กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--เดอะ เวย์ คอมมิวนิเคชั่น
บมจ.บางกอกชีทเม็ททัล หรือ BM เปิดเทรดวันแรกราคา 5.00 บาทเหนือจอง 73.61% ปลื้มนักลงทุนให้การตอบรับดีต่อเนื่อง เดินหน้าใช้เงินระดมทุน 288 ล้านบาท ลุยขยายธุรกิจผลิตภัณฑ์เหล็กแปรรูป รับความต้องการตลาด ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20%
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด หรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า ราคาหุ้น BM เปิดตลาดสูงกว่าราคาไอพี73.61% หรือเพิ่มขึ้น 2.12 บาท จากราคาไอพีโอที่ 2.88 เป็น 5.00 บาท เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ ประกอบกับแนวโน้มในการเติบโตของบริษัทในอนาคตที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก ซึ่งเห็นได้จากแผนการลงทุนของบริษัทฯ ที่มีแผนในการใช้เงินจากการระดมทุนจำนวน 288 ล้านบาท สำหรับการพัฒนาทั้งในส่วนของการขยายกำลังการผลิต และพัฒนาผลิตภัณฑ์เหล็กแปรรูปให้มีคุณภาพ และความหลากหลายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาดมากขึ้น
นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM กล่าวว่า บริษัทฯมีความยินดี และขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจ และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในบริษัท ซึ่งบริษัทฯเองก็หวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนแบบนี้ตลอดไป และในฐานะผู้บริหารจะพยายามรักษาผลการดำเนินงานให้มีความโดดเด่น และเติบโตต่อเนื่องต่อไปในอนาคต
"สำหรับแนวโน้มของ BM ต่อไปในอนาคต บริษัทฯมีแผนที่จะขยายกำลังการผลิต และขยายไลน์ผลิตภัณฑ์ให้เพิ่มมากขึ้น เพื่อรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ของรัฐบาลและการลงทุนของภาคเอกชน และความต้องการเครื่องจักรกลการเกษตรในกลุ่ม AEC ที่เพิ่มสูงขึ้น โดยตั้งเป้ารายได้ในปีนี้หรือปี 2559 เติบโต 20% จากปี 2558 และที่สำคัญหลังจากนี้ผู้บริหาร และทีมงานจะมุ่งมั่นทำงานเพื่อการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นต่อไป" นายธานินกล่าว
นายนิมิต วงศ์จริยกุล กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO กล่าวว่า ราคาหุ้น BM จากการเปิดทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ เป็นวันแรกในวันนี้ (17 พ.ค. 59) นั้น มีราคาเปิดตลาดสูงกว่าราคาจองซื้อ ถือได้ว่าสะท้อนให้เห็นถึงความน่าสนใจของบริษัทฯ และผลตอบรับที่ดีจากนักลงทุน รวมถึงทิศทางการเติบโตของธุรกิจที่ชัดเจนในอนาคต