กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หัวหน้าคณะผู้แทนไทย นำคณะผู้แทนไทยพร้อมด้วย นางรัตติกุล จันทร์สุริยา เอกอัครราชทูต ณ กรุงมาดริด เข้าร่วมการประชุมคณะมนตรีบริหาร ครั้งที่ 103 ขององค์การการท่องเที่ยวโลก (UNWTO Executive Council-103rd session) ณ เมืองมาลากา ราชอาณาจักรสเปน ซึ่งการประชุมดังกล่าวนับเป็นเวทีแรกของประเทศไทยที่ได้รับเกียรติภายหลังจากที่ประชุมสมัชชาองค์การการท่องเที่ยวโลก (UNWTO General Assembly) ณ ประเทศโคลัมเบีย ได้ประกาศให้ไทยเป็นสมาชิก UNWTO Executive Council นอกจากการประชุมในเวทีสำคัญครั้งนี้แล้ว นายพงษ์ภาณุยังได้มีโอกาสหารือกับ ดร. ทาลิป ริฟาย เลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลก ในมิติด้านการท่องเที่ยวที่สำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไทยมีบทบาทสำคัญและเป็นที่ยอมรับในวงการการท่องเที่ยวโลกมากขึ้นจนได้รับการยกระดับด้านการท่องเที่ยวตามที่ปรากฏในรายงานของ UNWTO พบว่าในปี พ.ศ. 2558 ประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยวอยู่ลำดับที่ 11 ของโลก และมีตัวเลขรายได้จากการท่องเที่ยวเป็นลำดับที่ 6 ของโลก
นอกจากนี้ นายพงษ์ภาณุ ได้กล่าวถึงการเตรียมงานสำคัญในการเป็นเจ้าภาพจัดงานวันท่องเที่ยวโลกของไทย (World Tourism Day 2016) ซึ่งขณะนี้อยู่ในกระบวนการเตรียมความพร้อมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะการดึงบทบาทของทุกภาคส่วนมามีส่วนร่วมในการจัดงานครั้งนี้ และการเชิญวิทยากรชั้นนำของไทยที่เป็นที่ยอมรับในเวทีโลกมาร่วมเป็นวิทยากรงานดังกล่าว ตลอดจนการให้ความสำคัญกับผู้พิการและกลุ่มคนทุกประเภทในการเข้าถึงการท่องเที่ยวในทุกมิติซึ่งสอดรับกับหัวข้อการจัดงาน "การท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล การเข้าถึงที่เท่าเทียม" (Tourism for all, Promoting Universal Accessibility) ยิ่งไปกว่านั้น จากการหารือดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า UNWTO ยินดีให้ความร่วมมือและสนับสนุนช่วยเหลือประเทศไทยในด้านของกระบวนการทางเทคนิค อาทิ การจัดทำแผนพัฒนาการท่องเที่ยวแห่งชาติ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2560-2564) การวางกระบวนการยุทธศาสตร์ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลด้านการท่องเที่ยวโดยยินดีจัดส่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านเทคนิคมาช่วยในการวิเคราะห์และให้ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ รวมถึงการรับเจ้าหน้าที่ด้านการท่องเที่ยวหรือนักศึกษาในการฝึกงานด้านการท่องเที่ยวกับ UNWTO เพื่อพัฒนาและยกระดับบุคคลากรไทยในการประสานติดต่อกับหน่วยงานองค์การชั้นนำด้านการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดีและเป็นประโยชน์ต่อบุคคลเหล่านี้ในการเป็นกระบอกเสียงที่สำคัญในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข่าวสารและภาพลักษณ์ที่ดีด้านการท่องเที่ยวของไทยในอนาคต
ท้ายนี้ นายพงษ์ภาณุ กล่าวขอบคุณเลขาธิการองค์การการท่องเที่ยวโลกและทีมงาน UNWTO ที่ให้การสนับสนุนและให้ความช่วยเหลือประเทศไทยและเป็นมิตรที่ดีกับประเทศไทยมาโดยตลอด ซึ่งประเทศไทยยินดีให้ความร่วมมือและรับฟังข้อแนะนำอันเป็นประโยชน์จาก UNWTO ด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนการท่องเที่ยวไทยให้มีความหลากหลากและมีคุณภาพโดยเน้นความยั่งยืนเป็นหลัก