ห้องรับรองพรีเมียมเลาจน์แห่งใหม่ของสายการบินเอทิฮัดพร้อมเปิดให้บริการแล้วที่ท่าอากาศยานเมลเบอร์น

ข่าวท่องเที่ยว Wednesday May 25, 2016 15:19 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--25 พ.ค.--โทเทิล ควอลิตี้ พีอาร์ ห้องรับรองผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานเมืองเมลเบอร์น ได้รับการปรับโฉมไปอย่างสิ้นเชิง เพิ่มห้องรับประทานอาหาร บาร์ที่แสดงผลงานประติมากรรม ห้องสำหรับเด็กเล่น ห้องละหมาด และห้องอาบน้ำนำเสนอทางเลือกเครื่องดื่มทั้งค็อกเทลและม็อคเทลที่หลากหลาย ซึ่งถูกคิดค้นขึ้นมาใหม่จากการร่วมมือกับหุ้นส่วนซึ่งเป็นที่ปรึกษาด้านเครื่องดื่มชั้นนำของโลก ฟลูอิด มูฟเมนท์ผู้โดยสารที่เดินทางไปกับ เดอะ เรสซิเดนซ์ จะเพลิดเพลินไปกับห้องรับรองที่เป็นส่วนตัว ที่จัดทางเข้าแยกชัดเจนจากทางเข้าส่วนรวม พร้อมการบริการที่ถูกจัดเตรียมไว้บริการเป็นอย่างดีสายการบินเอทิฮัดได้เปิดตัวห้องรับรองพรีเมี่ยมเลาจน์แห่งใหม่อย่างเป็นทางการ ที่ท่าอากาศยานเมลเบอร์น โดยจะมอบความผ่อนคลาย สะดวกสบายและมีสไตล์ให้แก่ผู้โดยสาร พื้นที่จัดให้ผู้โดยสารจะสามารถผ่อนคลาย พักผ่อน รับประทานอาหาร ทำงานหรือแสวงหาความบันเทิงต่างๆได้ก่อนขึ้นเครื่อง พื้นที่เปิดให้แสงธรรมชาติผ่านเข้าด้านในจากการใช้กระจกชนิดจากพื้นถึงเพดาน ทำให้พรีเมียมเลาจน์นี้มอบทัศนียภาพเปิดกว้างไปตามรันเวย์ บนพื้นที่กว่า 800 ตร.ม. มีจำนวนที่นั่งที่รองรับผู้โดยสารได้ถึง 133 คน นี่จึงเป็นห้องรับรองพรีเมียมเลาจน์ของสายการบินที่ใหญ่ที่สุดนอกกรุงอาบู ดาบี ส่วนกลางของห้องรับรองใหม่นี้คือพื้นที่รับประทานอาหารที่มีที่นั่งถึง 26 ที่นั่ง ผู้โดยสารจะได้เพลิดเพลินกับการต้อนรับอันเป็นเอกลักษณ์ของสายการบิน ด้วยรายการอาหารที่เลือกได้ในรูปแบบภัตตาคาร และอาหารแบบบุฟเฟต์ นานาชาติ นำเสนอเมนูอาหารด้วยความภาคภูมิใจจากครัวของสายการบิน เชฟมืออาชีพจะเตรียมอาหารแต่ละจานโดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่สดใหม่จากแหล่งท้องถิ่นตามฤดูกาล รวมถึงขนมปัง ที่อบใหม่สดสองครั้งต่อวัน ขนมปังแท่ง กริสสินี เครื่องจิ้ม เช่น ฮุมมุส บาบากานูช และ มูแฮมมารา แตงกวาดอง ลาบเนห์ คุกกี้ และแม้กระทั่งไอศกรีม ชีส ผลไม้และผัชนิดต่างๆ นั้นมีแหล่งที่มาจากผู้ขายในรัฐวิคตอเรีย และกาแฟนั้นก็มาจากโรงคั่วที่มีแหล่งอยู่ในเมลเบอร์น อีกหนึ่งจุดเด่นที่ตื่นตาคือบาร์ที่แสดงผลงานประติมากรรม ไวน์จากผู้ผลิตในรัฐวิคตอเรีย สุราชั้นเลิศกว่า 70 รายการ แชมเปญ และเครื่องดื่มเรียกน้ำย่อยต่างๆ รวมถึงการให้บริการเมนูค็อกเทลที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ ตัวเลือกที่สร้างสรรค์เหล่านั้น ได้พัฒนาโดยร่วมมือกับผู้ให้คำปรึกษาทางด้านเครื่องดื่มชั้นนำในลอนดอน ได้แก่ ฟลูอิด มูฟเมนท์ รวมถึงค็อกเทลที่ตั้งชื่อตามแรงบันดาลใจจากเมืองต่างๆ เช่น เมลเบอร์น ซิดนีย์ ปารีส และนิวยอร์ก และม็อกเทลที่ชื่อว่าอาบู ดาบี คอนโทรลด์ แอร์สเปซ และวิงเล็ท ค็อกเทล เช่นเดียวกับอาหารรายการอื่นๆ รายการม็อกเทลที่อยู่ในเมนูของห้องรับรองทั้งหมดนั้น ล้วนรังสรรค์และปรุงโดยมิกโซโลจิสต์ที่ฝึกฝนมาอย่างเป็นพิเศษ โดยใช้น้ำเชื่อมและเครื่องปรุง อย่างเช่น สายไหม รูบาร์บตากแห้ง ซึ่งทำขึ้นโดยครัวสายการบินเช่นกัน สำหรับผู้ที่นิยมความดั้งเดิม บาร์นี้ยังมีตัวเลือกรายการ โมเดิร์นคลาสสิค เช่น มัค 10 โมฮิโต ซึ่ง คิดค้นและพัฒนาโดย ฟลูอิน มูฟเมนท์ ผู้ที่ชื่นชอบเนโกรนี ยังจะได้ตื่นตาเมื่อรู้ว่าเครื่องดื่มที่เขาชอบนั้นได้ถูกผสม เก็บและบ่มไว้ภายในบาร์นี่เอง จากมุมมองของนักออกแบบตกแต่งภายในนั้นถูกเติมเต็มด้วยตราสัญลักษณ์ 'เหลี่ยมเพชรแห่งอาบู ดาบี' (Facets of Abu Dhabi) ตามหลักการของสไตล์ พื้นที่ และความสงบ ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสายการบินเอทิฮัด ด้วยรูปแบบรูปทรงเรขาคณิตและแถบสีที่ได้แรงบันดาลใจจากภูมิประเทศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นการแสดงออกถึงความทันสมัยในศตวรรษที่ 21 ของกรุงอาบู ดาบี ด้วยการตกแต่งที่เป็นแบบเฉพาะ – โดย บอส – เสนอที่นั่งต่างรูปแบบให้กับผู้โดยสารที่ใช้บริการเลาจน์แต่ละจุดนั้นถูกออกแบบมาเพื่อให้เกิดความสบายสูงสุดเมื่อรับประทานอาหาร ทำงานหรือพักผ่อน ตั้งแต่การเริ่มให้บริการด้วย เอ380 ตั้งแต่ 1 มิถุนายนนี้ ผู้โดยสารใน เดอะเรสสิเดนซ์ จะเพลิดเพลินกับความพิเศษของห้องรับรองส่วนตัว ซึ่งแยกต่างหากออกมาจากทางเข้าของห้องรับรองหลัก ด้วยเก้าอี้ที่สั่งทำโดยเฉพาะ จากหนังโพลโทรนา เฟรา จากอิตาลี เครื่องเรือนนุ่มสบาย ห้องน้ำในห้องของตัวเองและทางเข้าที่แยกต่างหาก ห้องรับรอง เดอะ เรสซิเดนซ์ นั้นมีการบริการเฉพาะตัวที่หรูหราเป็นเลิศ ซึ่งจะสอดคล้องกับการมอบประสบการณ์การดูแลและการให้บริการที่สูงสุดจากสายการบินที่ผู้โดยสารจะได้สัมผัส สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องรับรองนั้น รวมถึงห้องน้ำแยกชายหญิงที่มีห้องอาบน้ำ และมีผลิตภัณฑ์ สคารามูช และ ฟานดาโก ห้องสำหรับทำความสะอาดและทำละหมาดของทั้งชายและหญิง ห้องเด็กเล่น และห้องเก็บกระเป๋ามีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูงให้บริการฟรี และมีตัวจ่ายไฟฟ้าสำหรับหัวเต้าเสียบหลายรูปแบบและเต้ารับยูเอสบี ในหลาย ๆ พื้นที่ทั่วทั้งห้องรับรอง เชน โอ'แฮร์ รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดของสายการบินเอทิฮัด และ ไลล์ สแตรมไบ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของท่าอากาศยานเมลเบอร์น ได้ร่วมพิธีตัดริบบินเปิดห้องรับรองร่วมกันอย่างเป็นทางการ กล่าวว่า "ห้องรับรองพรีเมียมเลาจน์แห่งใหม่ในท่าอากาศยานเมลเบอร์นนี้มีความพิเศษที่เป็นเอกลักษณ์ เป็นห้องรับรองในสนามบินอย่างที่ทุกคนคุ้นเคยแต่เป็นการเปลี่ยนรูปลักษณ์ใหม่ทั้งหมด "การผสมผสานรวมร้านอาหารชั้นเลิศและค็อกเทลบาร์สุดชิคเข้าด้วยกัน ห้องรับรองนี้แสดงให้เห็นถึงการออกแบบที่ชาญฉลาดและมีความละเอียดอ่อน ที่ซึ่งผู้โดยสารจะเพลิดเพลินกับความสบายและความหรูหราระดับสูงสุด เติมเต็มด้วยการดูแลและการให้บริการในระดับโลกของเรา นวัตกรรมการปรุงอาหารและเครื่องดื่มที่ผสมผสานเข้ากับเทคโนโลยีสมัยใหม่" "ในขณะเดียวกัน ก็ให้ความรู้สึกแบบท้องถิ่นที่ชัดเจน ด้วยการผลิตที่สดใหม่ แหล่งวัตถุดิบของไวน์และชีส ที่คัดสรรมาจากผู้ปลูก ผู้ผลิต โรงบ่มหรือผู้ขาย ทั่วทั้งรัฐวิคตอเรีย ทำให้ผู้โดยสารของเรานั้นได้เพลิดเพลินกับรสชาติของวัฒนธรรมด้านอาหารที่มีชื่อเสียงโด่งดังของรัฐนี้ "การเปิดห้องรับรองใหม่ที่มีความโดดเด่นและการประกาศการเริ่มให้บริการด้วยเครื่องบิน เอ380 ลำที่เราให้ความสำคัญอย่างมาก ในวันที่ 1 มิถุนายนนี้ จะทำให้นักเดินทางในเส้นทางเมลเบอร์น – อาบู ดาบี ได้สัมผัสประสบการณ์อันเลิศล้ำที่สุดเท่าที่เคยมีมา" ผู้โดยสารในเดอะ เรสซิเดนซ์ เฟิร์สท อพาร์ทเมนท์ และบิสสิเนส สตูดิโอ นั้นจะได้รับเชิญให้ใช้บริการห้องรับรองนี้ก่อนขึ้นเครื่อง สมาชิกรายการสะสมไมล์เอทิฮัด เกสท์ ระดับแฟลตินัม โกลด์ และซิลเวอร์ และสมาชิกของรายการสะสมคะแนนในกลุ่มเอทิฮัด แอร์เวย์ส พาร์ทเนอร์ส และสมาชิกรายการสะสมคะแนนของสายการบินพันธมิตรที่มีสิทธิก็สามารถใช้บริการได้เช่นกันแม้จะเดินทางในชั้นประหยัด โดยต้องสำรองที่นั่งในเที่ยวบินที่ทำการบินโดยสายการบินเอทิฮัดภายในวันเดียวกัน ห้องรับรองนี้อยู่ในอาคารผู้โดยสาร 2 ติดกับทางออกขึ้นเครื่องหมายเลข10 ห้องรับรองจะเปิดให้บริการประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทางของแต่ละเที่ยวบินของสายการบินเอทิฮัด ซึ่งจะทำการบินสองเที่ยวต่อวันในเส้นทางเมลเบอร์น –อาบู ดาบี ห้องรับรองใหม่นี้ได้เข้ามาเสริมการให้บริการห้องรับรองของสายการบินเอทิฮัดที่ขยายเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ในซิดนีย์, อาบู ดาบี,ดับลิน, แฟรงค์เฟิร์ท, ลอนดอน ฮีทโธรว์ , แมนเชสเตอร์, ปารีส, วอชิงตัน ดีซี และนิวยอร์ก ห้องรับรองสำหรับชั้นเฟิร์สทคลาสแห่งใหม่ที่ท่าอากาศยานนานาชาติอาบู ดาบี และห้องรับรองสำหรับชั้นเฟิร์สท์ คลาสและบิสสิเนสคลาสแห่งใหม่ที่ลอสแอนเจลิส จะเปิดตามมาในเร็ว ๆ นี้ สายการบินเอทิฮัดเริ่มให้บริการเที่ยวบินรายวันสู่นครเมลเบอร์น ตั้งแต่เดือนมีนาคม พ.ศ. 2552 ปัจจุบันให้บริการเที่ยวบินแบบไม่แวะพักสองเที่ยวต่อวันไปยังกรุงอาบู ดาบี และต่อไปยังกลุ่มประเทศภูมิภาคอ่าว แอฟริกาและยุโรป เป็นเพียงสายการบินเดียวที่มอบบริการเที่ยวบินแบบไม่หยุดพัก สองเที่ยวบินต่อวันระหว่างเมลเบอร์นและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สายการบินแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะนำแอร์บัส เอ380 ซึ่งเป็นฝูงบินชั้นแนวหน้าของสายการบินมาให้บริการสู่เมลเบอร์นตั้งแต่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2559 เป็นต้นไป นอกเหนือการให้บริการสองเที่ยวบินต่อวันสู่เมลเบอร์นแล้ว สายการบินเอทิฮัดนั้นทำการบินสู่บริสเบนและเพิร์ธในทุกๆวัน เที่ยวบินต่อวัน และสู่ซิดนีย์ 11 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทั้งนี้พันธมิตรที่สายการบินเข้าไปถือหุ้น สายการบินเวอร์จิน ออสเตรเลีย นั้นทำการบินอีก 3 เที่ยวต่อสัปดาห์ระหว่างซิดนีย์และกรุงอาบู ดาบี

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ