ็กซี่ ยังตรึงใจอยู่ไม่หายสำหรับสาวผิวแทน "มะหมี่-นภคปภา นาคประสิทธิ์" ที่อยู่ๆ ก็หายหน้าไปจากวงการ จนล่าสุดแว่วมาว่า "สาวมะหมี่" กำลังจะแต่งงานกับ "หนุ่มมหาเศรษฐี" ชาวบูแกเรีย (ประเทศบัลแกเรีย) ซึ่งงานนี้เจ้าตัวได้เปิดใจถึงเรื่องราวทั้งหมดผ่านรายการ "จุดเดือด" ทาง "ช่อง 2" บันเทิงมาเต็ม ว่า...
เหตุผลที่ห่างวงการบันเทิง เพราะไปอยู่ต่างประเทศกับแฟน ?
"ก็ส่วนหนึ่งด้วย ตอนเราคบกันใหม่ๆ ผู้ชายเขาก็บอกว่าเราว่าความสัมพันธ์ของเราเนี่ย ถ้าเราอยู่กันคนละที่มันก็คงไม่ต่อเนื่องแน่เลย ถ้าเราคิดว่าเราเป็นแฟนกันแล้วเนี่ยลองมาอยู่ด้วยกันไหม มาใช้ชีวิตร่วมกันดู เราก็เลยใช้เวลาอยู่กับเขา ก็คือคบกันเป็นแฟนกันมันก็เลยนทำให้เราเริ่มห่างจากวงการบันเทิงไประยะหนึ่ง"
คบกันนานหรือยัง ?
"รวมๆ แล้วก็จะเข้าปีที่ 4 แล้วค่ะ อายุห่างกัน 5 ปีค่ะ ผู้ชายอายุ 40"
ไปอยู่ต่างประเทศกับเขานานแค่ไหน ?
"คือถ้าเขาทำงานในโซนยุโรป มันก็ค่อนข้างที่จะต้องเดินทางตลอดเพราะมันไกลจากบ้านเรา แต่ว่าตอนนี้เขาที่สิงคโปร์มันก็ค่อนข้างที่จะเดินทางสะดวก เราก็สามารถอยู่เมืองไทยได้มากขึ้น รัการเดินทางมันใกล้กว่า"
ได้ข่าวว่าผู้ชายรวยมาก ?
"โอ้ย ไม่จริงเลยค่ะ ไม่ได้รวยระดับเศรษฐี ก็รวยในระดับพอกินพอใช้ ไม่ได้รวยมากอะไรขนาดนั้นค่ะ"
เขาทำงานอะไร ?
"เป็นไดเร็กเตอร์ เซ้าส์ อีส เอเชีย ก็ดูแลเป็นภูมิภาคค่ะ รายได้ต่อเดือนเรายังไม่รู้เลยค่ะ(หัวเราะ) ผู้ชายยังไม่อยากจะบอกเลย(หัวเราะ) ถามว่าเขาให้เงินเราบ้างไหม ก็ใช้บ้าง เขาก็ต้องดูแล ขาดเหลืออะไรเขาก็ให้ เราไม่จำเป็นต้องขอ เขาอยากโอนก้โอน คือบัตรเครดิตเนี่ยเขาก็ให้เป็นชื่อเราเลย ยอดในบัตรเงินด็ไม่เคยถามนะคะ เราไม่ถามอยู่แล้ว"
รูดกระจาย ?
"อย่าใหฉันโมโหนะ ฉันรูดอย่างเดียวเลย(หัวเราะ)"
เดือนที่รูดเยอะสุดหมดไปเท่าไหร่ ?
"ไม่อยากจะพูดตัวเงินตรงนี้เลย ถ้าเป็นเวลาโกรธกันนะ(หัวเราระ) ใช้เงินเวลาโกรธ(หัวเร่าะ) มันดูไม่ดีเลย ไม่อยากพูด ไม่ถึงล้าน"
กลัวไหม คนมองคบเพราะเขารวย ?
"ไม่กลัวค่ะ พเราะว่าพื้นฐานเราเป็นคนขยันอยู่แล้ว เราเองก็เป็นคนทำมาหากินอยู่แล้ว มันไม่ฝช่ว่าเรามีแค่งานในวงการบันเทิง เรายังมีธุรกิจอื่นที่เราทำอยู่ซึ่งหลายท่านอาจจะยังวไม่รู้ เพราะฉะนั้นตัดประเด็นนี้ไปเลย เรื่องเกาะผู้ชายกินเนี่ยตัดไปได้เลย ไม่ใช่เราแน่นอน แต่คนมันก็อดคิดไม่ได้เนาะ เพราะเราทิ้งวงการไป คนก็จะมองว่าเงินเก็บก็ต้องใช้หมด โน้นนี่นั่น แต่คือเราก็ยังมีอย่างอื่นทำ ฉันก็เล่นหุ้นฉันก็ทำโน้นทำนี่ ทำที่มันเป็นเงินต่อเงินได้ เราไม่ได้เป็นคนที่แบบว่ามีเงินแล้วใช้เงินจนหมด เราวางแผนว่าเงินควรทำอะไรได้บ้าง"