กรุงเทพฯ--18 พ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) แนะผู้ขับขี่เตรียมสภาพรถให้พร้อมใช้งานในช่วงฤดูฝน โดยตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนให้กวาดน้ำบนกระจกได้สะอาด กระปุกน้ำฉีดกระจกไม่มีรอยรั่วซึม ระบบเบรกสามารถหยุดรถได้ในระยะทางที่กำหนด ไม่มีอาการผิดปกติขณะใช้งาน ยางรถยนต์อยู่ในสภาพสมบูรณ์ ดอกยางละเอียดและมีร่องยางลึก และสัญญาณไฟมีไฟแสงสว่างทุกดวง หากอุปกรณ์ประจำรถชำรุดเสียหาย ให้นำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อดำเนินการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ และให้ทุกการเดินทางในช่วงฤดูฝนเป็นไปด้วยความปลอดภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ระยะนี้หลายพื้นที่ของประเทศเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและฝนตกหนัก ทำให้สภาพถนนเปียกลื่นและมีน้ำท่วมขังผิวการจราจร ส่งผลให้รถเสียการทรงตัวได้ง่าย รวมถึงทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ชัดเจน ทำให้ให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น เพื่อความปลอดภัย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ขอแนะผู้ขับขี่เตรียมสภาพรถให้พร้อมสำหรับการเดินทางในช่วงฤดูฝน โดยหมั่นทำความสะอาดที่ปัดน้ำฝน เพื่อป้องกันคราบสกปรกทำให้กวาดน้ำไม่สะอาด ตรวจสอบใบปัดน้ำฝนให้สามารถกวาดน้ำบนกระจกหน้ารถได้สะอาด ยางปัดน้ำฝนไม่แข็งกระด้าง หากปัดแล้วมีรอยขุ่นมัว มีเสียงดังขณะใช้งาน ให้เปลี่ยนใบปัดน้ำฝนใหม่ กระปุกน้ำฉีดกระจกไม่มีรอยรั่วซึม สายยางไม่ฉีกขาด หากหัวฉีดน้ำอุดตันให้ใช้เข็มทิ่มบริเวณรูฉีดน้ำ พร้อมหมั่นเติมน้ำผสมน้ำยาเช็ดกระจกหรือแชมพูสระผมลงไปในกระปุกฉีดน้ำเล็กน้อย จะช่วยขจัดคราบสกปรกบนกระจกให้สะอาดขึ้น ระบบเบรกต้องสามารถหยุดรถได้ในระยะทางที่กำหนด หากเหยียบเบรกแล้วรถมีอาการปัด มีเสียงดัง หรือเหยียบแป้นเบรกไม่ลง ให้นำรถไปเข้าศูนย์บริการ เพื่อตรวจสอบระบบเบรก เพราะการขับรถบนสภาพถนนที่เปียกลื่น หากระบบเบรกชำรุด รถจะเสียการทรงตัวได้ง่าย ยางรถยนต์มีดอกยางละเอียดและร่องยางลึกไม่ต่ำกว่า 3 – 4 มิลลิเมตร ยางอยู่ในสภาพสมบูรณ์ ไม่มีอาการบวมหรือปริแตก พร้อมเติมลมยางให้มากกว่าปกติ 2 – 3 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว เพื่อให้หน้ายางแข็ง จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรีดน้ำและยึดเกาะถนน ทำให้รถทรงตัวได้ดีเมื่อขับผ่านเส้นทางเปียกลื่น รวมถึงหมั่นตรวจสอบสัญญาณไฟให้มีแสงไฟส่องสว่างทุกดวง หากหลอดไฟชำรุดให้เปลี่ยนใหม่ รวมถึงทำความสะอาดโคมแก้วครอบสัญญาณไฟ เพื่อเพิ่มความสว่างของแสงไฟ จะช่วยให้มองเห็นเส้นทางได้ชัดเจนมากขึ้นที่สำคัญ ผู้ขับขี่ควรจัดเตรียมอุปกรณ์ฉุกเฉินไว้ประจำรถ อาทิ ยางอะไหล่ สายพ่วงแบตเตอรี่ อุปกรณ์ลาก พ่วง จูง สเปรย์ไล่ความชื้น และไฟฉาย สำหรับไว้ใช้งานกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินขณะขับรถช่วงฝนตก ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฝากเตือนผู้ขับขี่หมั่นตรวจสอบรถให้อยู่ในสภาพ พร้อมใช้งานในช่วงฤดูฝน จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุและให้ทุกการเดินทางในช่วงฤดูฝนเป็นไปด้วยความปลอดภัย
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th