กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--โรงงานยาสูบ
บุหรี่ไทย-เทศจะมีราคาสูงขึ้นอีกซองละประมาณ 5 บาท หากกรุงเทพมหานคร (กทม.) จัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ในอัตราเต็มที่ในเร็ว ๆ นี้ โดย กทม. จัดเก็บภาษีเพิ่มจาก ที่ต่างจังหวัดเก็บมวนละ 5 สตางค์ เป็นมวนละ 10 สตางค์ โรงงานยาสูบต่อรองในชั้นคณะทำงาน ให้เก็บเต็มที่มวนละ 5 สตางค์ หากคณะทำงานยอมรับ บุหรี่ในกรุงเทพฯ จะแพงขึ้นอีกซองละ 2.50 บาท ในเร็ว ๆ นี้
พล.อ.องอาจ ชัมพูนทะ ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ กล่าวว่า เร็ว ๆ นี้บุหรี่อาจมีราคาเพิ่มขึ้น อีกซองละ 5 บาท ทั้งนี้เป็นเพราะจะมีการจัดเก็บภาษีบำรุงท้องถิ่น ซึ่งขณะนี้จัดเก็บเฉพาะในส่วนของต่างจังหวัดเท่านั้น กทม. ยังไม่ได้จัดเก็บภาษีดังกล่าว หากมีการจัดเก็บในอัตราเต็มที่คือ 10 สตางค์ต่อมวน จะทำให้ราคาบุหรี่สูงขึ้น และเมื่อรวมกับภาระต่าง ๆ จะทำให้ราคาบุหรี่เพิ่มสูงขึ้นถึงซองละ 5 บาท
อย่างไรก็ตาม โรงงานยาสูบได้ขอต่อรองในชั้นของคณะทำงานให้การจัดเก็บภาษีบำรุงท้องถิ่นไม่สูงจนเกินไป โดยขอให้การจัดเก็บภาษีดังกล่าว จากบุหรี่คิดในอัตราเท่ากับต่างจังหวัดที่จัดเก็บ 5 สตางค์ ต่อมวน หากได้รับความเห็นชอบในอัตราที่โรงงานยาสูบต่อรอง จะทำให้ราคาบุหรี่เพิ่มขึ้นโดยรวมประมาณ 2.50 บาทต่อซอง หากราคาบุหรี่ต้องเพิ่มขึ้นมากถึงระดับซองละ 5 บาท จะกระทบต่อยอดจำหน่ายบุหรี่ ให้ลดลงมาก และการจัดเก็บภาษีบุหรี่ที่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้ จะเก็บทั้งบุหรี่ของโรงงานยาสูบและบุหรี่ต่างชาติ
พล.อ.องอาจ กล่าวว่า ปัจจุบันบุหรี่ต่างชาติมีส่วนแบ่งตลาดบุหรี่ในประเทศไทยโดยเฉพาะ ส่วนที่ถูกต้องตามระบบประมาณร้อยละ ๑๓ ของยอดจำหน่ายบุหรี่ปีละกว่า 32,000 ล้านมวน ซึ่งยอดจำหน่ายบุหรี่ในปี 2544 โรงงานยาสูบได้ตั้งยอดจำหน่ายไว้ที่ 32,000 ล้านบาท เท่ากับปี 2547
ผู้อำนวยการโรงงานยาสูบ กล่าวถึงปัญหาการบุกตลาดของบุหรี่ต่างชาติว่ามีการทำทั้งรูปแบบของบุหรี่เถื่อนหนีภาษี และผลิตบุหรี่ปลอม ทำให้ได้กำไรมหาศาล ซึ่งทำโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ หากทำใน ประเทศไทยได้ ในประเทศอื่นก็จะมีการทำเช่นกัน--จบ--
-สส-