TPCH แย้มข่าวดี ลุ้น!! “โรงไฟฟ้าช้างแรก” เปลี่ยนการอนุมัติขายไฟจากระบบ Adder เป็น ระบบ FiT ตอกย้ำความมั่นใจ! ปีนี้รายได้โต 150% Q1/59 นำร่องสวยกำไรพุ่งถึง 2,217%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday May 26, 2016 16:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 พ.ค.--IR network บมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH) เผย ลุ้นข่าวดี "โรงไฟฟ้าช้างแรก" มีสิทธิได้รับเปลี่ยนการอนุมัติขายไฟจากระบบ ADDER เป็น ระบบ FiT ซึ่งส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 100% เปรียบเสมือนได้โรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มอีกหนึ่งแห่งพร้อมตอกย้ำความมั่นใจ!! ปีนี้รายได้โต 150% หลังไตรมาส 1/59 นำร่องสวย! กำไรพุ่ง 2,217% ด้านผู้บริหารหนุ่มไฟแรง "เชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล" เผยแนวโน้มไตรมาส 2 ผลงานโตต่อเนื่อง ตามจำนวนโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าได้เรียบร้อยแล้ว 3 แห่ง ประกอบด้วย "ช้างแรก ไบโอเพาเวอร์-แม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ - มหาชัย กรีนเพาเวอร์" นายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯ ยังคงคาดว่ารายได้จะเติบโต 150% จากปี 2558 ที่ทำได้ 304.90 ล้านบาท หลังไตรมาส 1/2559 ผลประกอบการออกมาในทิศทางที่ดี โดยมีรายได้รวม 132.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 73.39 ล้านบาท หรือ 124.85% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 58.78 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 31.29 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.94 ล้านบาท หรือ 2,217% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 1.35 ล้านบาท สำหรับแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 2/2559 คาดว่าจะออกมาในทิศทางที่ดีต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเช่นกัน เพราะได้รับปัจจัยบวกจากโรงไฟฟ้าชีวมวล จำนวน 3 แห่ง ประกอบด้วย 1.โรงไฟฟ้าชีวมวลช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ (CRB) กำลังการผลิตเสนอขายจำนวน 9.2 เมกะวัตต์ 2.โรงไฟฟ้าชีวมวลแม่วงศ์ เอ็นเนอยี่ (MWE) กำลังการผลิตเสนอขาย 8 เมกะวัตต์ และ 3.โรงไฟฟ้าชีวมวลมหาชัย กรีน เพาเวอร์ (MGP) กำลังการผลิตเสนอขาย 8 เมกะวัตต์ ที่เดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าได้เรียบร้อยแล้วรวมจำนวน 25.2 เมกะวัตต์ "ปัจจุบันบริษัทฯ มีโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวลอยู่จำนวน 7 แห่ง กำลังการผลิต 106 เมกะวัตต์ โดยแบ่งเป็นโครงการที่ขายไฟฟ้าแล้วจำนวน 30 เมกะวัตต์ โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง จำนวน 30 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนา จำนวน 46 เมกะวัตต์ จึงมั่นใจว่าแผนการก่อสร้างโรงไฟฟ้าชีวมวลให้ได้ 200 เมกะวัตต์ ภายในปี 2563 หรือในอีก 5 ปีข้างหน้าจะทำได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอนและในช่วงที่เหลือของปีนี้คาดว่าจะมีโรงไฟฟ้าชีวมวลที่เดินเครื่องจ่ายไฟ (COD) ได้อีก 1 แห่ง คือ โรงไฟฟ้าชีวมวลทุ่งสัง กรีน" นายเชิดศักดิ์ กล่าวในที่สุด อย่างไรก็ตาม หากนโยบายภาครัฐอนุมัติให้เปลี่ยนการรับซื้อไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าช้างแรก ไบโอเพาเวอร์ จากระบบ Adder เป็นระบบ Feed in Tariff (FiT) จะส่งผลให้บริษัทฯ ได้ค่าไฟเพิ่มขึ้น หน่วยละประมาณ 1.34 บาท หรือส่งผลให้กำไรเพิ่มขึ้นกว่า 70 ล้านบาท และทำให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นถึง 100% เปรียบเสมือนได้โรงไฟฟ้าใหม่เพิ่มอีกหนึ่งแห่งอีกด้วย

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ