กรุงเทพฯ--27 พ.ย.--อินคริสซ์ เน็ทเวิร์ค
เน้นสินค้าคุณภาพ-ราคายุติธรรม & บริการหลังการขายเป็นหัวใจของความสำเร็จ
"แอสทีน่า" โชว์วิสัยทัศน์งานบริหารธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน หลังก่อตั้งบริษัทในยุคเศรษฐกิจถดถอย เผยประสบการณ์ที่ผ่านมาสร้างความแกร่งให้ธุรกิจ เน้นนโยบายหลักสินค้าคุณภาพสูงราคายุติธรรมพร้อมการบริการหลังการขาย ตั้งแต่ติดตั้งจนถึงติดตามผล ประกาศยอดขายปี 44 กว่า 300 ล้านบาท เตรียมกลยุทธ์กระตุ้นยอดปี 45 เน้นการคัดสินค้าใหม่เข้าตลอดต่อเนื่อง จัดโปรโมชั่นแจกแถมพร้อมแคมเปญบริการ มั่นใจยอดขายโต 20 %
นางสาวพัชณี สุทธิรัตน์เสรีกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท แอสทีน่า (ประเทศไทย) จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น ตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น เตาไมโครเวฟและเครื่องทำน้ำอุ่น เปิดเผยว่า นับตั้งแต่บริษัทเปิดดำเนินธุรกิจในปี 2540 บริษัทใช้นโยบายในการดำเนินธุรกิจที่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพสูง ในราคาจำหน่ายที่ยุติธรรม (Reasonable Prices & High Quality) นอกจากนี้ยังนำนโยบายการบริการหลังการขายที่ดีและมีความต่อเนื่อง โดยผู้บริโภคจะได้รับการบริการนับตั้งแต่ซื้อสินค้าด้วยบริการติดตั้งรวมถึงการติดตามผลการใช้สินค้าจากผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ผลจากนโยบายและการดำเนินงานอย่างมุ่งมั่นทำให้บริษัทสามารถดำเนนงานท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจมาได้อย่างดี โดยได้รับความเชื่อถือจากผู้บริโภคสนับสนุนสินค้าของบริษัททำให้บริษัทแอสทีน่ามีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับในปี 2544 บริษัทคาดว่าจะมียอดขายรวมทั้งสิ้น 300 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตในปี 2545 ประมาณ 20%
"เพราะบริษัทก่อตั้งในช่วงวิกฤติและมีทุนจดทะเบียนประมาณ 20 ล้านบาทซึ่งเป็นเงินทุนที่ไม่สูงนัก นอกจากนี้ทีมผู้งานของเราก็มองว่าช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะวิกฤติ จึงน่าจะเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทจะได้พิสูจน์ถึงนโยบายการดำเนินธุรกิจและศักยภาพทางการบริหารงาน เราเชื่อว่าผู้บริโภคยังต้องการสินค้าที่มีคุณภาพในราคาสมเหตุสมผลและที่สำคัญที่สุดต้องมีบริการหลังการขายที่ดี "นางสาวพัชณีกล่าวและว่า เมื่อดำเนินการจริงก็พบว่านโยบายของบริษัทถูกต้อง บริษัทมีอัตราเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ยปีละ 15-20 % ทุกปี
สำหรับการคัดเลือกสินค้าเข้ามาจำหน่ายนั้นนางสาวพัชณีกล่าวว่า บริษัทมีฝ่ายพัฒนาธุรกิจซึ่งทำหน้าที่ดูแลด้านการบริการ คัดเลือกสินค้าและตั้งราคาจำหน่าย โดยทุกขั้นตอนจะต้องดำเนินงานอย่างละเอียดและใกล้ชิด โดยการคัดเลือกสินค้าเข้ามาจำหน่ายแต่ละครั้งนอกจากสินค้าต้องมีคุณภาพแล้ว จะพิจารณาจากความเหมาะสมของผู้ซื้อหรือกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดของบริษัท ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มคือ กลุ่มที่มีความต้องการระดับพื้นฐานกลุ่มที่มีความต้องการระดับกลาง และกลุ่มความต้องการที่เน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก ซึ่งบริษัทจะคัดเลือกสินค้าให้เหมาะกับลูกค้าทุกกลุ่ม ในปัจจุบันบริษัทจึงมีสินค้าทั้งหมด 5 หมวด จำนวนกว่า 30 รุ่น ให้ลูกค้าเลือกโดยสินค้าของบริษัทมีวางจำหน่ายตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป รวมถึงศูนย์รวมอุปกรณ์ตกแต่งบ้านอีกหลายแห่ง
สำหรับภาวะการณ์แข่งขันทางธุรกิจในปี 2544 และทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2545 นางสาวพัชณีกล่าวว่า ปี 2544 เป็นปีที่ผู้ประกอบการจำนวนมากคาดหวังว่าเศรษฐกิจจะปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่เมื่อต้องเผชิญความผันผวนจากกระแสเศรษฐกิจโลก ผู้ประกอบการส่วนใหญ่จึงใช้นโยบายด้านราคาเป็นการกระตุ้นยอดขาย สังเกตจากการจัดโปรโมทชั่นสินค้าต่อเนื่องตามสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งก็เป็นโอกาสที่ดีที่ผู้บริโภคจะมีโอกาสเลือกซื้อสินค้าได้ตามต้องการ สำหรับแอสทีน่าไม่เน้นการใช้กลยุทธ์ด้านราคาเนื่องจากมีการตั้งสัดส่วนของกำไรไม่สูงมาตั้งแต่แรกแต่บริษัทมีนโยบายเน้นการบริการหลังการขายที่มีประสิทธิภาพและเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าปัจจุบันบริษัทมีศูนย์บริการทั้งสิ้น 17 แห่งในกรุงเทพและอีก 5 สาขาในต่างจังหวัดไว้คอยให้บริการลูกค้าซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีมากลูกค้าที่ใช้สินค้าของบริษัทแล้ว มักจะมีการซื้อสินค้าประเภทอื่นๆเพิ่ม สำหรับในปี 2545 บริษัทจะเน้นนโยบายด้านบริการเช่นเดียวกับที่ผ่านมา โดยจะเพิ่มในส่วนของการจัดโปรโมชั่นซึ่งเน้นที่การจัดทำของพรีเมียมมอบให้ลูกค้าในโอกาสต่างๆ รวมถึงนโยบายการจัดโรดโชว์นอกสถานที่เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายทางการตลาดมากยิ่งขี้น โดยคาดว่าจะใช้งบการส่งเสริมการตลาดทั้งสิ้นประมาณ 5% จากประมาณการยอดขายรวม
บริษัท แอสทีน่า (ประเทศไทย) จำกัด ก่อตั้งขี้นในปี 2540 เพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องใช้ในครัวเรือน เช่น ตู้เย้น เครื่องซักผ้า เครื่องดูดฝุ่น เตาไมโครเวฟและเครื่องทำน้ำอุ่น เป็นต้น โดยเริ่มต้นจากทุนจดทะเบียน 20 ล้านบาท ภายใต้สโลแกน "ราคาถูกใจ บริการฉับไว" บริษัทใช้นโยบายในการดำเนินธุรกิจที่ต้องการสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค ด้วยการจัดจำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพสูงในราคายุติธรรม (Reasonable Prices & High Quality) พร้อมบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับลูกค้าของบริษัท ปัจจุบันบริษัทมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ชั้น 24 อาคารฟอรั่ม ทาวเวอร์ 184/142 ถนนรัชดาภิเษก ห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10320 โดยมีศูนย์บริการไว้คอยบริการลูกค้าทั้งสิ้น 17 สาขาในกรุงเทพและ 5 สาขาในต่างจังหวัด สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ โทร. 02-645-3721-7 โทรสาร 02-645-3728 ทุกวันในเวลาทำการ
รายละเอียดข่าวเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
จินตนา ตรีพิชิต ผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท อินคริสซ์ เน็ทเวิร์ค จำกัด ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์
โทร.02-585-1841, 01-826-0639--จบ--
-นห-