กรุงเทพฯ--17 พ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์ไฟป่าใน 3 จังหวัดภาคใต้และภาคเหนือโดยไฟป่าพรุโต๊ะแดง จังหวัดนราธิวาส สามารถควบคุมไฟมิให้ขยายวงกว้าง แต่ไฟยังดับไม่สนิท โดยมีไฟไหม้ในชั้นใต้ดิน ขณะที่ไฟป่าอุทยานแห่งชาติเขาปู่ – เขาย่า จังหวัดพัทลุง ยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ ส่วนไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้แล้ว ซึ่ง ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหาร จังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ออกปฏิบัติการดับไฟป่า โดยระดมฉีดน้ำควบคุมไฟอย่างต่อเนื่อง จัดทำแนวกันไฟป้องกันไฟป่ารวมถึงประสานการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศและหน้าดิน พร้อมนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นโปรยน้ำและสารเคมีดับไฟป่า เพื่อควบคุมสถานการณ์ไฟป่าให้อยู่ในวงจำกัดและไม่ให้ขยายวงกว้างมากขึ้น
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า รัฐบาลและคณะรักษา ความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยสถานการณ์ไฟป่าในหลายพื้นที่ จึงได้สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติการดับไฟป่าและแก้ไขปัญหาอย่างเต็มกำลัง ซึ่งมีสถานการณ์ไฟป่าใน 3 จังหวัดภาคใต้และภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดนราธิวาส รวม 10 จุด ในพื้นที่ 4 อำเภอ 6 ตำบล 11 หมู่บ้าน ดังนี้ อำเภอสุไหงโก – ลก เกิดไฟป่าในตำบลปาเสมัส จำนวน 2 จุด แยกเป็น บ้านซรายอ หมู่ที่ 1 พื้นที่ป่าเสม็ดและสวนยางพาราได้รับความเสียประมาณ 700 ไร่ ซึ่งเป็นพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดงหรือป่าพรุสิรินธร 800 ไร่ และบ้านลูโบ๊ะซามา หมู่ที่ 8 พื้นที่ชายขอบป่าพรุได้รับความเสียหายประมาณ 50 ไร่ เป็นเขตป่าสงวนลุ่มน้ำบางนราประมาณ 50 ไร่ ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ไฟป่ามิให้ขยายวงกว้าง แต่ไฟยังดับไม่สนิท และยังคงมีไฟไหม้ในชั้นใต้ดิน อำเภอสุไหงปาดี จำนวน 5 จุด แยกเป็น ตำบลปะลุรู จำนวน 3 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติบางนราแปลงที่ 2 และพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 670 ไร่ และตำบลสุไหงปาดี จำนวน 2 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและพื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหายประมาณ 160 ไร่ หากไม่มีไฟไหม้ขึ้นมาอีกคาดว่าสถานการณ์จะยุติได้โดยเร็ว อำเภอบาเจาะ จำนวน 1 จุด ในตำบลลุโบะสาวอ หมู่ที่ 6 พื้นที่ป่าพรุและสวนปาล์มได้รับความเสียหายประมาณ 60 ไร่ ขณะนี้สามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว แต่ไฟยังดับไม่สนิท จึงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง อำเภอยี่งอจำนวน 2 จุด แยกเป็น บ้านตะโละกูวิง หมู่ที่ 2 ตำบลลุโบะบือชา พื้นที่ได้รับความเสียหาย 340 ไร่ ขณะนี้สามารถดับไฟได้แล้ว และบ้านตะโละมีญอ หมู่ที่ 1 ตำบลตะปอเยาะ พื้นที่ป่าเสม็ดและสวนปาล์มได้รับความเสียหายประมาณ 60 ไร่ ขณะนี้สามารถควบคุมไฟได้แล้ว จังหวัดพัทลุง เกิดไฟป่าในเขตอุทยานแห่งชาติเขาปู่ – เขาย่า บริเวณเขาพญาโง้ง ตำบลคลองทรายขาว อำเภอกงหรา พื้นที่ได้รับความเสียหายประมาณ 20 ไร่ ปัจจุบันยังไม่สามารถควบคุมเพลิงได้ เนื่องจากพื้นที่เป็นภูเขาสูงชันยากต่อการเข้าควบคุมเพลิง สำหรับสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เกิดไฟป่าบริเวณป่าเต็งรังด้านทิศเหนือของพื้นที่นาไร่หลวง ใกล้สวนส้มของชาวบ้านขุนช่างเคี่ยน ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ – ปุย พื้นที่ได้รับความเสียหายประมาณ 20 ไร่ ขณะนี้สามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดแล้ว ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ออกปฏิบัติการดับไฟป่า โดยระดมรถดับเพลิง รถบรรทุกน้ำ รถส่งน้ำระยะไกล รถดับไฟป่า เครื่องสูบน้ำแบบหาบหาม ฉีดน้ำควบคุมไฟอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจุดที่ยังมีไฟลุกลาม พร้อมนำรถแบ็คโฮ รถตักหน้าขุดหลัง และรถแทร็กเตอร์จัดทำแนวกันไฟควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัด อีกทั้งเปิดเส้นทางสำรองและปรับพื้นที่ให้โล่งเตียนเพื่อให้รถบรรทุกน้ำสามารถเข้าถึงจุดเกิดไฟป่า รวมถึงดำเนินการขุดพื้นที่เป็นจุดๆ แบบขนมครก เพื่อใช้เป็นแหล่งน้ำในการดับไฟ นอกจากนี้ ได้ประสานสำนักฝนหลวงและการบินเกษตรออกปฏิบัติการฝนหลวง ในพื้นที่เกิดไฟป่าอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นในอากาศและหน้าดินรวมถึงประสานเฮลิคอปเตอร์จากกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ขึ้นโปรยน้ำและสารเคมีดับไฟป่า อย่างไรก็ตาม ในจุดที่สามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันมิให้ไฟเกิดการปะทุซ้ำ
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th