อุตสาหกรรมเลี้ยงไก่เติบโตต่อเนื่อง บีโอไอส่งเสริมคนไทยลงทุนอีก 5 โครงการใหญ่

ข่าวทั่วไป Monday November 19, 2001 16:47 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--19 พ.ย.--บีโอไอ
บีโอไอหนุนอุตสาหกรรมเกษตร อนุมัติส่งเสริมคนไทยดำเนินกิจการเลี้ยงไก่เนื้อและไก่สดแช่แข็งอีก 5 โครงการใหญ่ มูลค่าลงทุนรวมเกือบ 1,200 ล้านบาท หวังรองรับการขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต เผยมูลค่าส่งออกไก่สดแช่แข็งของไทยช่วง 6 เดือนแรกของปี 44 สูงถึง 170,000 ตัน หรือกว่า 15,000 ล้านบาท
นายไพโรจน์ โสมภูติ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่าอุตสาหกรรมการเกษตรและผลิตผลจากการเกษตรเป็นอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มดี ทำให้ในปีนี้มีผู้ยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเร็วๆ นี้ บีโอไอได้อนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุนแก่กิจการเลี้ยงไก่เนื้อ, กิจการขยายพันธุ์ลูกไก่เนื้อและกิจการผลิตไก่สดแช่แข็ง รวมทั้งสิ้น 5 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมทั้งสิ้น 1,181.22 ล้านบาท โดยเป็นกิจการของคนไทยทั้งสิ้น
กิจการที่บีโอไออนุมัติให้การส่งเสริมประกอบด้วย บริษัท ซันเน้กฟู้ด จำกัด ได้รับการส่งเสริมการลงทุน 2 โครงการ ดังนี้ 1.กิจการเลี้ยงลูกไก่เนื้อ ซึ่งเป็นกิจการขยายพันธุ์ไก่เนื้อที่มีสายพันธุ์ใหม่ มีขนาดและน้ำหนักมากกว่าไก่เนื้อทั่วไป มีกำลังการผลิตลูกไก่เนื้อปีละประมาณ 85 ล้านตัว ใช้เงินลงทุน 328 ล้านบาท 2.กิจการไก่สดแช่เย็นหรือแช่แข็ง เงินลงทุน 336 ล้านบาท มีกำลังการผลิตปีละประมาณ 57,600 ตัน ส่งออกเนื้อไก่แช่แข็งไปยังต่างประเทศถึง 84% ของผลผลิต เช่น ประเทศญี่ปุ่น เยอรมัน เนเธอร์แลนด์
นอกจากนี้ บีโอไอยังได้อนุมัติส่งเสริมการลงทุนแก่บริษัท ซันฟาร์ม จำกัด ในกิจการเลี้ยงไก่เนื้อปีละประมาณ 6 ล้านตัวเพื่อจำหน่ายในประเทศ เงินลงทุนทั้งสิ้น 210 ล้านบาท และกิจการเลี้ยงไก่เนื้อของบริษัท ซันอโกร จำกัด มีกำลังการผลิตปีละ 7.2 ล้านตัว เงินลงทุนทั้งสิ้น 230 ล้านและกิจการเลี้ยงไก่เนื้อของบริษัท เอ็ม เค เอส ฟาร์ม จำกัด มีกำลังการผลิตไก่เนื้อปีละ 5.72 ล้านตัว เงินลงทุน 128 ล้านบาท
นายไพโรจน์กล่าวต่อไปว่า กิจการเลี้ยงไก่เนื้อและการผลิตไก่แช่แข็งมีแนวโน้มที่ดีจากส่วนหนึ่งเป็นผลมากจากการระบาดของโรคในสัตว์สี่เท้า ทำให้กลุ่มผู้บริโภคในยุโรปหันมาบริโภคไก่แทนหมูและเนื้อ โดยในปี 2543 มีปริมาณการส่งออกไก่แช่แข็งและไก่แปรรูปถึง 310,233 ตัน มูลค่า 24,438.6 ล้านบาท และในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2544 (ม.ค.-มิ.ย.) มีการส่งออกถึง 179,396 ตัน มูลค่า 15,223.7 ล้านบาท และมีแนวโน้มว่าในปี 2544 จะส่งออกมากกว่าปี 2543 ที่ผ่านมาด้วย--จบ--
-นห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ