กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--IR PLUS
PYLON ประเมินภาพรวมอุตสาหกรรมก่อสร้างและงานฐานรากครึ่งหลังปี 59 จะเริ่มคึกคัก ทั้งงานภาครัฐและเอกชนเตรียมงบลงทุนเพียบ ไม่ว่าจะเป็นงานสนามบินสุวรรณภูมิส่วนต่อขยาย รวมถึงงานรถไฟฟ้าสายสีชมพู-เหลือง-ส้ม จ่อคิวรอประมูลครึ่งปีหลัง "ชเนศวร์ แสงอารยะกุล" บอสใหญ่ เผยปัจจุบันตุน Backlog ไว้ในมือแล้วประมาณ 600 ลบ. ทยอยรับรู้รายได้ปี 59 นี้ 90% และอยู่ระหว่างยื่นประมูลงานใหม่เพิ่มอีกราว 1,000 ลบ. คาดมีโอกาสได้รับงาน 25 – 30% หนุนรายได้ปีนี้โตต่อเนื่อง
ดร.ชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก (เสาเข็มเจาะ) ระดับแนวหน้าของประเทศไทย กล่าวถึงภาพรวมของอุตสาหกรรมรับเหมาก่อสร้างในปีนี้ว่าในครึ่งปีแรกจะยัง อยู่ในภาวะซึมตัว เนื่องจากงานภาครัฐเพิ่งเริ่มจะทยอยออกมา คาดว่าผู้รับเหมาทั้งตลาดจะได้รับผลกระทบเช่นเดียวกันทั้งหมด แต่แนวโน้มในช่วงครึ่งปีหลังอุตสาหกรรมรับเหมาก่อ สร้าง น่าจะกลับมาฟื้นตัวขึ้นและคึกคัก จากงานโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่จะมีประมูล อย่างเช่น โครงการขยายท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิเฟส 2 ซึ่งบริษัทประเมินว่าทางบมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) จะเปิดประมูลและสรุปผู้ที่ได้รับงานได้ในไตรมาส 3/59 ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มคาดว่าจะสามารถเปิดประมูล ได้ในปลายปีนี้ ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู คาดว่าจะสามารถเปิดประมูลได้ในเดือน ก.พ.60
"ทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2559-2560 โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงครึ่งปีหลังนี้เป็นต้นไป PYLON จะมีโอกาสในการเข้าประมูลงานจากการผลักดันโครงการ เมกกะโปรเจกต์ ขนาดใหญ่ อาทิ รถไฟฟ้าสายใหม่จำนวน 3 สาย โครงการส่วนต่อขยายสนามบินสุวรรณภูมิ รถไฟรางคู่ ส่วนภาพรวมของอุตสาหกรรมฐานราก มองว่าในอนาคตยังสามารถ เติบโตได้อย่างต่อเนื่องจากงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสาย ต่างๆ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งเป็นสิ่ง สำคัญ และจำเป็นในการขับ เคลื่อนเศรษฐกิจ จึงมีความมั่นใจ ว่าภาครัฐจะ พยายามผลักดันโครงการต่างๆให้ เกิดขึ้นอย่าง เป็นรูปธรรมได้แน่นอน ซึ่งจะส่งผลให้ภาพรวมของอุตสาหกรรมกลับมาฟื้นตัวได้ และจะมีงานเข้ามาอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายปี" ดร.ชเนศวร์ กล่าว
ปัจจุบันบริษัทฯ มีงานในมือ (Backlog) 600 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้ในปี 59 ประมาณ 90% นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างรอผลประมูลงานมูลค่าราว 1,000 ล้านบาท ซึ่งไม่รวมงานโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ โดยคาดว่าจะได้รับงานประมาณ 25-30% ซึ่งจะสนับสนุนให้ผลประกอบการของบริษัทฯเติบโตอย่างต่อเนื่อง
สำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 1/2559 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 บริษัทฯและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 47.20 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันปีก่อน13.61 ล้านบาท คิดลดลง 22.39% โดยบริษัทฯมีรายได้จากการรับจ้าง 244.74 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 81.07 ล้านบาท หรือลดลง 24.88% จากปีก่อนที่มีรายได้ 325.80 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนจากการรับจ้างเท่ากับ 175.34 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 245.51 ล้านบาท ส่วนค่าใช้จ่ายลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 2.23 ล้านบาท เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการขายและค่าใช้จ่ายในการบริหารลดลง 0.53 ล้านบาท ค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลง 1.50 ล้านบาท ต้นทุนการทางการเงินลดลงจากปีก่อน 0.20 ล้านบาท