กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--กทม.
เมื่อวันที่ 9 พ.ย.44 เวลา 09.30 น. ที่ห้องบอลรูม A โรงแรมเรดิสัน พระราม 9 ดร.สหัส บัณฑิตกุล รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดการสัมมนาโครงการศึกษาแนวทางพัฒนาในพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม เขตบางขุนเทียน และเขตทุ่งครุ โดยมีนายศิริ เปรมปรีดิ์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร น.ส.เดือนเต็ม อมรพันธ์ รองผู้อำนวยการสำนักผังเมือง พร้อมด้วย นายสากล ม่วงศิริ ส.ส.กทม.เขตบางขุนเทียน นายบำรุง รัตนะ รองประธานสภากรุงเทพมหานคร และผู้เกี่ยวข้องร่วมสัมมนา
รองผู้อำนวยการสำนักผังเมือง กล่าวว่า สำนักผังเมืองได้มอบหมายให้บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ทำการศึกษาโครงการพัฒนาพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม เขตบางขุนเทียนและเขตทุ่งครุ เพื่อกำหนดแนวทางและมาตรการที่ชัดเจนในการพัฒนาให้เหมาะสมกับสภาพทางกายภาพ เศรษฐกิจ สังคมและวิถีชีวิตของประชาชน ตอบสนองความต้องการและแก้ไขปัญหาที่แท้จริงของประชาชนในท้องถิ่น และเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายแผนพัฒนาของกรุงเทพมหานครในภาพรวม โดยมีประเด็นในการศึกษา ได้แก่ การยกระดับมาตรฐานความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม , ส่งเสริมการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด, สงวนรักษาทรัพยากรธรรมชาติ และสภาพแวดล้อมที่ดี, เป็นกรอบชี้นำการพัฒนาของภาครัฐและเอกชน, ตลอดจนเป็นแนวทางการประสานความร่วมมือระหว่างภาครัฐ รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชน ในการดำเนินโครงการพัฒนาอื่น ๆ ในอนาคต เนื่องจากในช่วงปี พ.ศ.2530-2540 เป็นช่วงที่ประเทศไทยมีการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างมาก ส่งผลให้เมืองมีการพัฒนาและขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่จะขยายตัวเข้าไปในพื้นที่เกษตรกรรม สำหรับเขตบางขุนเทียนและเขตทุ่งครุ เป็นเขตที่มีการขยายตัวของเมืองในลักษณะของโรงงานอุตสาหกรรม อาคารพาณิชย์ และบ้านจัดสรรกระจายอยู่ทั่วไป รวมถึงกระจายเข้าไปบริเวณที่ขาดความพร้อมในการให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งการขยายตัวในลักษณะดังกล่าว ก่อให้เกิดปัญหาในด้านการให้บริการของภาครัฐที่ไม่สามารถให้บริการได้อย่างทั่วถึง ปัญหาการเก็งกำไรที่ดิน (Land Speculation) ส่งผลให้ราคาที่ดินสูงกว่ามูลค่าที่แท้จริง ซึ่งภายหลังเมื่อเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย ทำให้เกิดปัญหาที่ดินรกร้าง ประกอบกับเขตบางขุนเทียนและเขตทุ่งครุ มีสภาพพื้นที่ที่มีปัญหาทางธรรมชาติ ได้แก่ ปัญหาน้ำท่วม ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ปัญหาน้ำเค็มและการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรกรรมในช่วงฤดูแล้ง โดยปัญหาดังกล่าวเป็นอุปสรรคที่สำคัญ และส่งผลกระทบต่อการพัฒนาและสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งภาครัฐได้มีแผนและนโยบายในการพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียง โดยอาศัยผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครซึ่งประกาศบังคับใช้ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2535 และปรับปรุงครั้งที่ 1 เมื่อปี พ.ศ.2542 ซึ่งได้กำหนดการพัฒนาเมืองให้อยู่ภายในแนวกรอบของถนนวงแหวนรอบนอก ส่วนพื้นที่ภายนอกถนนวงแหวนซึ่งเป็นบริเวณที่การให้บริการด้านโครงสร้างพื้นฐานยังทำได้ไม่ทั่วถึงได้กำหนดให้เป็นพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม แต่เนื่องจากเมืองมีการพัฒนาและขยายตัวอย่างรวดเร็วดังกล่าว ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในบริเวณพื้นที่ชนบทและเกษตรกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่เขตบางขุนเทียนและเขตทุ่งครุ
ในโอกาสที่บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ได้ทำการศึกษาและจัดทำร่างรายงานฉบับสมบูรณ์เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้จัดให้มีการประชุมสัมมนาเพื่อรับฟังความคิดเห็นของคณะกรรมการกำกับการศึกษา ผู้แทนประชาชนและผู้ทรงคุณวุฒิ เพื่อนำข้อเสนอแนะไปปรับปรุงเป็นรายงานฉบับสมบูรณ์ต่อไป
รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า กทม.มุ่งมั่นที่จะกำหนดแนวทางและมาตรการที่ชัดเจนในการพัฒนาเมืองให้ สอดคล้องกับสภาพทางกายภาพ เศรษฐกิจ สังคมและวิถีชีวิตของประชาชนตอบสนองความต้องการและแก้ไขปัญหาที่แท้จริงของประชาชนในท้องถิ่น ขณะเดียวกันก็สอดคล้องกับนโยบายและแผนพัฒนาของกรุงเทพมหานครในภาพรวม ซึ่งสำนักผังเมืองได้ มอบหมายให้บริษัทที่ปรึกษาฯ ทำการศึกษาเพื่อวางแผนและกำหนดแนวทางการพัฒนาพื้นที่ในเขตบางขุนเทียนและเขตทุ่งครุ ในบริเวณที่ผังเมืองรวมกรุงเทพมหานครกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินเป็นประเภทชนบทและเกษตรกรรม เนื่องจากได้พิจารณาเห็นว่าพื้นที่ดังกล่าวได้รับผลกระทบจากการขยายตัวของเมือง แต่ยังไม่มีแผนรองรับการพัฒนาเมืองอย่างเป็นระบบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำผลการศึกษาเป็นกรอบชี้นำการพัฒนาของภาครัฐและเอกชน รวมทั้งเป็นแนวทางในการดำเนินการพัฒนาโครงการอื่น ๆ ในอนาคต สำหรับการประชุมสัมมนาเพื่อแสดงความคิดเห็นครั้งนี้จะเป็นแนวทางในการดำเนินโครงการของกรุงเทพมหานคร และคณะผู้ศึกษาจะได้นำข้อเสนอแนะที่ได้ ไปแก้ไขปรับปรุงผลการศึกษาให้สอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ต่อไป--จบ--
-นห-