กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Rating) ระยะยาว บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS Group ที่ 'A(tha)' แนวโน้มเครดิตมีเสถียรภาพ
ปัจจัยที่มีผลต่ออันดับเครดิต
ผู้นำในการให้บริการระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ – BTS Group มีสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งจากการเป็นผู้ให้บริการระบบขนส่งมวลชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร บริษัทฯ เป็นผู้ให้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสซึ่งมีเส้นทางครอบคลุมศูนย์กลางทางธุรกิจและการค้าในกรุงเทพมหานคร ได้แก่ สุขุมวิท สีลม และสาทร รถไฟฟ้าบีทีเอสรองรับผู้โดยสารกว่าร้อยละ 70 ของผู้โดยสารทั้งหมดในระบบขนส่งมวลชนแบบรางในพื้นที่กรุงเทพฯ ในปี 2558
ธุรกิจสื่อโฆษณาที่แข็งแกร่ง – ธุรกิจสื่อโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับพื้นที่โฆษณาบนเครือข่ายรถไฟฟ้าบีทีเอสและสื่ออื่นๆ จะยังคงสร้างผลกำไรและกระแสเงินสดในช่วงสองถึงสามปีข้างหน้า ศักยภาพของธุรกิจสื่อโฆษณาของ BTS Group ได้รับการสนับสนุนจากการขยายตัวของจำนวนผู้โดยสารและการขยายเส้นทางการเดินรถของเครือข่ายขนส่งมวลชนแบบรางในเขตกรุงเทพมหานคร สื่อโฆษณาของ BTS Group มีความเป็นเอกลักษณ์ในการเสนอพื้นที่โฆษณาในหลายรูปแบบ ทั้งในระบบขนส่งมวลชน อาคารสำนักงาน และสื่อโฆษณากลางแจ้งจำพวกป้ายโฆษณาขนาดใหญ่และขนาดเล็ก รวมถึงสื่อโฆษณาในสนามบินและตัวเครื่องบิน โดยทั่วไปแล้ว สื่อโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับรถไฟฟ้าซึ่งมีความผันผวนของรายได้ที่ต่ำน่าจะช่วยลดผลกระทบจากสภาวะอุตสาหกรรมสื่อโฆษณาของประเทศไทยที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลงในช่วงหนึ่งปีข้างหน้านี้
กระแสเงินสดที่มั่นคง – ธุรกิจขนส่งมวลชนและสื่อโฆษณาของ BTS Group (ไม่รวมเส้นทางการเดินรถสายใหม่) เป็นธุรกิจที่สร้างกระแสเงินสดได้สูงและมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนที่ต่ำ ซึ่งจะเป็นแหล่งเงินทุน ของ BTS Group ที่ใช้สำหรับการลงทุนในช่วงสองถึงสามปีข้างหน้า โดยการลงทุนส่วนใหญ่จะใช้สำหรับการขยายเส้นทางการเดินรถสายใหม่ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ และการขยายธุรกิจบริการ นอกจากนี้ ธุรกิจสื่อโฆษณาซึ่งดำเนินการโดย บริษัท วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย จำกัด (มหาชน) (VGI) เป็นธุรกิจที่มีหนี้สินน้อย ส่งผลให้สามารถจ่ายเงินปันผลได้ในสัดส่วนที่สูง นอกเหนือจากเงินปันผลจาก VGI ที่ BTS Group ได้รับจากการถือหุ้นโดยตรงในสัดส่วนร้อยละ 23.3 BTS Group ยังมีกระแสเงินสดรับที่ค่อนข้างสม่ำเสมอจากเงินปันผลจากการถือหน่วยลงทุนในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอสโกรท (BTSGIF) ในสัดส่วนร้อยละ 33.3
ความเสี่ยงจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เพิ่มขึ้น – จุดแข็งที่กล่าวมาข้างต้นถูกลดทอนลงจากธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของกลุ่มซึ่งมีความเสี่ยงที่สูงกว่าธุรกิจขนส่งมวลชนและสื่อโฆษณา และแผนการลงทุนที่สูงในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในช่วงสามปีข้างหน้า ซึ่งจะส่งผลให้ระดับหนี้สินของ BTS Group เพิ่มสูงขึ้น อย่างไรก็ตาม ฟิทช์มองว่ากลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมบนทำเลใกล้กับสถานีรถไฟฟ้าและการร่วมลงทุนกับบริษัทที่มีประสบการณ์ในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ น่าจะช่วยลดความเสี่ยงในการดำเนินโครงการ (execution risk) ดังกล่าว
ค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนที่สูงและกระแสเงินสดสุทธิติดลบ – BTS Group มีแผนการลงทุนจำนวน 1.05 หมื่นล้านบาทในช่วงสามปีข้างหน้า โดยประมาณร้อยละ 40 ของเงินจำนวนนี้ จะใช้สำหรับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจบริการของกลุ่ม นอกจากนี้ BTS Group ยังมีแผนการใช้เงินจำนวน 1.5 หมื่นล้านบาท สำหรับการเข้าซื้อกิจการ การเพิ่มทุน และการให้กู้ยืม แก่บริษัทร่วมและบริษัทร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งน่าจะส่งผลให้กระแสเงินสดสุทธิ (Free Cash Flow – FCF) ติดลบในช่วงสามปีข้างหน้า
อัตราส่วนหนี้สินที่สูงขึ้น – สถานะทางการเงินของ BTS Group มีแนวโน้มปรับตัวอ่อนลงในช่วงสามปีข้างหน้า เนื่องจากเงินลงทุนที่สูง โดยฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระหว่าง 2.5 เท่า ถึง 3.7 เท่า ณ ปีงบการเงินสิ้นสุด 31 มีนาคม 2560 (ปีงบการเงิน 2560) ถึงปีงบการเงิน 2563 (ณ ธันวาคม 2558: บริษัทฯ มีเงินสดมากกว่าหนี้สิน) แนวโน้มเครดิตที่มีเสถียรภาพสะท้อนถึงการคาดการณ์ของฟิทช์ว่า สถานะทางการเงินของบริษัทฯ น่าจะปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ปีงบการเงิน 2563 เป็นต้นไป แม้บริษัทฯ จะมีแผนการลงทุนที่สูงขึ้นในช่วงสามปีข้างหน้า
สมมุติฐานที่สำคัญ
สมมุติฐานที่สำคัญของฟิทช์ที่ใช้ในการประมาณการ
- รายได้ลดลงในปีงบการเงิน 2559 ซึ่งเป็นผลจากการยกเลิกธุรกิจสื่อโฆษณาในห้างค้าปลีก; รายได้กลับมาเติบโตในปีงบการเงิน 2560 เป็นต้นไป
- อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา ค่าตัดจำหน่าย และค่าเช่า ต่อรายได้ (EBITDAR Margin) อยู่ที่ระดับร้อยละ 30-33 ในช่วงสามปีข้างหน้า
- ธุรกิจขนส่งมวลชนของบริษัทฯ ได้รับเลือกให้เป็นผู้ให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงในส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียว
- ค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนจำนวน 1.05 หมื่นล้านบาท ในช่วงปีงบการเงิน 2559-2561 ไม่รวมส่วนของเงินลงทุนสำหรับการเข้าซื้อกิจการ และการเพิ่มทุนและให้กู้ยืมแก่บริษัทร่วมและบริษัทร่วมทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
- จ่ายเงินปันผลในอัตราที่สูง ในปีงบการเงิน 2559 และ 2560
ปัจจัยที่อาจมีผลกับอันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยบวก:
- BTS Group รักษาอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) ในระดับต่ำกว่า 2.5 เท่า อย่างต่อเนื่อง
- ความเสี่ยงทางธุรกิจโดยรวมของ BTS Group ลดลงจากความสามารถในการบริหารจัดการการลงทุนในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง
ปัจจัยลบ:
- ค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนที่สูงกว่าที่คาดหรือกำไรที่ลดลง ซึ่งส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกระแสเงินสดจากการดำเนินงานก่อนการเปลี่ยนแปลงของเงินทุนหมุนเวียน (FFO adjusted net leverage) อยู่ในระดับสูงกว่า 3.5 เท่า อย่างต่อเนื่อง
- ความเสี่ยงทางธุรกิจของ BTS Group เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ