กรุงเทพฯ--26 พ.ค.--เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป
โคล สโตนฯ ตอกย้ำความเป็นผู้นำไอศกรีมมิกซ์-อินระดับซูเปอร์พรีเมี่ยม จัดแจก "โคล สโตนฯ ฟรี ไอศกรีม เดย์" ปีที่ 2 รุกกิจกรรมออนไลน์เร่งขยายฐานลูกค้า ตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็น Top of mind
โคล สโตน ครีมเมอรี่ (Cold Sotne Creamery) ไอศกรีมมิกซ์-อิน ระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมจากอเมริกา บริหารงานโดย บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด (CRG) ตอกย้ำความเป็นผู้นำไอศกรีมมิกซ์-อินระดับซูเปอร์พรีเมี่ยม จัดแจกฟรีไอศกรีมเป็นปีที่ 2 กับ "โคล สโตนฯ ฟรี ไอศกรีม เดย์" ใน วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2559 เวลา 13:00 น. เป็นต้นไป ทุกสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้นสาขาสนามบินสุวรรณภูมิ)
นางวชิราภรณ์ วานิชชัย ผู้อำนวยการอาวุโส แบรนด์ โคล สโตน ครีมเมอรี่ กล่าวถึง ที่มาและวัตถุประสงค์การจัดแจก "Cold Stone Free Ice-Cream Day 2016" ว่า ทุกๆปี ทางสหรัฐอเมริกาจะถือว่าในเดือนกรกฎาคม เป็น National Ice Cream Month และกำหนดว่า ทุกวันอาทิตย์ที่ 3 ของเดือนกรกฎาคม เป็น National Ice Cream Day ด้วยสาเหตุที่คนอเมริกันมากกว่า 90% มีความชื่นชอบ และนิยมทานไอศกรีมเป็นประจำมากกว่าชาติอื่นๆใดในโลก
ดังนั้น เพื่อเป็นการส่งเสริม National Ice Cream Month เราจึงมีการจัดแคมเปญ Cold Stone Free Ice Cream Day เช่นกัน และปีนี้เป็นปีที่ 2 ของกิจกรรมดังกล่าว จึงเพิ่มความพิเศษมากยิ่งขึ้น โดยขยายช่วงเวลาในการจัดกิจกรรมเป็นระยะเวลา 2 เดือน คือ ตั้งแต่เดือนมิถุนายน – กรกฎาคม โดยใน วันที่ 10 มิ.ย. 59 ตั้งแต่เวลา 13.00 น. เป็นต้นไป ทางแบรนด์ โคล สโตนฯประเทศไทยจะจัด Event ใหญ่ ให้ลูกค้าได้อร่อยกับไอศกรีมมิกซ์-อิน ระดับซูเปอร์พรีเมี่ยม ฟรี..!! พร้อมกันทุกสาขาทั่วประเทศ (ยกเว้นสาขาสนามบินสุวรรณภูมิ) โดยเลือกระหว่างรสช็อกโกแลตดีโวชั่น หรือ อาวเออร์ สตรอว์เบอร์รี บลอนด์ ซึ่งในปีนี้ได้เพิ่มจำนวนการแจกเป็น 355 โคนต่อสาขา เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่สนับสนุนแบรนด์ด้วยดีมาตลอดระยะเวลา 6 ปี และนอกจากการแจกไอศกรีมในวันดังกล่าวแล้ว เรายังจัดเต็มด้วยโปรโมชั่นส่วนลดสุดพิเศษ ทุกสินค้า ถึง 20% ตลอดเดือนมิถุนายน – กรกฎาคม และล่าสุดเราได้เพิ่มช่องทางการโปรโมท Cold Stone Free Ice Cream Day ปีที่ 2 นี้ ในรูปแบบกิจกรรมออนไลน์ ด้วยเพลงใหม่ที่แต่งขึ้นเพื่องาน Cold Stone Free Ice cream Day ในปีนี้โดยเฉพาะ มีชื่อเพลงว่า "วันว่าง (Free Day)" ซึ่งได้ศิลปินเน็ตไอดอลชื่อดัง "Kanomroo" มาช่วยสร้างสีสัน ฝากเสียงร้องใสๆ ในเพลงนี้ ซึ่งนอกจากเพลงดังกล่าวแล้วลูกค้ายังสามารถมาร่วมสนุกกับกิจกรรมเพื่อลุ้นรับของรางวัลทาง Facebook ColdStone Thailand ได้อีกด้วย
ด้านภาพรวมของตลาด Ice cream Chain Store มีมูลค่ารวมโดยประมาณอยู่ที่ 6,800 ล้านบาท โดยคาดว่าในปี 59 นี้จะเติบโตได้ไม่น้อยกว่า 9% (การคาดการณ์จาก CRG) สะท้อนจากตัวเลขของยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ระบุว่า ในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาตลาดไอศกรีมไทยเติบโตไม่น้อยกว่าปีละ 6%
ในขณะที่ภาพรวมของ โคล สโตนฯ ในครึ่งปีแรกเติบโตขึ้นจากปี 58 มากกว่า 40% ส่วนหนึ่งมาจากการที่ภาครัฐได้ทำการกระตุ้นกระแสการจับจ่ายในช่วงต้นปีที่ผ่านมา จึงมั่นใจว่าในปี 59 นี้โคล สโตนฯ จะสามารถเติบโตได้มากกว่า 40% อย่างแน่นอน ซึ่งหากภาพรวมเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ทางแบรนด์มีการคาดการณ์ตัวเลขยอดขายในอีก 5 ปีข้างหน้า ว่าจะมากกว่า 500 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าก้าวขึ้นเป็น Top of mind ของไอศกรีมระดับซูเปอร์พรีเมี่ยม ซึ่งปัจจุบันเราเป็นที่ 1 สำหรับกลุ่มตลาดไอศกรีมมิกซ์-อิน ระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมอยู่แล้ว
หากเทียบกับภาพตลาดรวมถือว่า โคล สโตนฯ มีการเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด เนื่องจากเราทำการพัฒนาสินค้าใหม่ที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากขึ้น, มีการนำเสนอไอศกรีมขนาดพิเศษในราคาที่เหมาะสมกับช่วงเศรษฐกิจภายในประเทศที่เปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับการพัฒนาสินค้าตามฤดูกาลอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้กว้างขึ้น และในครึ่งปีหลัง เราก็คาดการณ์ว่าจะเติบโตมากขึ้นกว่าครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน โดยปัจจุบันอัตราการบริโภคไอศกรีมของคนไทยจะอยู่ที่ 2 ลิตร/คน/ปี ซึ่งน้อยกว่าอัตราการบริโภคของคนอเมริกาที่จะอยู่ที่ 15 ลิตร/คน/ปี (ข้อมูลจาก Positioning ม.ค. 58)
สำหรับกลยุทธ์ในปี 59 "โคล สโตนฯ" วางงบประมาณด้านการตลาดไว้มากกว่า 15 % จากยอดขาย เรายังคงเน้น การทำการตลาดเชิงรุกมากขึ้นทั้ง Above the line และ Below the line โดยเน้นการทำการตลาดทั้ง offline and online marketing ในส่วนของการตลาดออนไลน์ เราทำผ่านสื่อโซเชียลมีเดียหลากหลายช่องทาง อาทิ เฟซบุ๊ก (Facebook), อินสตาแกรม (Instagram), และยูทูบ (YouTube) โดยได้มีการจัดแคมเปญโปรโมชั่นราคาพิเศษ และจัดกิจกรรมการตลาดต่างๆ เพื่อให้ผู้บริโภคได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีการออกบูธตาม Event ต่างๆ ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีขนาด และราคาเหมาะสมกับกลุ่มผู้บริโภคคนไทย ซึ่งเป็นการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องจากปีก่อนๆ จะเห็นได้ว่า ปัจจุบันลูกค้าสามารถทานไอศกรีมที่มีคุณภาพได้ในราคาเพียง 55 - 65 บาท เท่านั้น ซึ่งราคานี้ไม่สามารถหารับประทานได้ในระดับคุณภาพพรีเมี่ยมจากแบรนด์อื่นๆได้ รวมทั้งการพัฒนาสินค้าใหม่ที่เราจะมีการ Launch สินค้าใหม่ทุกๆ 2 เดือน เราก็มีการปรับราคา โดยเน้นโปรโมทเป็นไอศกรีมโคนในราคาเริ่มต้นเพียง 89 บาทเท่านั้น และนอกจากนี้เรายังเน้นการทำการตลาด Delivery and Catering ซึ่งปัจจุบันได้รับการตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี จากหน่วยงานเอกชน และบุคคลทั่วไป และในส่วนของช่วงปลายไตรมาสที่ 2 เราจะมีการ Launch ไลน์สินค้าใหม่ของแบรนด์อีกถึง 8 ตัว ซึ่งจะช่วยเพิ่มความหลากหลายในไลน์สินค้า ที่จะทำให้ทั้งลูกค้าเก่า และลูกค้าใหม่สามารถเข้าถึงสินค้าของเราได้ง่ายขึ้น สามารถทานไอศกรีมระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมในราคาที่ย่อมเยาว์มากขึ้นอีกด้วย
ประมาณการณ์สัดส่วนช่องทางการจัดจำหน่าย "โคล สโตน ครีมเมอรี่" ปี 2558 - 2559
ช่องทางการจัดจำหน่าย /สัดส่วนการขาย ปี 58 /ประมาณการณ์สัดส่วนการขาย ปี 59
1. Cold Stone Shop85%80 %
2. Mobile Outlet 5%8 %
3. Delivery5%6 %
4. Catering5%6 %
สำหรับการขยายสาขา "โคล สโตนฯ" ได้ตั้งเป้าการขยายสาขาเพิ่มอีกประมาณ 4 – 5 สาขา ปัจจุบันมีสาขาทั้งหมด 19 สาขา โดยแบ่งเป็นในกรุงเทพ 17 สาขา และต่างจังหวัด 2 สาขา และจะมีการเปิดสาขาอื่นๆเพิ่มใน location ที่มีศักยภาพและตรงกลุ่มเป้าหมาย โดยภายในสิ้นปี 59 แบรนด์ Cold Stone Creamery จะมีสาขาในประเทศไทยอย่างน้อย 23 สาขา
สาขา โคล สโตนฯ /สาขาที่จะเปิดเพิ่มในปี 59
กรุงเทพฯ 17ต่างจังหวัด 2สาขาที่จะเปิดเพิ่มในปี 59 4 – 5 สาขา
รวมจำนวนสาขา ภายในสิ้นปี 59 ราว 23 สาขา/ประมาณการณ์ขยายสาขาในปี 60ปีละ 4 – 5 สาขา
นางวชิราภรณ์ กล่าวถึงสภาวะการแข่งขันในตลาดไอศกรีมว่า ตลาดไอศกรีมมีการแข่งขันค่อนข้างสูง เพราะนอกจากตลาดไอศกรีมทั้งกลุ่มแมส, พรีเมี่ยม, ซูเปอร์พรีเมี่ยมแล้ว ปัจจุบันยังมีแบรนด์ในกลุ่มเบเกอรี่ ที่มีการนำไอศกรีมไปเป็นส่วนประกอบของเมนูต่างๆ ก็ทำให้ผู้บริโภคมีทางเลือกสำหรับของหวานมากขึ้น แต่ในส่วนของแบรนด์ "โคล สโตนฯ" เราก็พยายามเน้นพัฒนารสชาติของไอศกรีม และกลุ่มสินค้าใหม่ๆ ที่เข้ากับแบรนด์ และลูกค้าของเราเพื่อให้ลูกค้าไม่เกิดความรู้สึกเบื่อ และรู้สึกอินเทรนด์ตลอดเวลาที่ได้เข้าร้านเรา
ด้านกิจกรรมเพื่อสังคม CSR (Corporate Social Responsibility) "โคล สโตน ครีมเมอรี่" มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมอย่างต่อเนื่อง โดย "โคล สโตนฯ" ถือเป็นผู้ริเริ่มจัดแจกไอศกรีมมิกซ์-อินระดับซูเปอร์พรีเมี่ยม และจะดำเนินกิจกรรมนี้ต่อเนื่องต่อไป และนอกจากนี้ตลอดระยะเวลากว่า 6 ปี ที่ "โคล สโตนฯ" ดำเนินกิจการที่ประเทศไทย เราได้มีส่วนร่วมตอบแทนสังคมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการนำไอศกรีมไปมอบให้กับน้องๆ ในมูลนิธิบ้านเด็กต่างๆ พร้อมกับร่วมสนับสนุนอาหารกลางวัน ร่วมกับแบรนด์อื่นๆในเครือ CRG อย่างต่อเนื่อง และในปีนี้ เราจะมีกิจกรรมที่เชิญชวนลูกค้ามาร่วมคิดค้นไอศกรีมสูตรพิเศษผ่านทางกิจกรรมออนไลน์ และนำมาต่อยอดโดยการนำมาจำหน่ายจริง แล้วจะนำรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายมอบให้กับมูลนิธิเด็กต่อไป นางวชิราภรณ์ กล่าวในตอนท้าย
ข้อมูลเกี่ยวกับ "โคล สโตน ครีมเมอรี่" Cold Stone Creamery ในประเทศไทย
Cold Stone Creamery ในประเทศไทยได้ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2553 บริหารงานโดย บริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป (ซีอาร์จี) จำกัด รับสิทธิ์เป็นผู้ประกอบการ ไอศกรีม โคล สโตน ครีมเมอรี่ ไอศกรีมมิกซ์-อิน ระดับซูเปอร์พรีเมี่ยม จากประเทศสหรัฐอเมริกา โดย "โคล สโตนฯ" ถือเป็นหนึ่งในผู้นำตลาดไอศกรีม มิกซ์-อิน ระดับซูเปอร์พรีเมี่ยมของประเทศไทย
กลุ่มลูกค้าหลัก : คนทำงานตอนต้น ช่วงอายุตั้งแต่ 20 – 35 ปี เป็นกลุ่ม B+ มีกำลังซื้อ
กลุ่มลูกค้ารอง : กลุ่มที่มีอายุน้อยลง นักเรียน วัยรุ่น นักศึกษา ไปจนถึงกลุ่มครอบครัว
ปัจจุบัน "โคล สโตนฯ" มี 19 สาขา โดยแบ่งเป็น กรุงเทพฯ 17 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล เวิลด์ชั้น 6, เซ็นทรัล บางนา ชั้น 2, เซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ ชั้น1, เซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 2, เซ็นทรัล พระราม 9 ชั้น 6, เซ็นทรัล พระราม 2 ชั้น 1,เมกา บางนา ชั้น 2, เซ็นทรัล พระราม 3, แพลทินัม แฟชั่นมอลล์, สยามพารากอน ชั้น 4, สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 Concourse F, เซ็นทรัล พลาซ่า เวสต์เกตต์ ชั้น 1, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ชั้น 2, เซ็นทรัล เฟสติวัล อีสต์วิลล์ ชั้น 1 โซนเอาท์ดอร์, เดอะ พรอมานาด ชั้น 2 โซนน้ำพุ, เดอะมอลล์ บางกะปิ ชั้น 3 และสาขาใหม่ล่าสุด เทอร์มินอล 21 และต่างจังหวัด 2 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัลเฟสติวัล เชียงใหม่ ชั้น 1, เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ ชั้น 2
ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.coldstone.co.th, Facebook: ColdStoneThailand
โคล สโตน ครีมเมอรี่ แบ่ง Product Line เป็น 3 ประเภท
1. สินค้าไอศกรีม ซึ่งเป็นสินค้าหลักในการทำยอดขายของร้าน ในร้านเราก็จะแบ่งเป็น 2 พวกคือไอศกรีม Signature Creations มีทั้งหมด 20 รสชาติ ซึ่งเป็นรสชาติที่คิดค้นสูตรมาแล้วว่าจะต้องถูกปากกับคนในทุก ๆ ชาติอย่างแน่นอน และ ไอศกรีม Custom Creations เป็นไอศกรีมที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกมิกซ์ แอนด์ แมทช์ไอศกรีมได้ตามสไตล์ของตนเอง
2. เครื่องดื่ม ซึ่งทางเราพยายามหาเครื่องดื่มใหม่ ๆ ให้ลูกค้าได้ลิ้มลองกัน เพราะอยากให้ลูกค้ารู้สึกว่าเรามีสินค้าให้เลือกหลากหลาย มาที่ร้านเราจะไม่ได้มีแค่ไอศกรีมให้ทานอย่างเดียว แต่มีสินค้าอื่น ๆ ด้วย อย่างเครื่องดื่มก็จะมีหลายประเภท เช่น กาแฟสด , Shake, Smoothie, Healthy Drink ซึ่งเป็นสินค้าที่เราเพิ่ง Launch ใหม่ คือ Citrust Honey และ Mixed Cranberry
3. ไอศกรีมเค้ก เรามีทั้งเค้ก 8 นิ้ว 6 นิ้ว และ 4 นิ้ว ซึ่งในปีนี้ทางเราพยายามที่จะพัฒนาเค้กหน้าใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับลูกค้า เมื่อทานไอศกรีมเค้กร้านเราจะได้รู้สึกไม่เบื่อ สามารถซื้อไปฉลองวันเกิด หรือในโอกาสสำคัญต่าง ๆ ก็สามารถหาซื้อไอศกรีมเค้กเราไปเพิ่มสีสันให้กับงานเลี้ยงของคุณได้
เมนูที่ได้รับความนิยมสูงสุด
แน่นอนว่าต้องเป็นไอศกรีม Signature Creations โดยจะมี 5 รสชาติที่ขายดี คือ
1. Cheesecake Fantasy สำหรับคนที่ชอบทานไอศกรีมชีสเค้ก คู่กับสตรอเบอรี่และบลูเบอรี่
2. Chocolate Devotion สำหรับคนชอบทานไอศกรีมช็อกโกแลตและบราวนี่ย์
3. Coffee Lovers Only สำหรับคนชอบทานไอศกรีมกาแฟ และอัลมอนด์
4. Founder's Favourite สำหรับคนชอบทานไอศกรีมรสสวีทครีมและบราวนี่ และ
5. Strawberry Banana Rendervous สำหรับคนชอบทานไอศกรีมสตรอเบอรี่และกล้วยหอม
เมนูใหม่ๆ ในปี 2559 ของโคล สโตน ครีมเมอรี่ มีอะไรบ้าง
ปกติทางแบรนด์จะมีการคิดค้นสินค้าใหม่ในทุกๆ Season อย่างช่วงต้นปีที่ผ่านมาเราก็มีการออกโปรโมชั่น Mango Greenery สำหรับขายในช่วงซัมเมอร์ ซึ่งมะม่วงเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยมอยู่แล้ว สำหรับฟีดแบคก็ถือว่าดีทีเดียว และเราก็ยังมีการ Launch สินค้าใหม่อย่าง Chic Choco Mint เป็นไอศกรีมสูตรพิเศษ สำหรับคนที่ชอบทานไอศกรีมดาร์ก ช็อกโกแลต และไอศกรีมมินต์ ที่เรามีการพัฒนาขึ้นมาขายในช่วงเดือนพ.ค. – มิ.ย. สำหรับครึ่งปีหลังยังคงเน้นการพัฒนาสินค้าตาม seasonal เหมือนทุกๆปีที่ผ่านมา แต่เน้นการออกสินค้าที่ innovative มากขึ้น และพัฒนาให้มีคุณค่าและแตกต่างจากเดิม