กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--สำนักงานปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตกอย่างต่อเนื่องทั่วทุกภาคของประเทศไทย ซึ่งนับเป็นสัญญาณดีที่ส่งผลให้พื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อภัยแล้งคลี่คลายลง เช่น จังหวัดจันทบุรี ส่วนพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำเค็ม เช่น บริเวณปากคลองจินดา จังหวัดนครปฐม กรมชลประทานได้มีการส่งน้ำลงมาอย่างต่อเนื่องในคลองท่าสาร-บางปลา ผ่านประตูระบายน้ำบางปลา มาอย่างเต็มศักยภาพในอัตราประมาณ 45-46 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งทำให้ค่าความเค็มบริเวณปากคลองจินดาลดต่ำลง ทั้งนี้ ได้มีการประชุมร่วมกันระหว่างกลุ่มเกษตรกรสวนกล้วยไม้และเกษตรกรชาวสวนผลไม้ เพื่อหาความเหมาะสมในการสูบน้ำจากแม่น้ำท่าจีนสู่คลองจินดา โดยกำหนดค่าความเค็มที่เหมาะสมเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับสวนผลไม้ที่เริ่มขาดแคลนน้ำ และไม่ให้ส่งผลกระทบกับสวนกล้วยไม้ รวมทั้งช่วยให้เกษตรกรชาวสวนมีน้ำไว้ใช้เพื่อการเพาะปลูกผลไม้ด้วย
ขณะที่ปริมาณฝนตกในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเมื่อวานนี้ (17 พ.ค.59) มีปริมาณฝนประมาณ 60 มิลลิเมตร ส่งผลให้น้ำในเขื่อนศรีนครินทร์มีปริมาณเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่วนเขื่อนวชิราลงกรณ์ ก็มีปริมาณน้ำเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเห็นว่าน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนขนาดใหญ่ต่างๆ เริ่มมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น โดยในระหว่างวันที่ 17-18 พ.ค.59 มีน้ำปริมาณน้ำไหลเขื่อนประมาณกว่า 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดี
ในส่วนน้ำท่าในลุ่มน้ำเจ้าพระยาก็มีปริมาณเพิ่มขึ้น โดยเป็นการเตรียมความพร้อมที่จะสนับสนุนให้เกษตรกรมีน้ำใช้ในช่วงฤดูกาลผลิตใหม่หลังจากที่กรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเข้าสู่ฤดูฝน โดยคาดการณ์ว่าฝนจะตกอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่วันที่ 19 พ.ค. 59 นี้เป็นต้นไป ซึ่งจะเอื้ออำนวยต่อการบริหารจัดการน้ำท่าให้แก่เกษตรกร
นายเลอศักดิ์ ริ้วตระกูลไพบูลย์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่มีฝนตกในช่วงที่ผ่านมายังส่งผลดีต่อปัญหาหมอกควันที่ขณะนี้ได้กลับเข้าสู่ภาวะปกติ อย่างไรก็ตาม กรมฝนหลวงและการบินเกษตรยังคงเฝ้าระวังปัญหาหมอกควันและไฟป่า โดยการปฏิบัติการฝนหลวงยังคงปฏิบัติการอย่างต่อเนื่องในพื้นที่เกิดไฟป่าที่พลุโต๊ะแดง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและสำเร็จภายในสัปดาห์นี้ ส่วนสถานที่อื่นๆ ที่เกิดไฟป่าขณะนี้ได้เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว