กรุงเทพฯ--23 พ.ค.--บีโอไอ
นายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เตรียมนำทัพบีโอไอและภาคเอกชนชั้นนำของไทย กว่า 30 ราย เดินทางไปขยายความร่วมมือด้านการลงทุนกับสหพันธรัฐรัสเซีย ในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้ โดยมีนักธุรกิจชั้นนำของรัสเซียกว่า 100 ราย ตอบรับเข้าร่วมฟังสัมมนาธุรกิจ และพบปะหารือกับภาคเอกชนไทย บีโอไอมั่นใจสร้างความมั่นใจแก่นักธุรกิจรัสเซีย และสร้างโอกาสนักธุรกิจไทยที่จะไปลงทุน
นางหิรัญญา สุจินัย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 17 – 21 พฤษภาคม 2559 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปเยือนสหพันธรัฐรัสเซียและเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-รัสเซีย ซึ่งในวันที่ 18 พฤษภาคม 2559 นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานในงาน Russian – Thai Business Dialogue ซึ่งจัดโดยบีโอไอ ร่วมกับหน่วยงานภาคเอกชนของรัสเซีย (Business Russia) ณ นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อขยายโอกาสและความร่วมมือด้านการค้าการลงทุนระหว่างกัน โดยมีนักธุรกิจชั้นนำของรัสเซียตอบรับเข้าร่วมงานกว่า 100 ราย และจะมีภาคเอกชนชั้นนำของไทยกว่า 30 ราย เข้าร่วมพบปะหารือกับภาคเอกชนของรัสเซีย นอกจากนี้ บีโอไอยังจัดนัดหมายให้มีการพบปะหารือรายบริษัทระหว่างเอกชนไทยและรัสเซียอีกด้วย
ทั้งนี้ ในวันที่ 18 พฤษภาคม 2559 นายกรัฐมนตรีจะกล่าวเปิดงาน Russian – Thai Business Dialogue เพื่อสร้างความมั่นใจแก่นักธุรกิจรัสเซียที่สนใจจะเข้ามาลงทุนในประเทศไทย โดยจะชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของประเทศไทยที่เป็นศูนย์กลางของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน และมีความพร้อมในการรองรับฐานการผลิตจากรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจสำคัญที่รัสเซียมีศักยภาพสูง เช่น อุตสาหกรรมดิจิทัล ไอที ซอฟต์แวร์ อุตสาหกรรมอากาศยาน เครื่องจักรอัตโนมัติ และอุตสาหกรรมชีวภาพ ก็ล้วนแต่เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมแห่งอนาคตของประเทศไทยที่รัฐบาลและบีโอไอให้การส่งเสริมการลงทุนอย่างเต็มที่
นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการอภิปรายถึงเรื่องความร่วมมือทางธุรกิจระหว่างไทยกับรัสเซีย โดยมีตัวแทนภาคเอกชนของทั้งสองฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายไทยนำโดย นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าไทย และนายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมและประธานสภาธุรกิจไทย-รัสเซีย ร่วมกับตัวแทนภาครัฐและภาคเอกชน ของรัสเซีย โดยมีหัวข้อในการอภิปรายถึงความร่วมมือระหว่างกันหลายเรื่อง อาทิ การลงทุน การเงิน อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมดิจิทัล อุตสาหกรรม และเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นต้น
"รัสเซียเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงทั้งในด้านความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม การเดินทางมาชักจูงการลงทุนในครั้งนี้จึงต้องการเชิญชวนให้กลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพของรัสเซียเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น เพราะช่วงที่ผ่านมา การลงทุนของรัสเซียในไทยยังค่อนข้างน้อย และส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในภาคการท่องเที่ยว และกิจการขนาดเล็ก เช่น ซอฟต์แวร์และดิจิตอลคอนเทนท์ บีโอไอจึงมั่นใจว่า การเดินทางมาครั้งนี้ จะช่วยให้นักธุรกิจชั้นนำของรัสเซียมีความมั่นใจ และตัดสินใจเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้น" เลขาธิการบีโอไอกล่าว
สำหรับโครงการลงทุนจากรัสเซียที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนรายอื่นๆ ได้แก่ โครงการสวนน้ำ โครงการผลิตเครื่องเรือนหรือชิ้นส่วน โครงการเลี้ยงสัตว์น้ำ (ปลาสเตอร์เจียน) และกิจการเรือเฟอร์รี่ เป็นต้น