กรุงเทพฯ--13 ก.ค.--โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย
วิ่งไปในระยะทางเท่าไร จึงสมควรที่จะเปลี่ยนยางใหม่
อุปกรณ์ทุกชิ้นที่ประกอบขึ้นมาเป็นรถทั้งคัน ทำให้รถยนต์วิ่งได้อย่างสมบูรณ์ ล้วนแต่มีความสำคัญเท่ากันทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์ เกียร์ เบรก ระบบช่วงล่าง และยางรถยนต์ แต่วันนี้เราจะขอพูดเรื่องของยางรถยนต์และวิธีการบำรุงรักษา เพราะยางรถเปรียบเสมือนรองเท้าที่เราสวมใส่ ถ้ารองเท้าไม่พอดี อาจจะทำให้เท้าผู้ใส่เกิดมีอาการบาดเจ็บหรือเดินไม่ถนัด ทำให้เสียบุคลิกในการเดิน
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้ว ยางรถยนต์ เป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในการเดินทาง เพราะยางจะต้องหมุนไปตลอด เมื่อรถยนต์เคลื่อนที่ ยางรถยนต์ทำหน้าที่รองรับน้ำหนัก รถ และน้ำหนักบรรทุก ลดแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือน ทำหน้าที่ส่งแรงม้าจากเครื่องยนต์สู่พื้นผิวถนน และยึดเกาะถนนในการเข้าโค้ง
ยางรถยนต์ จะมีประโยชน์และให้สมรรถนะสูงสุด ขึ้นอยู่กับการใช้งานและการดูแลบำรุงรักษาอย่างถูกต้อง ทำให้ยางรถยนต์ที่เราใช้มีความปลอดภัยและประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย การตรวจยางในขั้นพื้นฐานที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองก็คือ เรื่องการวัดลมยางหรือการสูบลมยาง
สาเหตุที่ต้องวัดหรือสูบหรือเติมลมยางเข้าไป เนื่องจาก ยางรถยนต์ของรถแต่ละประเภท แรงดันของลมในยางจะไม่เท่ากัน รถยนต์นั่งต้องการความนิ่มนวลในการขับขี่ ส่วนยางของรถบรรทุกต้องมีความสามารถในการรับน้ำหนักบรรทุก นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงขนาดของยาง และจำนวนชั้นของผ้าใบ ถ้ายางที่มีจำนวนชั้นผ้าใบน้อย ถ้าเติมลมมากไป อาจจะทำให้ยางระเบิดขึ้นมาได้
ข้อควรปฏิบัติบำรุงรักษายางรถยนต์
1. ตรวจเช็คลมยางทั้ง 4 ล้อ อย่างน้อย อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
2. ควรสูบหรือเติมลมยางตามมาตรฐานที่ทางโรงงานผู้ผลิตกำหนด (ขณะที่ยางเย็น)
3. การเพิ่มหรือลดลมยางให้มีความสัมพันธ์กับน้ำหนักบรรทุก
4. เมื่อขับรถออกต่างจังหวัดหรือใช้ความเร็วสูง ควรเพิ่มลมยางมากกว่าปกติ 3-5 ปอนด์/ตารางนิ้ว
5. อย่าลดลมยางในขณะที่ฝนตกหรือวิ่งบนถนนเปียก เพราะอาจจะทำให้การยึดเกาะถนนและประสิทธิภาพการรีดน้ำของดอกยางลดลงด้วย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ : ฝ่ายประชาสัมพันธ์และกิจกรรมสังคม สำนักงานใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัดโทร. 386-1000, โทรสาร 386-1891, 386-1893--จบ--
-สส-