กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--IR network
บมจ.เธียรสุรัตน์ (TSR) ผู้นำตลาดเครื่องกรองน้ำของเมืองไทย ภายใต้เครื่องหมายการค้า "SAFE" ฉลองครบรอบ 40 ปี เปิดโรดแม็ปทางธุรกิจภายในสามปียึดหัวหาดในตลาดเออีซี สตาร์ทที่ สปป.ลาว และเตรียมแตกไลน์ธุรกิจ ลุยปล่อยสินเชื่อไมโครไฟแนนซ์-นาโนไฟแนนซ์ "วิรัช วงศ์นิรันดร์" ระบุดำเนินธุรกิจให้ครบวงจรเพื่ออำนวยความสะดวกตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำ ระบุมีลูกค้ารายย่อยอยู่ในระบบฐานข้อมูลกว่า 4 แสนราย ซึ่งจะเป็นฐานกำลังสำคัญในการรุกครั้งนี้ มั่นใจช่วยผลักดันให้บริษัทฯเติบโตอย่างยั่งยืน วางเป้าหมายปี 59 รายได้ทะยานแตะ 2 พันล้านบาท รายได้และกำไร ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง
นายวิรัช วงศ์นิรันดร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) (TSR) ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำภายใต้เครื่องหมายการค้า "SAFE" โดยใช้ระบบการขายแบบขายตรง มาตั้งแต่ปี 2519 กล่าวในงาน TSR 40th : Partnership for Life เพื่อฉลองครบรอบ 40 ปี ว่าบริษัทฯ มองว่าการเปิดเสรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) เป็นโอกาสในการขยายธุรกิจของบริษัทฯ ไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก ซึ่งถือเป็นการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน จึงได้ทำแผนการดำเนินธุรกิจในอนาคต(Road Map) ภายใน 3 ปีข้างหน้าจะรุกสู่ตลาดเออีซี โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติในหลักการของการร่วมลงทุน (Joint Venture) กับกลุ่มธุรกิจ ในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อจัดตั้งบริษัทจำหน่ายเครื่องกรองน้ำและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดเพิ่มเติม โดยคาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในไตรมาส 2/59 นี้
"การเข้าไปรุกธุรกิจในลาวในครั้งนี้ ถือเป็นปฐมบทของการก้าวเข้าสู่ตลาดเออีซีของบริษัทฯร่วมกับพันธมิตรท้องถิ่น ซึ่งคาดว่าจะช่วยผลักดันยอดขายเครื่องกรองน้ำและเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งนอกเหนือจากลาวแล้ว ยังมีอีกหลายประเทศที่เราสนใจเข้าไปลงทุน อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้ในขณะนี้"นายวิรัชกล่าว
นายวิรัช กล่าวว่า นอกเหนือจากการขยายธุรกิจไปยังประเทศเพื่อนบ้านรองรับเปิดเสรีเออีซีแล้ว ในโอกาสที่บริษัทฯดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 40 ปี และมีฐานลูกค้ารายย่อยในมือกว่า 4 แสนราย ซึ่งถือเป็นจุดแข็งของบริษัทฯ ที่ทำให้มีความเข้าใจในพฤติกรรมของลูกค้า บอร์ดของบริษัทฯจึงมีมติอนุมัติให้จัดตั้งบริษัทย่อย เพื่อเข้าดำเนินธุรกิจปล่อยสินเชื่อ Micro Finance และ Nano Finance ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาในรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งถือเป็นการแตกไลน์ธุรกิจใหม่ของบริษัทฯ โดยคาดว่าจะเห็นความคืบหน้าในไตรมาส 3/59 นี้
ขณะที่ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/59 ของบริษัทฯยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และขยายตัวต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯมีรายได้รวมจากการขาย และรายได้ดอกผลตามสัญญาเช่าซื้อ 449.88 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 122.67 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 37.49% และมีกำไรสุทธิ 31.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.31 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 29.65% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้ ยอดขายสินค้าเครื่องดื่มกรองน้ำของบริษัทฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดสาขาเพิ่มมากขึ้น โดยในช่วงไตรมาส 1/59 มีการเปิดสาขาและปรับปรุงสาขาเดิม 4 แห่ง และในปีนี้ บริษัทฯ มีแผนเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 5-7 แห่ง โดยสิ้นไตรมาส 1 ปี 2559 บริษัทฯ มีสาขารวม 17 แห่ง และมีศูนย์บริการ 5 แห่ง
"แผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้รวมที่ 2,000 ล้านบาท หรือเติบโต 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีรายได้รวม 1,617.28 ล้านบาท โดยบริษัทฯมีแผนเพิ่มไลน์สินค้ามากขึ้น โดยปัจจุบัน นอกจากการขายเครื่องกรองน้ำแล้ว บริษัทฯ ยังได้มีการวางจำหน่ายสินค้าประเภทเครื่องทำน้ำอุ่นภายใต้แบรนด์ SAFE Electrics และเครื่องปรับอากาศ ยี่ห้อเฟดเดอร์ (Fedders) และไดกิ้น (Daikin) เครื่องซักผ้า ตู้เย็น และโทรทัศน์ นอกจากนี้ อยู่ระหว่างเจรจากับคู่ค้าเพื่อนำเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอื่น ๆ เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติมเพื่อเป็นการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและผลิตภัณฑ์ของบริษัท ซึ่งมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันให้รายได้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้" นายวิรัชกล่าวในที่สุด