กรุงเทพฯ--27 พ.ค.--ซีพีเอฟ
ซีพีเอฟสามารถนำอีก 5 โรงงานผ่านการรับรองมาตรฐานแรงงานไทย (มรท. 8001-2553) ระดับสมบูรณ์ขั้นสูงสุด ส่งผลให้ปัจจุบัน ซีพีเอฟมีสถานประกอบการ 7 แห่งที่ได้รับมาตรฐานแรงงานในระดับสูงสุด ตอกย้ำความมุ่งมั่นการเป็นองค์กรที่มีการบริหารอย่างเป็นธรรม ปฏิบัติต่อแรงงานตามหลักสิทธิมนุษยชน เทียบเท่าระดับสากล ทั้งนี้ ตั้งเป้าโรงงานของบริษัททุกแห่งได้มาตรฐานแรงงานไทยในปี 2561
นายสว่าง สุขศรี รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านบริหารทรัพยากรบุคคล บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ กล่าวว่า บริษัทฯ มีนโยบายการบริหารจัดการด้านแรงงานตั้งอยู่บนพื้นฐานสิทธิมนุษยชน โดยนำระบบมาตรฐานแรงงานไทย มาใช้ เพื่อให้แรงงานทุกคนได้รับการคุ้มครองอย่างทัดเทียมเสมอภาคและสอดคล้องมาตรฐานด้านแรงงานสากล และเร็วๆ นี้ สถานประกอบการ 5 แห่งของซีพีเอฟได้รับการรับรองมาตรฐานแรงงานไทยระดับสมบูรณ์ขั้นสูงสุด ส่งผลให้ปัจจุบันซีพีเอฟมีสถานประกอบการ 7 แห่งที่ผ่านมาตรฐานแรงงานระดับสูงสุดนี้
โรงงาน 5 แห่งที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานแรงงานไทยระดับสมบูรณ์ขั้นสูงสุด ได้แก่ โรงงานอาหารสำเร็จรูปแกลง โรงงานอาหารสำเร็จรูปมหาชัย โรงงานผลิตอาหารสัตว์ปักธงชัย โรงงานผลิตอาหารสัตว์ศรีราชา และโรงงานแปรรูปมีนบุรี โดยก่อนหน้านี้สถานประกอบการของซีพีเอฟที่ได้รับรองมาตรฐานแรงงานไทยระดับสมบูรณ์ขั้นสูงสุดมาแล้ว 2 แห่ง ได้แก่ โรงเพาะฟักลูกกุ้งเจอาร์ จังหวัดตราด ปี 2550 และโรงงานแปรรูปไก่นครราชสีมา ปี 2558 ตามลำดับ
"ซีพีเอฟให้ความสำคัญกับการยกระดับการบริหารด้านแรงงานด้วยความรับผิดชอบตามมาตรฐานแรงงานไทย และแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของพนักงานทุกคน การที่สถานประกอบการของซีพีเอฟได้รับรองมาตรฐานมรท. 8001-2553 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของซีพีเอฟที่ปฏิบัติต่อแรงงานทุกคน ทุกเชื้อชาติ ทุกระดับอย่างทัดเทียมเสมอภาค เพื่อให้พนักงานทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีในทุกมิติ สร้างความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว และมีขวัญกำลังใจในการทำงาน" นายสว่างกล่าว
นายสว่างกล่าวต่อว่า บริษัทฯ เดินหน้าส่งเสริมให้สถานประกอบการทุกแห่งปฏิบัติต่อแรงงานสอดคล้องกับมาตรฐานแรงงานไทย ซึ่งเป็นไปส่วนหนึ่งของการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน จึงได้จัดตั้งคณะกรรมการสนับสนุนและส่งเสริมระบบมาตรฐานแรงงานไทย เพื่อขับเคลื่อนให้โรงงานและฟาร์มทุกแห่งทั่วประเทศมีการบริหารงานด้านแรงงานเป็นไปตามข้อกำหนดของมาตรฐาน โดยตั้งเป้าให้สถานประกอบการทุกแห่งของบริษัทสามารถผ่านการรับรองมาตรฐานแรงงานไทย
"สถานประกอบการหลายแห่งของซีพีเอฟ ได้แก่ โรงงานอาหารสำเร็จรูปแกลง โรงงานแปรรูปอาหารมีนบุรี และโรงงานแปรรูปเนื้อไก่นครราชสีมา จัดจ้างแรงงานต่างด้าวทั้งกัมพูชา และเมียนมาทำงาน ดังนั้น การได้รับรองมาตรฐาน มรท. 8001-2553 ยังช่วยตอกย้ำว่าซีพีเอฟมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติต่อแรงงานทุกคนอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียมกัน โดยเฉพาะการดูแลแรงงานต่างด้าว" นายสว่างกล่าว
มาตรฐานแรงงานไทย (มรท.8001-2553) มี 2 ระดับ ได้แก่ ระดับพื้นฐาน และระดับสมบูรณ์ ขณะที่ระดับสมบูรณ์ยังแบ่งความสามารถในการจัดการชั่วโมงการทำงานล่วงเวลาของสถานประกอบการ ออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ ขั้นริเริ่ม ขั้นพัฒนา ขั้นก้าวหน้า และขั้นสูงสุด โดยสถานประกอบการซีพีเอฟทั้ง 7 แห่งที่ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานแรงงานไทยระดับสมบูรณ์ขั้นสูงสุด แรงงานทุกคนสามารถทำงานล่วงเวลาได้ไม่เกิน 12 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
นอกจากนี้ ซีพีเอฟยังมีสถานประกอบการหลายแห่งที่ผ่านการรับรองมาตรฐานแรงงานไทยและสามารถรักษาการดำเนินงานตามมาตรฐานต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน ได้แก่ โรงงานแปรรูปเนื้อไก่บางนา โรงงานผลิตอาหารสัตว์น้ำบ้านพรุ และฟาร์มกุ้งระยอง 3 เป็นต้น
ด้าน นายไพระพงศ์ เฉลียวศักดิ์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ซีพีเอฟ กล่าวว่า การที่โรงงานอาหารสำเร็จรูปแกลง จ.ระยอง ยกระดับสู่มาตรฐานแรงงานไทยระดับสมบูรณ์ขั้นสูงสุด ก่อนหน้านี้โรงงานผ่านการรับรองมาตรฐานแรงงานระดับสมบูรณ์ขั้นพัฒนาต่อเนื่องมาหลายปี มีส่วนช่วยสร้างความมั่นใจให้กับแรงงานทุกคนทั้งไทย เมียนมา และกัมพูชาว่าได้รับการคุ้มครองอย่างทัดเทียมและเสมอภาค ที่สำคัญ การผ่านการรับรองมาตรฐานแรงงานระดับสูงสุดนี้ยังช่วยให้ลูกค้าทั้งไทยและต่างประเทศมีความเชื่อมั่นว่าโรงงานมีการบริหารองค์กรที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมด้านแรงงานได้มาตรฐานระดับสากล.