เกียรตินาคินสรุปผลการดำเนินงานปี 43 และแถลงแผนการดำเนินธุรกิจปี 44 พร้อมเปิดตัวสายงานใหม่เพื่อสินเชื่อ

ข่าวทั่วไป Friday April 27, 2001 10:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--27 เม.ย.--แชนด์วิค อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย)
บริษัทเงินทุนเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) นำโดยนายวิเชียร เจียกเจิม กรรมการผู้จัดการ ได้สรุปผลการดำเนินงานประจำปี 2543 ที่ยังสามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง และแถลงถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2544 เพื่อดำรงผลกำไร พร้อมทั้งได้แถลงเปิดตัวสายงานใหม่ภายใต้ชื่อว่า "สายสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจ" ซึ่งจะเข้ามาส่งเสริมประสิทธิภาพในการบริหารเงินลงทุนในสิทธิเรียกร้อง
ผลประกอบการของ บง.เกียรตินาคิน ในปี 2543 ที่ผ่านมามีผลกำไรผลกำไรจากการดำเนินงาน 1,338 ล้านบาท (โดยนำส่วนขาดทุนที่ยังไม่เกิดจากการลงทุนในสิทธิเรียกร้องจำนวน 1,474 ล้านบาทที่หักจากส่วนผู้ถือหุ้นมารับรู้เป็นรายจ่าย) สำหรับผลประกอบการของไตรมาสแรกของปี 2544 เกียรตินาคินมีผลกำไรจากการดำเนินงาน 386 ล้านบาท โดยมีส่วนขาดทุนของผู้ถือหุ้นลดลง238 ล้านบาท
นายวิเชียร กล่าวว่า "บริษัทฯ ได้คำนึงถึงการเสริมสร้างฐานะทางการเงินให้มีความมั่นคง จึงได้จัดให้มีการดำเนินการเพิ่มทุนโดยผู้ถือหุ้นเดิม เป็นจำนวน 1,155 ล้านบาท เมื่อนับการเพิ่มทุนรวมทั้งหมดของบริษัทฯ หลังจากวิกฤติการณ์ทางการเงินของประเทศเมื่อปี 2540 เป็นจำนวนเงิน 3,041 ล้านบาท ซึ่งนับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทมีความมั่นคง สามารถมีผลประกอบการที่ดีได้จนทุกวันนี้"จากผลการดำเนินงานที่ประสบความสำเร็จด้วยดีในปีที่ผ่านมา นายวิเชียร กล่าวถึงแนวโน้มของธุรกิจในปี 2544 ของเกียรตินาคินว่า "ส่วนของแผนด้านการดำเนินงานของบริษัทฯ ในปี 2544 นี้
บง. เกียรตินาคิน จะยังคงขยายสินเชื่อธุรกิจเช่าซื้อ โดยเน้นที่ตลาดในภูมิภาค สำหรับหนี้ที่ประมูลมาจากองค์การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน (ปรส.) นั้น คาดว่าจะสามารถปรับปรุงโครงสร้างหนี้ส่วนที่คงค้างได้มากขึ้น นอกจากนี้บริษัทฯ ได้ขยายสายงานสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจ ซึ่งให้การสนับสนุนด้านการปรับโครงสร้างหนี้กับสถาบันการเงินเดิม"
โดยนายวิเชียรได้แถลงเปิดตัวสายงานใหม่ในปีนี้ คือ "สายสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจ" ซึ่งจะนำทีมโดยนายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ พร้อมทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารหนี้จำนวน 8 ท่าน โดยทีมงานดังกล่าวจะขึ้นตรงต่อกรรมการผู้จัดการนายวิเชียร กล่าวว่า "เนื่องจากในสองสามปีที่ผ่านมา ทีมงานเกียรตินาคินมีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในธุรกิจบริหารสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก และบริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเจรจาปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับลูกค้าที่ประมูลมาจากปรส.เรียบร้อยไปแล้วกว่าครึ่ง อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ได้เล็งเห็นว่ามีลูกค้าบางกลุ่มทั้งที่เป็นลูกค้าเดิมของบริษัทฯ และกลุ่มลูกค้าที่ธุรกิจที่ยังมีศักยภาพ แต่อยู่ในสภาวะที่ต้องได้รับการฟื้นฟูทางการเงิน ลูกค้ากลุ่มดังกล่าวมักมีความต้องการสินเชื่อที่ซับซ้อนในรูปแบบที่แตกต่างจากการให้สินเชื่อปกติ คณะกรรมการบริษัทฯจึงมีมติให้จัดตั้งสายงานใหม่ เพื่อรองรับความต้องการดังกล่าว"
"ในไตรมาสแรก บริษัทฯ ได้มีการให้สินเชื่อเพื่อขำระหนี้เดิม รวมทั้งให้เงินทุนเพิ่มเป็น 500 ล้านบาท ตลอดจนให้คำปรึกษากับลูกค้าในการแก้ไขปัญหาทางด้านการเงินอย่างครบวงจร ปัจจุบันลูกค้าเริ่มมีผลประกอบการที่มั่นคงขึ้นและมีความสามารถในการชำระหนี้ที่ดีขึ้น สายงานนี้มีลักษณะเป็นเอกเทศเพื่อสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายและมีบุคลากรรองรับที่ชัดเจนขึ้นเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการ"
"อย่างไรก็ดี เช่นเดียวกับการทำธุรกิจทั่วไปที่จะต้องคำนึงถึงผลตอบแทนที่เหมาะสมและการป้องกันความเสี่ยงในระดับที่รับได้ เรื่องการค้ำประกันหรือหลักประกันคงต้องมีเพียงพอ โดยบริษัทฯได้วางแผนที่จะให้บริการสินเชื่อสำหรับโครงการนี้ในปีแรกประมาณ 5,000 ล้านบาท" นายวิเชียร กล่าวสรุป
บริษัทเงินทุน เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) มุ่งดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส ยึดมั่นในจรรยาบรรณ ภายใต้แนวทางของบรรษัทภิบาล (Good Governance) มุ่งเน้นการทำธุรกิจที่บริษัทฯ มีประสบการณ์ และความชำนาญ รวมทั้งการเป็นผู้นำในธุรกิจนั้นๆ เกียรตินาคินจะรักษาไว้ซึ่งความยืดหยุ่นในการทำธุรกิจให้สามารถปรับตัวสอดคล้องกับสภาวะทางเศรษฐกิจ บริหารสินทรัพย์ และหนี้สินให้มีความสอดคล้องด้านระยะเวลา พัฒนาบุคลากรให้มีประสิทธิภาพ และความซื่อสัตย์ สุจริต รวมทั้งนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้มากยิ่งขึ้นต่อไป
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
กฤษณา ทองศักดิ์ / อิชยา ศิริกิจ
บริษัทเงินทุน เกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) โทรศัพท์ 256 9898-99 โทรสาร 2569669 หรือ
นฑาห์ สังขะวัฒนะ
บริษัท แชนด์วิค อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด โทรศัพท์ 257 0300 โทรสาร 257 0312--จบ--
-อน-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ