กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--เอไอเอส
นายสมประสงค์ บุญยะชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบเซลลูลาร์ 900, จีเอสเอ็ม 2 วัตต์และมือถือพร้อมใช้วัน-ทู-คอล! เปิดเผยถึงผลการจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้เอไอเอสที่วางแผนจะจัดจำหน่ายในเร็วๆ นี้ว่า "บริษัท ไทยเรตติ้งแอนด์อินฟอร์เมชั่นเซอร์วิส จำกัด หรือ ทริส ซึ่งเป็นบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือก.ล.ต.ได้ประกาศจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เอไอเอสมูลค่ารวมไม่เกิน 15,000 ล้านบาท สำหรับรุ่นไถ่ถอนปี 2547 และปี 2549 ที่กำลังจะจัดจำหน่ายในเร็วๆ นี้เท่ากับ เครดิต AA- และยืนยันผลการทบทวนอันดับเครดิตองค์กรของเอไอเอส รวมถึงอันดับเครดิตของหุ้นกู้เอไอเอส มูลค่า 8,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2546 และหุ้นกู้เอไอเอส มูลค่า 12,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2549 ที่จัดจำหน่ายในปี 2543 และ 2544 ที่ AA- เช่นเดิม ซึ่งผลการจัดอันดับดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงสถานภาพของบริษัทที่มีความเป็นผู้นำในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทย, การมีทีมผู้บริหารที่มีความสามารถรวมถึงการมีสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยทริสได้วิเคราะห์ด้วยว่า ตลาดธุรกิจให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ของไทยมีแนวโน้มที่จะเติบโตอีกมาก ทั้งนี้มีปัจจัยสนับสนุนประกอบด้วย การเสนอบริการรูปแบบใหม่ๆ และราคาของเครื่องโทรศัพท์ที่ที่ลงถึง 30-40% ในปี 2543 และต่อเนื่องมาถึงปี 2544 นอกจากนี้อัตราการเป็นเจ้าของโทรศัพท์เคลื่อนที่ต่อประชาชนโดยรวมของไทย ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2544 ที่ระดับ 8.6% ซึ่งถือได้ว่ายังอยู่ในระดับที่ต่ำเมื่อเทียบกับประเทศอื่น"
ทั้งนี้นายสมประสงค์กล่าวต่อไปว่า "บริษัทรู้สึกยินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งจากผลการจัดอันดับหุ้นกู้ของทริสดังกล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้เอไอเอสเชื่อว่าการจัดอันดับดังกล่าวเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อแนวนโยบายในการบริหารงานของเอไอเอส โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นมืออาชีพและความสามารถของทีมผู้บริหาร ความโปร่งใสในการดำเนินงาน นโยบายทางการเงินที่มีวินัยและรัดกุมนอกจากนี้ยังหมายรวมถึงความมีวิสัยทัศน์ทางด้านเทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมดังจะเห็นได้จากการพัฒนาบริการรูปแบบใหม่ๆ เพื่อมอบให้แก่ผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่องซึ่งนับได้ว่าเป็นส่วนสำคัญในการร่วมผลักดันระบบสื่อสารของประเทศโดยรวมให้พัฒนาต่อไป สำหรับการออกหุ้นกู้ของเอไอเอสในครั้งนี้จะเป็นลักษณะหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ์และไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 5,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2547 และหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ์และไม่มีประกัน มีผู้แทนผู้ถือหุ้น ไม่เกิน 10,000 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2549 โดยเอไอเอสจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ไปลงทุนในการขยายเครือข่ายชุมสายและสถานีฐานอันจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการถึงความสามารถในการรองรับปริมาณผู้ใช้บริการที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต นอกจากนี้จะนำเงินบางส่วนไปใช้ในการลงทุนในบริษัท ชินดิจิตอล จำกัด ซึ่งถือหุ้นอยู่ในบริษัท ดิจิตอล โฟน จำกัด (DPC) ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ในระบบดิจิตอล จีเอสเอ็ม 1800--จบ--
-สส-