กรุงเทพฯ--19 พ.ค.--กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานมีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) 35 จังหวัด 213 อำเภอ 1,087 ตำบล 8,711 หมู่บ้าน แยกเป็น น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค 11 จังหวัด น้ำเพื่อการเกษตร 8 จังหวัด น้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร 16 จังหวัด ทั้งนี้ ได้ประสานจังหวัด เร่งให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ง จัดรถบรรทุกน้ำเติมยังจุดจ่ายน้ำกลางเพื่อแจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคอย่างต่อเนื่อง พร้อมขอความร่วมมือเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับสภาพอากาศและปริมาณน้ำในพื้นที่ เพื่อป้องกันผลผลิตทางการเกษตร ได้รับความเสียหาย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า หลายพื้นที่ของประเทศได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ภัยแล้ง โดยขณะนี้มีจังหวัดประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน (ภัยแล้ง) จำนวน 35 จังหวัด 213 อำเภอ 1,087 ตำบล 8,711 หมู่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 11.62 ของจำนวนหมู่บ้านทั่วประเทศ แยกเป็น จังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำอุปโภคบริโภค 11 จังหวัด ได้แก่ น่าน พิจิตร ลำพูน ตาก สุรินทร์ ชัยนาท สระบุรี ชลบุรี ตรัง ประจวบคีรีขันธ์ และพังงา จังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำเพื่อการเกษตร 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ พะเยา สุโขทัย นครพนม มหาสารคาม บุรีรัมย์ กาญจนบุรี และจันทบุรี และจังหวัดที่มีปัญหาด้านน้ำอุปโภคบริโภคและน้ำเพื่อการเกษตร 16 จังหวัด ได้แก่ อุตรดิตถ์ นครสวรรค์ นครราชสีมา เพชรบุรี ตราด สตูล กระบี่ นครศรีธรรมราช หนองบัวลำภู สุพรรณบุรี สระแก้ว ขอนแก่นปราจีนบุรี ลำปาง อุทัยธานี และกำแพงเพชร ทั้งนี้ เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งมีประสิทธิภาพ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ประสานจังหวัด วางแผนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เป็นระบบ พร้อมบูรณาการหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มกำลัง โดยจัดรถบรรทุกน้ำแจกจ่ายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชน จัดวงรอบในการนำรถบรรทุกน้ำสะอาดไปเติมยังจุดจ่ายน้ำกลางให้สอดคล้องกับความต้องการใช้น้ำในแต่ละพื้นที่อย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ประชาชนประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค อย่างไรก็ตาม จากสภาพอากาศที่แปรปรวน ทำให้มีฝนตกในบางพื้นที่ แต่ยังไม่สามารถเพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อนได้เพียงพอ ส่งผลให้หลายพื้นที่ยังคงมีสถานการณ์ภัยแล้ง จึงขอความร่วมมือเกษตรกรให้ติดตามประกาศการเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ จากกรมอุตุนิยมวิทยา พร้อมวางแผนการเพาะปลูกให้สอดคล้องกับสภาพอากาศและปริมาณน้ำในพื้นที่ เพื่อมิให้ผลผลิตทางการเกษตรได้รับความเสียหาย สำหรับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย ปภ. ได้ร่วมกับจังหวัดและหน่วยทหารแจกจ่ายน้ำแก่ผู้ประสบภัยแล้ง โดยสูบน้ำจากแหล่งน้ำต่างๆ เข้าพื้นที่การเกษตร 46,492,629 ลูกบาศก์เมตร สูบน้ำดิบเข้าระบบการผลิตน้ำประปา 6,511,992,000 ลิตร แจกจ่ายน้ำอุปโภคบริโภคกว่า 260,862,284 ลิตร ผลิตน้ำดื่มแจกจ่ายกว่า 1,104,000 ลิตร ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ภัยแล้ง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ศูนย์ฯ เขต สำนักงานป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยจังหวัด 76 จังหวัด และสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสาขา 30 สาขาใน 16 จังหวัด หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
0-2243-0674 0-2243-2200 www.disaster.go.th