กรุงเทพฯ--24 พ.ค.--พีอาร์ดีดี
ไทคอน ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2559 รายได้รวม 410 ล้านบาท กำไรสุทธิ 256 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากกำไรจากการขายหน่วยลงทุนในบริษัทร่วม ชี้แนวโน้มครึ่งปีแรกไปได้สวย มั่นใจเดินหน้าขยายโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศได้ตามแผน
นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเน็คชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานผล
การดำเนินงานของไทคอน สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2559 บริษัทฯ มีรายได้รวม 410 ล้านบาท กำไรสุทธิ 256 ล้านบาท
โดยมีรายได้หลักมาจากรายได้จากค่าเช่าและค่าบริการ จำนวน 248 ล้านบาท กำไรจากการขายหน่วยลงทุนในบริษัทร่วม จำนวน 89 ล้านบาท รายได้จากค่าบริหารจัดการ 51 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทยังมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกองทุนอสังหาริมทรัพย์ของไทคอน และมีกำไรที่รับรู้เพิ่มเติมจากการขายอสังหาริมทรัพย์ให้บริษัทร่วมจำนวน 334 ล้านบาทอีกด้วย
"ผลการดำเนินงานในไตรมาสแรกของปีนับว่าเติบโตได้ดี และมีแนวโน้มว่าครึ่งปีแรกจะสามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณตอบรับในนโยบายส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐที่ดีจากลูกค้าต่างประเทศรายใหญ่โดยเฉพาะลูกค้าใหม่ที่ไม่เคยดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาก่อน เช่น ประเทศทางยุโรป และนักลงทุนชาวจีนที่เริ่มปักธงขยายฐานการผลิตในประเทศไทย ซึ่งเริ่มเข้ามาเจรจาเช่าโรงงานและคลังสินค้ากับกลุ่มไทคอนในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหลายๆ ทำเลยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ ไม่ว่าจะเป็นทำเลอีสเทิร์นซีบอร์ด ทำเลบางพลี และวังน้อย ล้วนแต่ได้รับการตอบรับที่ดีมากจากกลุ่มลูกค้า โดยกลุ่มไทคอนเองมีการวางแผนก่อสร้างคลังสินค้าเพิ่มขึ้น"
ทั้งนี้ กลุ่มไทคอนเองยังคงเดินหน้าตามแผนธุรกิจที่วางไว้ทั้งในส่วนของโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า โดยตั้งเป้าขยายพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าในปีนี้ประมาณ 280,000 ตารางเมตร ภายใต้งบลงทุน 4,000 ล้านบาท เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ โดยนอกเหนือจากการลงทุนในประเทศอินโดนีเซียแล้ว ไทคอนยังอยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุน และเจรจากับพันธมิตรท้องถิ่นในประเทศเวียดนามอีกด้วย คาดว่าจะสรุปผลได้ภายในไตรมาส 3 ของปีนี้
ปัจจุบัน กลุ่มไทคอนยังคงรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่ารายใหญ่ในประเทศไทยได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยจำนวนโครงการที่ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ทั้งสิ้น 47 โครงการ โดยมีพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าภายใต้การบริหารจัดการกว่า 2.3 ล้านตารางเมตร แบ่งเป็นพื้นที่โรงงานของไทคอนกว่า 1.1 ล้านตารางเมตร และพื้นที่คลังสินค้าของทีพาร์คกว่า 1.2 ล้านตารางเมตร